จะไปโทดใครได้ก็ทำตัวเองเองสำหรับ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ที่เกมรุกก็มองดูดีอยู่แต่ก็ไปพลาดท่าปล่อยให้ "ฮุนเตลาร์" ได้ลั่นไปก่อนจะมาโดนตอกฝาโลงจาก "อเฟลลาย" พ่ายคาบ้านต่อ "ราชันสีน้ำเงิน" ชาลเก้ ไป 2-0 เสียซิงเวทียุโรปปีนี้เลย
แชมป์เปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม บี
วันพุธที่ 24 ตุลาคม 2555
อาร์เซนอล 0 - 2 ชาลเก้
สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี๊ยม เปิดฉากเจ้าบ้าน "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล เปิดเกมรุกใส่ชาลเก้ก่อนเลย โดยมากแล้วบอลจะค่อนข้างขึ้นทางฝั่งซ้ายซะส่วนใหญ่ แต่รวมๆก็ยังไม่ได้กดดันแนวรับของทีมเยือนมากนัก
นาทีที่ 14 ไม่เนียนเท่าไหร่เลยโดนดชื่อซะเลยสำหรับอเฟลลายกับจังหวะที่เขาได้โอกาสจิ้มบอลหนีมันโนเน่ในกรอบเขตโทษ ก่อนจะโดนสะกิดตามสูตร แต่จังหวะมันไม่ได้รุนแรงนัก เจ้าตัวทิ้งตัวล้มลงในกรอบเขตโทษพรอมร้องขอความเห็นใจ แต่ผู้ตัดสินให้แค่ใบเหลืองไปพ่วงกับข้อหาพุ่งล้มแทน
นาทีที่ 23 จังหวะสุดท้ายยังไม่มาอยู่เหมือนเดิมสำหรับอาร์เซนอล แม้ว่าแชร์วินโญ่จะได้โอกาสพาบอลเลี้ยงจี้เข้ากรอบเขตโทษ มีตัวดักอยู่แค่คนเดียว แต่จังหวะตัดเข้าในดันโดนซ้อนเลยจบเลย
นาทีที่ 32 ถือว่าพลาดและแก้ตัวได้ทันควันเลยสำหรับแมร์เตซัคเกอร์ที่ดันไปจ่ายบอลหน้าประตูตัวเองให้มันยุ่งยาก ยกบอลให้เพื่อนหวังเล่นต่อจนโดนชาลเก้ตัดได้ ก่อนที่ฟาร์ฟานจะมีโอกาสล็อกยิงเหน่งๆในกรอบเขตโทษ แต่เจ้าตัวก็กลับมาพุ่งบล็อกเอาไว้ได้ทัน
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย เกมนี้เหมือนฉายหนังวนเพราะรูปแบบเกมตั้งแต่ต้นจนกำลังจะจบนี้เหมือนกันแทบทั้งหมด อาร์เซนอลได้ครองบอลแต่บุกไม่ถึงที่สุด ชาลเก้ได้สวนแต่ก็ไม่ถึงไหน โอกาสยิงถือว่าน้อยเอามากๆ
นาทีที่ 43 ระดับนี้แล้วไม่น่าพลาดเหมือนกันสำรหับฮุนเตลาร์ กับจังหวะที่ชาเก้สวนเร็ว โยนบอลยาวไปให้กับอูชิดะทางด้านขวา ก่อนที่จะบรรจงเปิดเลียดใส่พานให้กับฮุนเตลาร์เข้าฮอสที่เสาแรก แต่เขากลับแปบอลหลุดออกหลังไปซะได้
จบ 45 นาทีแรก ทั้งสองทีมยังคงเสมอกันอยู่ที่สกอร์ 0-0 คงต้องปรับเรื่องมิติในเกมรุกและจังหวะสุดท้ายกันหน่อย โดนเฉพาะเจ้าบ้านที่ทำไม่ได้จนเกือบโดนดี
