สเปอร์ส - เชลซี (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 28 กันยายน 2556
เวลา : 18:45 น.
ถ่ายทอดสด : CTH STADIUM 1
เปรียบเทียบความพร้อมของทีม
สเปอร์ส : นายใหญ่นั่งยอง "อันเดร วิลลาช-โบอาช" ของ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส พาทีมทำผลงานได้ดีเหลือเกินในช่วงนี้ หลังบุกไปเชือดคาร์ดิฟฟ์ 1-0 แบบใจหายใจคว่ำ ก็เสริมความมั่นใจต่อเนื่องด้วยการออกไปถล่มแอสตัน วิลล่า 4-0 ในเกมลีก คัพ
สภาพทีมล่าสุด เอวีบีมีลุ้นได้แดนนี่ โรส แบ็กซ้ายตัวหลักหายเจ็บนิ้วโป้งเท้ากลับมาเสริม ส่วน อารอน เลนน่อน ที่เจ็บเท้าไปนาน ล่าสุดอาการดีขึ้นมาก แต่ก็ยังต้องรอทดสอบความฟิต เช่นเดียวกับยูเนส กาบูล กองหลังฝรั่งเศสที่มีอาการเจ็บกล้ามเนื้อท้อง
แต่ในรายของ เอเตียนน์ กาปู (ข้อเท้า) และ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ (ไข้) ยังชวดเหมือนเดิม
ส่วนพวกแกนหลักที่ได้พักในเกมถล่มวิลล่า ไม่ว่าจะเป็น อูโก้ โยริส, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, แอนดรอส ทาวน์เซนด์, คริสเตียน เอริคเซ่น และ โรเบร์โต้ โซลดาโด้ ก็พร้อมรีเทิร์นทั้งหมด
เชลซี : ส่วนทีมของ "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี "โชเซ่ มูรินโญ่" เริ่มพาทีมกลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้ง หลังเปิดรังอัดฟูแล่มนิ่มๆ 2-0 ก็ต่อเนื่องด้วยการบุกไปสอยสวินดอน 2-0 ในเกมลีก คัพ
เกมนี้ต้องบุกไปเยือนเดอะ เลน เพื่อทำศึกลอนดอน ดาร์บี้กับสเปอร์ส สภาพทีมต้องรอดูอาการของรามิเรส ที่เจ็บสะโพกมาจากเกมชนะสวินดอน
แต่ในรายของ มาร์โก ฟาน กิงเคล มิดฟิลด์ดัตช์ดาวรุ่ง โชคร้ายเจ็บเข่าอย่างรุนแรงและต้องพักยาวทั้งซีซั่น
ส่วนแนวรุกคาดว่า ซามูเอล เอโต้ ดาวยิงตัวใหม่น่าจะกลับมาเป็นตัวจริง แม้ เฟร์นานโด ตอร์เรส จะโชว์ฟอร์มได้ดีทั้งยิง และจ่ายในเกมชนะเดอะ โรบินส์
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สเปอร์ส : (4-2-3-1) : อูโก้ โยริส - ไคล์ วอล์คเกอร์, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, ยาน แฟร์ต็องเกน, แดนนี่ โรส - มูสซ่า เดมเบเล่, เปาลินโญ่' - แอนดรอส ทาวน์เซนด์, คริสเตียน เอริคเซ่น, กิลฟี่ ซิเกิร์ดส์สัน - โรเบร์โต้ โซลดาโด้
เชลซี : (4-2-3-1) : ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - แฟร้งค์ แลมพาร์ด, รามิเรส - อันเดร เชือร์รเล่, ออสการ์, เอแด็น อาซาร์ - ซามูเอล เอโต้
วิจารณ์เกมการแข่งขัน
เกมลอนดอน ดาร์บี้ คู่เปิดหัวประจำวีกนี้ดูท่าแล้วต้องสนุกแน่ๆ "ไก่เดือยทอง" ทีมเจ้าบ้านก็ได้เปรียบพอสมควรจากการเล่นถิ่นบวกไปกับฟอร์มช่วงหลังที่เรียกว่าค่อนข้างร้อนแรงและดุดันเหลือเกิน แต่ทว่าการเจอกับ "สิงห์ไฮโซ" ทีไร ไม่เคยเป็นเรื่องง่ายเลย จากสถิติแล้วฟ้องชัดเลยว่า 5 เกมล่าสุดทุกรายการที่ดวลกัน ไม่เคยชนะอริร่วมเมืองทีมนี้ได้เลย ถึงแม้ว่าบางเกมจะได้เปรียบกว่าเยอก็ตาม
ดังนั้นกุนซือชาวโปรตุเกสจึงต้องพยายามเน้นๆ แบบสุดๆ เพื่อล้างอาถรรพณ์ให้ได้ ทว่า "สิงห์บลูส์" ของกุนซือดิ โอนลี่วัน "โชเซ่ มูรินโญ่" ก็ไม่น้อยหน้าถึงแม้ที่ผ่านมาผลงานจะยังไม่เข้าตานัก แต่เกมใหญ่แบบนี้ พวกเขาก็ไม่พลาดง่ายๆ เหมือนกัน เกมคงเปิดแลกกันสนุก ที่สำคัญปีนี้เจ้าถิ่นเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีมากๆ แนวรับเหนียวแน่นมากบวกกับแนวรุกที่จัดจ้าน ดูแล้วมีลุ้นเบียดชนะได้หวุดหวิดเ
