"เวย์น รูนี่ย์" หัวหอกสุกรโลกันฑ์ในเกมนี้ได้กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้ง แต่ว่า "ทัพผี" ก็เอาชัยเหนือ "สิงห์บลูส์" ไม่ได้ ถึงแม้จะผลัดกันบุกสมน้ำสมเนื้อก็ตามทำให้เสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0 ในเกมมันเดย์ไนท์
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด
วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม 2556
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 เชลซี เปิดฉากเริ่มเกมมันเดย์ไนท์มาช่วงแรกทั้งสองทีมยังไม่ได้ผลีผลามอะไรบุกกันหนักอะไรนักผลัดกันครองบอลไปโดยทางเชลซีได้ทักทายพวกเขาก่อนจากเดอ บรุนพาบอลมาทางขวาก่อนเปิดเข้าไปในเขตโทษ เฟอร์ดินานด์ยังสกัดออกมาแต่เข้าทางของออสการ์ยิงสวนแบบไม่จับเลยยังดีไม่หนีตัวเด เกอารับเข้าซองเอาไว้ได้
เกมยังไม่มีอะไรคืบหน้ากว่าเดิมเท่าไหร่นักการครองบอลก็เกือบจะพอๆกันเป็นเจ้าบ้าน"ปิศาจแดง"ได้ครองบอลมากกว่านิดหน่อยแต่จังหวะจบยังไม่มาซักที ส่วนเชลซีได้ลองอีกแล้วจากการยิงไกลของอิวาโนวิชแต่ก็ทำอะไรได้ไม่มากยิงหลุดขึ้นอัฒจันทร์ไปเอง
ยังเป็นทาง"สิงห์บลูส์"ได้ลุ้นต่อไปจากจังหวะนี้อาซาร์พาบอลไปทางริมเส้นซ้ายแล้วตอกส้นคืนกลับมาให้ชูร์เล่ก่อนจะฝากมาตรงกลางถึงเดอ บรุนแล้วเบิ้ลทีเดียวให้ออสการ์สอดขึ้นมาหน้าเขตโทษก่อนจะตัดสินใจยิงเลยแต่บอลก็ติดไซด์ก้อยปลิ้นหลุดออกหลังไปอีก
นาที 23 ทางแมนฯ ยูไนเต็ดได้โอกาสลุ้นบ้างแล้วจากจังหวะที่รามิเรสจับบอลไม่ได้ดูเจอคาร์ริคมาแซะจากด้านหลังเข้าทางของฟาน เพอร์ซี่พักอกก่อนกระดกหลบอิวาโนวิชมาได้เข้าเขตโทษแต่โดนบังทางอยู่โดยอิวาโนวิชเลยเลี้ยงหาช่องทางซ้ายอีกทีก่อนซัดมุมแคบยังเข้าเพียงแค่ข้างตาข่าย
เกมเริ่มจะดูเร่งสปีดขึ้นแล้วจนมีจังหวะที่แมนฯ ยูไนเต็ดได้ลุ้นอีกจากบอลที่ฝากมาให้กับเคลฟเวอร์ลี่ย์และเลือกจ่ายต่อให้รูนี่ย์หน้าเขตโทษพลิกเข้าหาประตูแต่เจอบังอยู่เลยพยายามลองแตะเข้าขวาก่อนจะเลือกยิงสุดท้ายเบาไปเช็กเลยล้มตัวรับไว้ได้ไม่มีปัญหา
เข้าใกล้ครึ่งเวลาแรกไปทุกขณะและยังเป็นแมนฯ ยูไนเต็ดที่ดูรุกวูบวาบอย่างต่อเนื่องจากจังหวะที่ขึงบอลกันอยู่หน้าเขตโทษเชลซีก่อนบอลจะหลุดมาถึงโจนส์ทางขวาพาบอลขึ้นมาเองเลยก่อนตบเรียดเข้าในโดนสกัดออกไปถึงเคลฟเวอร์ลี่ย์หน้าเขตโทษวิ่งมากดด้วยซ้ายแต่ยังซัดข้ามคานออกไปไม่เท่าไหร่
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก 2 นาทีทางเชลซีก็ทำเกมกันได้จบส่งท้ายจากบอลที่ไปตัดได้ในฝั่งเชลซีก่อนพยายามจะฝากให้กับเดอ บรุนทางซ้ายแล้วโจนส์เข้ามาช่วยสกัดไว้ บอลยังไปตกอยู่กับอาซาร์ตรงหัวกะโหลกพอจับได้ก็ตัดสินใจสับไกเลยแต่ก็ยังเบาไปแถมตรงตัวเด เกอาด้วยรับไว้สบายทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอกันไปอยู่ 0-0
