"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล คืนฟอร์มมาคราวนี้ได้เฉิดฉายบนหัวตารางอีกครั้งหลังจากบุกมาเอาชนะ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ ไปด้วยสกอร์ 3-1 จากประตูในครึ่งแรกของ "ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์" และ "หลุยส์ ซัวเรซ" ที่รับบทฮีโร่กดเบิ้ลพรวดจาก 6 ขึ้นรองฝูงตาม "ปืนใหญ่" อาร์เซนอลเหลือแค่ 2 ส่วน "แมวดำ" ที่ไร้กุนซือยังจมบ๊วยแพ้ 5 จาก 6 นัดสถานการณ์ดูไม่จืด
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2556
ซันเดอร์แลนด์ 1-3 ลิเวอร์พูล
สนาม สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ ออกสตาร์ทเกมช่วงครึ่งแรก "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดฉากเดินเครื่องบุกหนักตั้งแต่ต้นเกมและเกือบมีจังหวะลุ้นโดยซัวเรซจ่ายบอลไปให้เจอร์ราร์ดนอกกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนที่กัปตันไดนาโมจะจ่ายยัดมาตรงเสาแรกยังเป็นโอเชียที่สกัดทิ้งไป
หลังจากนั้นไม่นานตูเร่ไปตามแย่งบอลมาจากริมเส้นด้านซ้ายก่อนป้ายไปให้ซัวเรซที่ลากบอลเดี่ยวจนถึงหน้าปากเขตโทษแล้วยิงด้วยขวาทันทีแต่บอลยังไม่ตรงกรอบ
นาทีที่ 9 สเตอร์ริดจ์โดนเกี่ยวล้มลงหน้าปากเขตโทษพอดีทำให้ได้ฟรีคิกระยะสุดงามประมาณ 20 หลากลางประตูเป็นเจอร์ราร์ดที่ปั่นด้วยขวาไปโดนเวสต์วู้ดปัดออกมาได้แต่สเคอร์เทลที่เข้ามาตามซ้ำตุงตาข่ายล้ำหน้าไปเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น
มามาดู ซาโก้กับโมเซสทำเป็นเล่นไปทำชิ่งกันอยู่ริมเส้นด้านซ้ายก่อนจะโดนแย่งไปจนได้บอลไปเข้าเท้าของอัลติดอร์ที่ลากเข้าไปยิงยัดยังดีติดบล็อคของสเคอร์เทลกระดอนออกมาได้
นาทีที่ 15 แฟน"หงส์แดง"ทำหน้าเจื่อนกันเลยเมื่อซัวเรซลากบอลไปแล้วล้มลงไปเองทำท่าจะรุนแรงเสียด้วยเมื่อเจ้าตัวกุมต้นขาพร้อมกวักมือเรียกแพทย์ให้เข้าไปดูอาการหยอยๆแต่ท้ายที่สุดก็กลับลงสนามมาเล่นต่อไปได้
ดูแล้วทีมเยือนยังบุกได้น้ำได้เนื้อกว่าผ่านมา 20 นาทีเฮนเดอร์สันได้บอลอยู่นอกกรอบเขตโทษด้านขวาแต่ไม่เปิดเข้ากลางตัดสินใจล็อคมาเข้าซ้ายแล้วยิงเองแต่บอลไปโดนบล็อคออกหลัง
