อาร์เซน่อล - สโต๊ค ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 22 กันยายน 2556
เวลา : 19:30 น.
ถ่ายทอดสด : CTH STADIUM 1
เปรียบเทียบความพร้อมของทีม อาร์เซน่อล : กุนซือหน้าเหี่ยว "อาร์แซน เวนเกอร์" พาทัพ "ปืนโต" อาร์เซน่อล ทำผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ หลังบุกไปถล่มซันเดอร์แลนด์ 3-1 ก็ต่อเนื่องด้วยออกไปเชือดโอลิมปิก มาร์กเซย 2-1 ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก
สภาพทีมเกมนี้มีข่าวดีด้วย เมื่อมีลุ้นได้ มิเกล อาร์เตต้า มิดฟิลด์สแปนิช หายเจ็บต้นขากลับมาเสริม แต่พวกที่เดี้ยงอยู่ก่อนทั้ง ซานติ กาซอร์ล่า (ข้อเท้า), ลูคัส โพดอลสกี้ (เอ็นหลังหัวเข่า), โทมัส โรซิชกี้ (ต้นขา), ยาย่า ซาโนโก้ (หลัง) อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (เข่า) และ วาสซิริกี้ อาบู ดิยาบี้ (เข่า) ยังชวดเหมือนเดิม
ส่วน เมซุต โอซิล มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมันตัวใหม่ พร้อมเปิดตัวต่อหน้ากันเนอร์สที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เป็นครั้งแรก
สโต๊ค ซิตี้ : ส่วนทีม "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ ของกุนซือ "มาร์ค ฮิวจ์ส" พาทีมทำผลงานได้ดีทีเดียว ล่าสุดก็ยันเสมอแมนฯ ซิตี้ แบบโนสกอร์ ทำให้ไม่แพ้ใครมา 3 เกมแล้ว
สภาพทีมเกมนี้สปาร์กี้ต้องรอดูอาการของ ชาร์ลี อดัม มิดฟิลด์จอมบู๊ที่มีแผลเย็บ หลังได้รับบาดเจ็บระหว่างการซ้อม แต่ในรายของ เกล็น วีแลน, มาร์ค มูเนียซ่า และ เจมี่ เนสส์ ที่บาดเจ็บทั้งหมดชวดแน่นอน
ส่วนแนวรุกอาจมีการปรับเปลี่ยนให้ ปีเตอร์ เคร้าช์ ลงยืนหน้าเป้าแทน เคนวิน โจนส์ ที่ฟอร์มไม่ดี เช่นเดียวกับ 2 มิดฟิลด์ตัวใหม่ทั้ง สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ และ มาร์โก อาร์เนาโตวิช ที่มีลุ้นตัวจริง หลังทำผลงานได้ดีในฐานะตัวสำรองนัดก่อน
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อาร์เซน่อล : (4-2-3-1) : วอยเชียค เชสนี่ - บาการี่ ซาญ่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, แพร์ แมร์เตซัคเคอร์, คีแรน กิ๊บบ์ส - มาติเยอ ฟลามินี่, อารอน แรมซี่ย์ - ธีโอ วัลค็อตต์, เมซุต โอซิล, แจ็ค วิลเชียร์ - โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
สโต๊ค ซิตี้ : (4-5-1) : อัสเมียร์ เบโกวิช - เจฟฟ์ คาเมรอน, ไรอัน ชอว์ครอสส์, โรเบิร์ต ฮูธ, เอริค ปีเตอร์ส - โจนาธาน วอลเตอร์ส, ชาร์ลี อดัม, มาร์ค วิลสัน, สตีเว่น เอ็นซอนซี่, แม็ทธิว เอเธอริงตัน - ปีเตอร์ เคร้าช์
วิจารณ์เกมการแข่งขัน
"เดอะ กันเนอร์ส" ช่วงนี้ฟอร์มร้อนแรงซะเหลือเกินแถมเกมนี้มีโอกาสได้เล่นในบ้านอีกด้วย ทำให้ยิ่งดูเหนือกว่าทีมเยือนมากขึ้นไปอีก แต่ทว่าตามการเจอกับ "ช่างปั้นหม้อ" ไม่ง่ายเท่าไหร่ เพราะจัดว่าเป็นหยามยอกอกสำหรับพวกเขาเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามอย่างที่ว่าบ้านใคร-บ้านมัน 2 เกมหลังสุดที่เอมิเรตส์ "เดอะ กันเนอร์ส" ฟาดเรียบทั้ง 2 เกม "เดอะ พ็อตเตอร์ส" ช่วงนี้อาจอยู่ในฟอร์มที่ดีก็จริง แต่เจ้าถิ่นร้อนแรงกว่ามาก ดูแล้วไม่น่าพลาดอีก 3 แต้มเต็ม
