"น้ามู" รีเทิร์นมารอบนี้ เรียกว่าไม่เบาเลยทีเดียวเมื่อเปิดฤดูกาลพา "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซีเอาชนะ "ฮัลล์ ซิตี้" ไปแบบสบายๆด้วยสกอร์ 2-0 จากประตูของ "ออสการ์" และฟรีคิก 30 หลาของ "แฟร็งค์ แลมพาร์ด" ขึ้นมาติดท็อปโฟว์สบายใจ
พรีเมียร์ลีก
วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2556
เชลซี 2-0 ฮัลล์ ซิตี้ ออกสตาร์ทเกมแรกมา "สิงห์บลูส์" พับสนามบุกอย่างหนักแบบที่ว่าไม่สนอะไรจนมาถึงนาทีที่ 5 "แฟร์นานโด ตอร์เรส" วิ่งมาเอาบอลที่เพื่อนโยนเข้ามาในเขตโทษแล้วใช้หัวแต่งหนึ่งจังหวะแต่แม็คเกรเกอร์นายทวารซุ่มซามวิ่งมาชกบอลแต่โดนหัว"เอล นินโญ่"แทบหลุด จุดโทษทันที
แต่แฟร็งค์ แลมพาร์ดที่รับหน้าที่สังหารกดเปรี้ยงไปมุมเดียวกับที่โจนาธาน วอลเตอร์ยิงซิมง มิโญเลต์เลยเดจาวูแม็คเกรเกอร์พุ่งปัดเอาไว้ได้
หลังพยายามบดอย่างต่อเนื่องนาที 12 เชลซีมาได้ประตูจนได้จากจังหวะที่อาซาร์พาบอลหนีสองผู้เล่นทีมเยือนที่เข้ามาบุบตรงริมเส้นเกือบๆมุมธงสุดท้ายอดีตแข้งลีลล์ลากพาทัวร์ตัดเข้ามาแล้วฝากให้เด บรุนที่เห็นออสการ์วิ่งทำทางเลยแทงลอดดอกกองหลังฮัลล์แล้วเป็นแข้งหน้าหล่อวิ่งมาแหย่บอลก่อนที่แม็คเกรเกอร์จะปรี่มาถึง เชลซี 1-0
บอลมีไหลแน่ๆอีก 2 นาทีต่อมาแลมพ์ได้บอลที่ออสการ์ไหลมาหน้าเขตโทษแล้วเกี่ยวยิงตามน้ำแต่แม็คเกรเกอร์บินปัดข้ามคานออกไปได้ เกมนี้สงสัยคนดูคุ้มแน่ๆ
นาที 25 เชลซีมาได้ลูก 2 ที่สวยงามสุดๆหลังได้ฟรีคิก 30 หลาแล้วแลมพาร์ดวิ่งมายิงซัดกลางลูกบอลพุ่งทะลุช่องที่ผู้เล่นเจ้าถิ่นมาเบียดดันกำแพงบอลพุ่งแล้วฮุบลงแม็คเกรเกอร์งงกระโดดปัดโดนแค่นิ้วโป้งก่อนทะลุแสกหน้าเสียบใต้คานเข้าไปงามฉิบหาย 2-0
ฮัลล์แม้โดนไป 2 แต่เวลาเชลซีได้บอลบุกมาก็รับกันทั้ง 11 ตัวและระวังตัวมากขึ้น อารมณ์ไม่อยากเสียมากไปกว่านี้ในช่วงครึ่งแรก ส่วนเชลซีเองพอเข้าสู่ช่วงท้ายเกมก็เริ่มดึงช้า เกมบุกดีเลย์ลงเลยยังไม่มีจังหวะหวาดเสียวเท่าช่วงต้นเท่าไหร่
ทดเจ็บนาทีแรก"สิงห์ไฮโซ"เกือบมาเช็กบิลลูก 3 หลังแลมพ์คนเดิมได้ส่องในเขตโทษมุมแคบฝั่งขวาแต่แม็คเกรเกอร์ล้มตัวเซฟเอาไว้ได้อีก
