เป็นธรรมเนียมธรรมดาหลังจบเกมการแข่งขันครับที่จะมีสื่อเข้าไปสัมภาษณ์ผู้จัดการทีมของทั้งสองฝั่ง โดยที่แบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือของทีมผู้ชนะนั้นชี้ให้เห็นว่าที่พวกเขาสามารถเอาชนะทีมผีแดง แมนฯยูไนเต็ดได้นั่นเป็นเพราะเรื่องของหัวจิตใจหัวใจของนักสู้ที่อยู่ในตัวของนักเตะหงส์แดง โดยเฉพาะในแง่ของการเล่นเกมรับ นักเตะหงส์แดงทุกคนตั้งใจ มุ่งมั่น จึงได้รางวัลตอบแทนเป็นผลการแข่งขันที่สวยหรูเช่นนี้ กับอีกหนึ่งสิ่งก็คือการทำงานอย่างหนักของพวกเขาในช่วงปรีซีซั่น คือร็อดเจอร์สพยายามอธิบายว่าในช่วงปรีซีซั่นนั้นนักเตะหงส์แดงทำงานหนัก ทุ่มเทฝึกซ้อม และลงแข่งขันกับทีมต่างๆ
จนสิ่งที่ทำนั้นส่งผลลัพธ์ออกมาในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลอย่างที่เห็นนี้ โดยเจ้าตัวนั้นบอกว่ามีรู้ภาคภูมิใจในตัวลูกทีมทุกคนจริงๆที่สามารถทำผลงานอันยอดเยี่ยมออกมาได้ทั้งในเกมลีกสามนัด และเกมแคปปิตอลวันคัพอีกหนึ่งนัด อย่างไรก็ตามทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ของแบรนแดน ร็ฮดเจอร์สจะยึดตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษต่อไปอย่างน้อยอีกประมาณสองสัปดาห์กว่าที่พรีเมียร์ลีก อังกฤษนัดที่ 4 ของฤดูกาลจะกลับมาคิกออฟกันอีกครั้ง ด้วยระหว่างสองสัปดาห์นี้ฟุตบอลลีกของอังกฤษจะพักการแข่งขันเพื่อหลีกทางให้กับฟุตบอลทีมชาติที่มีคิวแข่งขันรายการฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ส่วนแมทการแข่งขันในลีกของลิเวอร์พูลแมทต่อไปนั้น ถือว่าไม่ใช่งานง่ายเลย โดยพวกเขาจะต้องยกพลไปเยือนลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม ของสวอนซี ซิตี้
ที่เพิ่งโชว์ฟอร์มได้สวยงามด้วยการเอาชนะทางด้านเดอะแบ็กกี้เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยนไป 2-0 ส่วนแมนฯยูไนเต็ดที่เพิ่งผ่านพ้นศึกแดงเดือดกับลิเวอร์พูลไปนั้นเจองานง่ายๆด้วยการต้อนการมาเยือนของทีมปราสาทเรือนแก้ว คริสตัน พาเลซ น้องใหม่ประจำพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งคาดว่าน่าจะเก็บสามคะแนนเต็มชดเชยจากความพ่ายแพ้ที่ทำให้ทีมไร้แต้มในแมทแดงเดือดได้อย่างสบายๆ