ต่มาในช่วงครึ่งหลังได้เพียงไม่กี่นาที ก็มีโอกาสลองส่องประตูกันทั้งสองทีมเลย อาร์เซนอลได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่โคเกอร์แล็งน์เล่นฉลาดใช้หัวแต่บอลหนีกองหลงเข้าไปเปิดเน้นๆในเขตโทษแต่จังหวะยิงของแรมซี่ย์โดนสกัดไว้ได้ ก่อนที่โฮเวเดสจะมาพลาดจะๆกับลูกยิงแปคนเดียวหน้าประตู แต่บอลดันเหินข้ามคานออกไปไกล
ผ่านหนึ่งชั่งโมงเต็มไป แม้ว่าตอนแรกดูเหมือนว่าจะแลกกันแบบเพิ่มโอกาสในการลุ้นประตูมากขึ้น แต่นอกจากสองจังหวะที่ว่าไป ก็ไม่ได้มีโอกาสลุ้นอะไรกันมากนัก เกมก็คล้ายๆกันในช่วงครึ่งแรก
นาทีที่ 71 โคตรชัดเจนเลยสำหรับจังหวะนี้ของแชร์วินโญ่ที่พยายามพาบอลกระชากหนีเข้าไต่เส้นหลังในกรอบเขตโทษ แต่พื้นที่มันไม่มีแล้ว บวกกับเห็นกองหลังพยายามจะเข้าแซะ พี่แกเลยทิ้งตัวลงดื้อๆ ผู้ตัดสินไม่พลาดควักใบเหลืองให้เป็นรางวัลทันที
อีก 5 นาทีต่อมา อาร์เซนอลต้องปรับเพื่อลองอะไรใหม่ๆบ้าง โดยส่งตัวชิรูด์ลงไปเล่นแทนแชร์วินโญ่ที่วันนี้ได้เรื่องความวูบวาบ นอกนั้นถือว่าเงียบๆไปหน่อย
นาทีที่ 76 เป๊ะๆ พลาดมหันต์จริงๆสำหรับคู่เซ็นเตอร์ของอาร์เซนอลที่ไปยืนเหม่อในจังหวะที่คิดว่าเพื่อนจะเคลียร์บอลได้ ปล่อยให้ฮุนเตลาร์ยืนห่าง จนโดนชาลเก้หนุนบอลสวนกลับ แข้งดัตช์พลิกจังหวะเดียวหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนสับไกยิงผ่านมันโนเน่เข้าไปไม่มีเหลือ ชาลเก้ขึ้นนำในช่วงเวลาสุดสำคัญ 1-0
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ตอนนี้ไม่ต้องคิดอะไรมากนอกจากพยายามดาหน้าบุกให้เต็มที่เท่านั้นสำหรับอาร์เซนอลที่ยังไงก็ไม่อยากพ่ายคาบ้านหลังจากอุตส่าห์เก็บ 6 แต้มเต็มมาก่อนหน้านี้ได้
นาทีที่ 86 เจอแบบนี้ก็จบเห่เท่านั้นเลยสำหรับอาร์เซนอลที่พยายามจะบุกทวงประตูคน แต่ดันจ่ายกันพลาด โดนชาลเก้ตัดสวนพรวดเดียวถึงเขตโทษ ก่อนที่จะครอสจ่ายไปเสาสองให้กับอเฟลลายได้ชาร์จเหน่งๆ ชาลเก้นำ 2-0 และคงสกอร์นี้ไปจนจบ 90 นาทีทำให้พวกเขาบุกมาคว้า 3 คะแนนเต็มในบ้านของอาร์เซนอลได้
จากผลการแข่งในเกมนี้ทำให้ชาลเก้มี 7 คะแนนแซงขึ้นไปยึดจ่าฝูงของกลุ่มแทนที่ของอาร์เซนอลที่มีเพียง 6 แต้มได้
