“ทำดีแค่ไหนก็ไม่ถูกใจบอสสักที” คงจะต้องเป็นประโยคที่ชินจิ คางาวะ มิดฟิลด์พรสวรรค์ของแมนฯยูไนเต็ดอยากจะเอ่ยออกมามากที่สุดในตอนนี้แล้ว เพราะขนาดในเกมล่าสุดที่ผีแดงล้มหงส์แดงในศึกแคปปิตอลวันคัพได้สำเร็จ เจ้าตัวโชว์ฟอร์มการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมชนิดที่แฟนบอลไม่ว่าจะแฟนผี แฟนหงส์ก็เห็นตรงกัน แต่เดวิด มอยส์กลับให้ความเห็นเกี่ยวกับฟอร์มการเล่นของคางาวะในเกมนี้ว่ายังมีสิ่งที่ต้องปรับอีก แถมยังติสภาพความฟิตของคางาวะว่ายังไม่ดีพอสำหรับการลงตัวจริง
ที่น่างงกว่านั้นนักเตะที่ค้านสายตาแฟนบอลอย่าง แดนนี่ เวลเบค และแอชลี่ย์ ยัง ดันเป็นนักเตะที่เดวิด มอยส์ถูกอก ถูกใจและเลือกใช้งานเป็นตัวหลัก ซึ่งความคิดเห็นของแฟนบอลแล้วนักเตะสองรายนี้ไม่เหมาะเป็นตัวจริงให้กับทีมผีแดงชุดนี้ด้วยประการทั้งปวงครับ ทั้งนี้ในเกมที่คางาวะได้ออกสตาร์ทตัวจริงกับแมนฯยูไนเต็ดแมทที่เฉือนลิเวอร์พูลไป 1-0 นั้น ถือเป็นโอกาสนัดที่สองของฤดูกาลนี้ของคางาวะเท่านั้น ที่ผ่านมาหลายๆนัดเดวิด มอยส์ไม่เลือกที่จะใช้งานคางาวะ แถมในเกมที่เล่นกับลิเวอร์พูลนี้ ซึ่งคางาวะโชว์ฟอร์มได้ดี แต่มอยส์ก็เปลี่ยนตัวออกช่วงประมาณนาทีที่เจ็บสิบกว่าๆ คือไม่ได้ให้เล่นเต็มเกมอย่างที่แฟนบอลหลายคนต้องการ
จากกระแสขัดแย้งกันทั้งความคิดเห็นของแฟนบอล และตัวผู้จัดการทีมเดวิด มอยส์นี้ ก็มีผลกระทบยาวตามมาอีกคือมีแฟนบอลผีแดงบางกลุ่มเริ่มไม่สนับสนุนการทำงานของเดวิด มอยส์แล้ว บ้างก็ถึงขนาดบอกว่าเดวิด มอยส์ เป็นผู้ที่จะทำให้ผีแดงตกต่ำเลยทีเดียวครับ ส่วนตัวผมเองแม้จะไม่ได้เป็นแฟนผีแดงโดยตรง แต่เห็นวิธีการจัดทีมของเดวิด มอยส์ การเลือกใช้นักเตะแล้วก็ต้องบอกว่าดูขัดหูขัดตา และคิดว่าไม่น่าจะใช้แนวทางที่ทำให้ทีมผีแดงประสบความสำเร็จเหมือนสมัยเซอร์ อเล็กซ์เช่นกันครับ