เจ้าถิ่นได้เฮกันก้องแล้วแต่ยังไม่ได้ประตูโดยลาร์สสันบรรจงปั่นฟรีคิกระยะเฉียด 30 หลาด้านซ้ายหน้าปากเขตโทษบอลโค้งข้ามกำแพงไปแล้วมิโญเล่ต์ก็บินไปไม่ถึงแต่บอลไปชนคานสนั่นก่อนกระเด้งออกมาพลาดได้ประตูไปอย่างน่าเสียดาย
จังหวะถัดจากนั้นไม่นานจั๊คเครินี่พลิกบอลจะเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่ดันไปเข้าทางของตูเร่ชนล้มลงซึ่งแฟนบอลเจ้าถิ่นร้องโวยวายจะเอาจุดโทษแต่เว็บบ์ไม่ยอมเป่า
ผลัดกันบุกสนุกเลยคราวนี้เป็นซัวเรซที่ลากบอลขึ้นมาริมเส้นด้านซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางที่มีสเตอร์ริดจ์อยู่แต่โอเชียสกัดออกมาไม่พ้นโมเซสพักบอลลงก่อนวอลเล่่ย์หายนกตายไป
นาทีที่ 28 ลิเวอร์พูลมาขึ้นนำจนได้จากลูกเตะมุมที่เจอร์ราร์ดเปิดจากมุมธงด้านซ้ายไปถึงสเตอร์ริดจ์ก่อนถึงเสาสองพยายามก้มหัวลงโขกแต่บอลไปโดนตรงต้นแขนก่อนเข้าประตูไปชนิดที่ทั้งกรรมการ,ไลน์แมนรวมถึงนักเตะซันเดอร์แลนด์มองไม่เห็นเป็นประตูที่ 5 ของเขาในพรีเมียร์ลีกแบบโชคช่วยสุดๆ
มิโญเล่ต์ทำให้แฟนลิเวอร์พูลเสียววาบเลยเมื่อกระโดดขึ้นรับบอลเตะมุมเอาไว้แบบง่ายๆแต่สมาธิดันไม่ดีทำบอลหลุดมือเสียอย่างนั้นร้อนถึงตูเร่ต้องสกัดแบบตกอกตกใจแต่นายด่านเบลเยี่ยมมาคว้าเอาไว้ได้อีกทีโดยเว็บบ์ไม่เป่าเป็นจังหวะส่งให้โกลในจังหวะนี้
นาทีที่ 36 เจอร์ราร์ดโชว์วางบอลยาวจากแดนตัวเองไปให้สเตอร์ริดจ์จับบอลลงอย่างสวยริมเส้นด้านซ้ายก่อนตัดสินใจเลี้ยงแหวกเข้ามาในกรอบเขตโทษแล้วแทงให้ซัวเรซที่รออยู่ตรงเสาสองเข้าชาร์จไปไม่มีพลาด
"แมวดำ"มีลุ้นตีดเสมอเหมือนกันเมื่อซาโก้โดนจับแฮนบอลหน้าประตูตังเองระยะราว 20 หลาคราวนี้ลาร์สสันไม่ยิงเองเขี่ยให้การ์ดเนอร์วิ่งเข้ามากดเต็มข้อแต่บอลไปโดนโมเซสที่ยืนเป็นกำแพงกระดอนออกหลังไป
ก่อนหมดครึ่งไม่กี่นาทีซันเดอร์แลนด์เกือบได้ประตูเมื่อแคทเทิ่ลโมลตักบอลหลุดแผงหลังของลิเวอร์พูลหมดเลยและเป็นการ์ดเนอร์ที่วิ่งเข้ามาจิ้มแต่มิโญเล่ต์ยังหนึบเซฟเอาไว้ได้
นาทีถัดมาซัวเรซจ่ายบอลไม่ดูตาม้าตาเรือไปติดจอห์นสันที่เลี้ยงลากเข้ามาในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนยิงด้วยซ้ายข้างถนัดบอลโค้งจะไปเข้าตรงเสาไกลแต่กลับไม่มุดลงทำให้เหินข้ามคานออกไป
เข้าสู่ช่วงเหมในครึ่งหลังได้ 3 นาที "หงส์แดง" ได้ลุ้นอีกแล้วจากจังหวะคอนเนอร์ที่เจอร์ราร์ดเปิดมาตรงเสาไกลบอลข้ามซาโก้มาตกที่ซัวเรซพักบอลก่อนหนึ่งจังหวะก่อนยิงไม่มีเรดาร์เลยผ่านหน้าปากประตูออกไปไม่ได้ลุ้น