ทดเจ็บนาทีสุดท้ายเชลซีพลาดได้ประตูอีกอย่างไม่น่าเชื่อจากจังหวะเตะมุมแล้วอิวาโนวิชขึ้นเทกเต็มๆหัวตรงระยะ 6 หลาแต่แม็คเกรเกอร์ผวาปัดควักบอลออกมาจากเส้นซึ่งฤดูกาลนี้มีเทคโนโลยีโกล์ไลน์เลยสบายกันไปไม่งั้นประท้วงกันวุ่นวาย ไม่ข้ามเส้นจริงๆ หมดครึ่งแรกเชลซีนำชิวๆ 2-0
กลับมาเล่นกันต่อในช่วงครึ่งหลัง "ฮัลล์" เปลี่ยนเปนฝ่ายบุกและครองบอลดีขึ้นค่อนข้างชัดเจนแต่นักเตะที่จะพาไปกับบอลหรือทำเกมนั้นดูแล้วไม่มีเลยทำให้แผงกลางและแนวรับเชลซียังตามกัดไม่ปล่อยทุกจังหวะ
ลุล่วงเข้าสู่นาที 63 นานมากแล้วที่ผู้รักษาประตูทั้งสองฝั่งยังไม่ได้เซฟอะไรเลยแต่ไม่ทันขาดคำโรเบิร์ต โคเรนลองยิงไกลบอลตรงตัวแต่รับกระฉอกนิดนึงแต่ไม่มีใครมาซ้ำ นี่เป็นการเซฟหนแรกของนายทวารร่างโย่งผู้นี้ด้วย
อีก 2 นาทีต่อมาเป็นช่วงวิกฤติของเชลซีหลังเสียเตะมุมแล้วบอลขลุกขลิกในเขตโทษตรงระยะ 7-8 หลายิงติดบล็อกสองสามหนแล้วถูกบอลเข้ามาใหม่อีก 2 ทีแต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเช็กกระโดดคว้ารอดกันไป
นาที 73 ฮัลล์เกือบตีไข่แตกหลังอัลโมฮัมมาดี้กองหลังดันขึ้นมาจังหวะที่ทีมได้ฟรีคิกก่อนพรวดเข้ามาโขกตัดหน้าอิวาโนวิชบอลพุ่งน่ากลัวแต่ไปตรงตัวเช็กที่รับเข้ามือหนึบ
อีก 2 นาทีต่อมาเชลซีโชว์ซูเปอร์ทีมเวิร์คหลังอิวาโนวิชสาดบอลจากแบ็คขวาให้ลูกากูที่เพิ่งลงแทนตอร์เรสแตะบอลย้อนให้รามิเรสเบิ้ลแทงทะลุช่องให้ชูร์เล่วิ่งหลุดกำลังจะเข้าเขตโทษแล้วเห็นแม็คเกรเกอร์อ่านเกมวิ่งออกมาจะเล่นเลยกระดกข้ามหัวแต่บอลแรงไปหน่อยข้ามคานนิดเดียว
พอลูกากูลงมาเกมเปลี่ยนเลยเพราะได้ถึกได้ลูกทนมือทนตีนนาที 79 หลุดเบียดไปถึงเส้นหลังแล้วเปิดเข้าในแบบกึ่งยิงกึ่งผ่านแต่กองหลังฮัลล์โขกเคลียร์ทิ้งได้ก่อน
ก่อนหมดเวลา 10 นาทีเชลซีได้ฟรีคิก 25 หลาและเป็นแลมพ์คนเดิมรวมทั้งทริคนักเตะเชลซีเข้าไปแหวกกำแพงแบบเดิมๆ ท่ายิงเดิมๆ แต่คราวนี้พุ่งเข้ามุมเฉี่ยวสามเหลี่ยมหนาวขี้กันไป
ท้ายเกมเชลซีเผาเวลาเพราะไม่อยากเอาแล้ว มีเกมกลางสัปดาห์รออยู่ด้วยสุดท้ายเอาชนะ 2-0 ประเดิมนัดแรก 3 แต้มอยู่อันดับ 4 สวยงาม