ลงสนามกลับมาเล่นกันต่อเกมในช่วงหลังเป็นของแมนฯ ยูไนเต็ดเหมือนเดิมที่บุกกดดันอย่างต่อเนื่องแล้วมีจังหวะได้จบอีกแล้วจากเอฟร่าพาบอลขึ้นมาริมเส้นแล้วหักตัดเข้าในมีตัวเข้ามาแย่งแต่ยังแหย่ต่อให้รูนี่ย์ได้หน้าเขตโทษไม่มีมุมยิงแต่ยังจ่ายฝากให้เวลเบ็คในเขตโทษพลิกจนมีช่องได้จบก่อนจะซัดหลุดกรอบไปเองสุดท้ายก็ยิ้มเขินๆกันไป
นาที 59 ฝั่งเชลซีก็มาขึงบอลได้ลุ้นเหมือนกันจากบอลถ่ายกันไปมาก่อนออกไปทางซ้ายให้กับชูร์เล่ยืนริมเส้นเลือกเลี้ยงตัดเข้าในมาหน้าเขตโทษจนหาช่องยิงได้ก่อนติดบล็อกแล้วมาเข้าทางของเคฮิลล์ตัดสินใจยิงจากระยะ 35 หลาแต่เด เกอายังพุ่งรับเข้าซองไม่มีปัญหา
แอบเสียวกันทั้งโอลด์ แทรฟฟอร์ดเมื่อเชลซีเล่นจังหวะนี้ได้ซี๊ดเลยเป็นบอลตัดแนวรับให้กับชูร์เล่ทางขวาหลุดเดี่ยวไปก่อนจะได้ยิงด้วยขวาผ่านเด เกอาไปแล้วก่อนพุ่งชนคานเต็มใบก่อนสุดท้ายท่านเปาจะเป่าให้เป็นจังหวะล้ำหน้าไปซึ่งก็ล้ำเพียงแค่ครึ่งก้าวเท่านั้น
แล้วมีจังหวะที่ฝั่ง"ปิศาจแดง"เรียกจุดโทษกันทั้งสนามด้วยจากจังหวะที่เคลฟเวอร์ลี่ย์ได้ยิงในเขตโทษแต่บอลไปติดแขนของแลมพาร์ดที่กางออกมาเต็มๆสุดท้ายแอตกินสันไม่ได้เป่าให้เป็นจุดโทษแต่อย่างใด
ฝั่งเชลซีเองก็หวังจะได้จุดโทษเหมือนกันจากจังหวะที่โคลได้ทำชิ่งแตะลอดขาโจนส์เข้าเขตโทษไปได้ก่อนมีมือโจนส์เกี่ยวไว้นิดเดียวแล้วโคลก็ล้มลงแต่ไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่แอตกินสันก็โบกมือไม่ให้เช่นกัน
เข้าช่วง 15 นาทีสุดท้ายแล้วเกมของเชลซีดีขึ้นมาในช่วงก่อนหน้านี้แต่ยังเจาะแนวรับของ"ปิศาจแดง"ไม่เข้า ส่วนเจ้าบ้านก็ได้ลองลุ้นอีกทีในจังหวะที่เวลเบ็คฝากบอลให้กับรูนี่ย์ก่อนแต่งเข้ามุมถนัดแล้วสับไกบอลพุ่งหาเสาซ้ายมือแต่เช็กยังเอื้อมปัดออกหลังไปได้
เข้าท้ายเกมช่วง 5 นาทีสุดท้ายแม้จะนิ่งไปหน่อยแต่ยังมีจังหวะให้ลุ้นของเจ้าบ้านจากบอลเปิดของโจนส์เข้าเขตโทษโดนโหม่งเคลียร์แต่ยังไม่ไปไหน ยังโหม่งซ้ำมาตรงกลางที่ฟาน เพอร์ซี่วิ่งเข้ามาวอลเล่ย์ด้วยขวาติดบล็อกมาเข้าทางของเอฟร่าอีกทีได้ยิงซ้ำเข้าไปก็หลุดกรอบไปอีก
แล้วก็จบเกมไปแบบจืดซักหน่อยแมนฯ ยูไนเต็ดเสมอกับเชลซีไป 0-0 ทำให้พวกเขายังอยู่ในอันดับ 4 มี 4 แต้มจากการเล่นมา 2 นัดส่วนเชลซีก็มีอยู่ 7 คะแนนนำจ่าฝูงโดยแข่งมากกว่าทีมที่ตามหลังมานัดนึง เกมหน้าทาง"ปิศาจแดง"จะไปทำศึกแดงเดือดกับลิเวอร์พูล ส่วน"สิงห์บลูส์"รอเล่นยูฟ่า ซูเปอร์ คัพกับบาเยิร์น มิวนิควันศุกร์นี้