"แมวดำ"มาได้ลุ้นอีกจากลูกยิงไกลของจอห์นสันแต่บอลก็เฉี่ยวเสาไปเล็กน้อยเท่านั้น
จังหวะถัดมานิดเดียวคี ซุง-ยองตะบันไกลระยะกว่า 35 หลาสเคอร์เทลพยายามจะล้มตัวบล็อคไม่ดีบอลผ่านมาถึงมิโญเล่ต์รับไม่อยู่บอลกระฉอกออกมาเป็นจั๊คเครินี่ที่ไวทายาทพุ่งเข้ามายิงสวนตัวของนายด่านเบลเยี่ยมเข้าไปไม่เหลือซาก
ลิเวอร์พูลตั้งรับลึกเหลือเกินและเกือบได้ประตูอีกเมื่อการ์ดเนอร์ยิงแบบจิ้มๆนอกกรอบเขตโทษบอลไปแฉลบตูเร่นิดนึงทว่ามิโญเล่ต์ก็ยังปัดทิ้งออกไปได้ชนิดที่เรียกว่าใจหายเหมือนกัน
กองหลังของลิเวอร์พูลเกือบทำเสียอีกแล้วเมื่อเอ็นริเก้กับซาโก้ไม่รู้กันทำให้อัลติดอร์ฉกบอลไปได้ก่อนกระหน่ำยิงไกลระยะ 25 หลาทันทีแต่ก็ไม่ดีพอที่จะผ่านมือของมิโญเล่ต์
ทีมเยือนมาได้ลุ้นอีกครั้งในนาทีที่ 67 โดนเอ็นริเก้ทำชิ่งกับโมเซสก่อนที่ปีกไนจีเรียจะว่างสุดกู่ในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนยิงด้วยเท้าขวาทว่าคราวนี้เวสต์วู้ดยังบินปัดทิ้งทางเสาแรกได้สวยเหมือนกัน
หลังจากนั้นโมเซสมาได้เสียวอีกทีโดยพยายามเปิดบอลจากนอกกรอบเขตโทษไปทางเสาสองแต่ไม่มีใครเข้าชาร์จทำให้บอลหลุดเสาไปไม่กี่นิ้วเท่านั้น
เกมเหลืออีก 20 นาที"หงส์แดง"เกือบได้ประตูเหมือนกันเมื่อเอ็นริเก้พยายามเปิดมาจากริมเส้นด้านซ้ายเป็นซัวเรซที่เบียดอยู่กับการ์ดเนอร์ก่อนบอลมาโดนขาดาวยิงอุรุกวัยแล้วไปเข้ามือของเวสต์วู้ดที่เซฟไว้ตรงโคนเสา
ทีมเยือนยังตั้งหน้าตัง้งตาบุกต่อไปโดยเป็นซัวเรซที่จับบอลได้หน้าปากเขตโทษก่อนยิงจังหวะแรกไปติดแคทเทิ่ลโมลบอลมาเข้าทางเขาอีกก็ยิงอีกครั้งแต่ก็ยังไม่มีอะไรทำให้หวาดเสียว
หลังจากนั้นตูเร่แย่งบอลมาได้ตรงกลางสนามก่อนลากมาเองซัวเรซวิ่งทำทางไปแล้วทว่าดาวเตะไอวอรี่โคสต์ไม่จ่ายตัดสินใจยิงเองยังโดนเวสต์วู้ดปัดทิ้งข้ามคานออกไป
ช่วงนาทีสุดท้ายลิเวอร์พูลได้โต้กลับเร็วเปิดบอลมาให้ซัวเรซด้านขวาของสนามแล้วโยนไปให้สเตอร์ริดจ์ลากอยู่ในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วไหลกลับมาให้"หม่อมกัด"ซัดเข้าไปปิดเกมแล้ว
ท้ายที่สุดลิเวอร์พูลก็กลับมาชนะอีกครั้งพร้อมเก็บ 3 แต้มขึ้นไปแซงท็อตแน่มเป็นรองจ่าฝูงด้วยลูกได้เสียที่ดีกว่าขณะที่"แมวดำ"ยังอมบ๊วยไม่ยอมแบ่งใคร