อาจจะเรียกได้ว่าถึงขั้นวิกฤติซะแล้วครับ สำหรับทางด้านทีมสิงห์บูล เชลซี ที่เพิ่งได้เดอะสเปเชี่ยลวัน “โจเซ่ มูริญโญ่” กลับมาคุมทีมหมาดๆแทนกุนซือชั่วคราวคนเก่า “ราฟาเอล เบนิเตซ” ที่โยกไปคุมทีมนาโปลีในอิตาลี เพราะตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลมา โดยเฉพาะช่วงสองนัดหลังผลงานเชลซีไม่สู้ดีเอาซะเลย แพ้สองนัดติดในบอลลีก และบอลถ้วยยุโรป โดยในบอลลีกพ่ายให้กับทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตันไป 1-0 บอลถ้วยยุโรปพ่ายให้กับบาเซิ่ลไป 2-1 ซึ่งที่จริงแล้วสองทีมดังกล่าวน่าจะเป็นสองทีมที่เชลซีควรจะเอาชนะได้แบบไม่ยากเย็นด้วยสกอร์ที่มากกว่า 1 ประตูด้วยซ้ำ
งานนี้ก็เลยไม่รู้ว่าจะทำให้เจ้าของทีมใจร้อนอย่าง โรมัน อับราโมวิชรีบด่วนตัดสินผลงานของมูริญโญ่เลยหรือเปล่า และถ้าเป็นเช่นนั้นน่าห่วงว่ามูริญโญ่อาจจะไม่ได้อยู่ทำทีมเชลซีไปจนจบฤดูกาลซะแล้ว ยิ่งในบอลลีกอังกฤษทุกวันนี้มีคู่แข่งบิ๊กทีมที่พร้อมแย่งชิงแชมป์และโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีกมากมายหลายทีมทั้ง อาร์เซน่อล แมนฯซิตี้ แมนฯยูไนเต็ด ลิเวอร์พูล สเปอร์ ด้วยแล้ว เวลาในการที่จะใช้ในการพิสูจน์ผลงานของมูริญโญ่หรือกุนซือคนไหนๆก็ตามมันจึงมีไม่มากพอ แต่ก็อย่างว่าล่ะครับกุนซือระดับมูริญโญ่ ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกหากจะไม่ให้โอกาสทำทีมไปจนจบฤดูกาลก็อาจจะดูใจร้ายเกินไปสักนิด แต่ทว่าหากจบฤดูกาลแล้วเชลซีไม่มีแชมป์ติดมือ
รับรองได้เลยว่าฤดูกาลหน้าชื่อผู้จัดการทีมเชลซีไม่ใช่ “โจเซ่ มูริญโญ่” แน่นอน ฉะนั้นเวลาที่เหลือต่อไปนับจากนี้ของมูริญโญ่กับเชลซีคงไม่ใช่เวลาที่มูริญโญ่จะนำไปใช้เพื่อการลองทีมเล่นๆ ลองระบบแผนการเล่น หรือลองแทคติกอะไรตามประสาของเจ้าตัวอีกแล้วล่ะ หากแต่ควรจะเป็นเวลาที่ต้องพยายามทำทุกอย่างให้ได้มาซึ่งชัยชนะ หรือผลการแข่งขันที่ดีที่สุดสำหรับทีม เพราะคำว่าไม่พร้อม ทีมยังไม่ลงตัวหาใช่คำแก้ตัวของกุนซือระดับโลกไม่ครับ