พฤศจิกายน 01, 2024, 09:37:34 AM

ผู้เขียน หัวข้อ: "บีร็อดจ์" กับแผนการเล่นที่เปลี่ยนแปลงไป!!  (อ่าน 3037 ครั้ง)

Reporter

  • Member
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 1019
    • ดูรายละเอียด
       สองนัดล่าสุดของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล เราเห็นได้ว่าการจัดทัพผู้เล่นนั้นเป็นไปในระบบการเล่นแบบ 3-5-2 คือมีเซ็นเตอร์ถึง 3 คน และเลือกใช้วิงแบ็กกึ่งปีกสองราย มีแผงกองกลาง 3 ราย และกองหน้าแบบคู่ จากเดิมที่ร็อดเจอร์สมักจะเลือกจัดตัวแบบใช้กองหน้าคนเดียว แล้วมีกองผู้เล่นริมเส้นสองรายเปรียบเสมือนเป็นกองหน้าอีกสองคนด้านซ้ายและขวา ส่วนกองหลังเป็นแบบคู่เซ็นเตอร์และมีแบ็กสองข้าง ซึ่งจะว่าแปลกๆส่วนตัวผมก็คิดว่าแปลกสำหรับการเปลี่ยนการเล่นมาใช้ระบบ 3-5-2 แต่ส่วนนึงก็นับว่าน่าชื่นชมที่ร็อดเจอร์สกล้าที่จะเปลี่ยน

       ไม่ยึดติดอยู่กับแผนการเล่น หรือรูปแบบการเล่นในแบบเดิมๆ ที่สำคัญก็คือมันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เขาได้ใช้นักเตะที่มีในทีมให้เกิดประโยชน์สูงสุด คือตอนนี้ลิเวอร์พูลมีเซ็นเตอร์อาชีพให้เลือกใช้งานหลายราย ถ้าส่งลงเป็นเซ็นเตอร์คู่แบบเดิมๆ ก็จะทำให้โอกาสของเซ็นเตอร์บางรายต้องลดน้อยลง หรือในส่วนกองหน้าก็มีทั้งซัวเรซ สเตอร์ริดจ์ที่ยิงประตูได้ดีทั้งคู่ หากว่าเลือกใช้คนใดคนนึงเป็นหน้าเป้า และให้อีกคนไปเล่นริมเส้นก็อาจเสียประโยชน์ เสียโอกาสจากการยิงประตูไปได้ เรียกว่าอาจใช้ได้ไม่คุ้มน่ะครับ ทางเลือกที่ดีในการส่งกองหน้าสองรายนี้ลงสนามพร้อมกันจึงเป็นการส่งลงเป็นหน้าคู่ไปเลย อีกอย่างนักเตะอย่างโฆเซ่ เอ็นริเก้ แบ็กซ้ายของทีมก็เป็นนักเตะประเภทเติมเกมรุกดี

       หากเล่นในระบบ 3-5-2 ก็จะมีอิสระในการเติมเกมมากขึ้น และแน่นอนว่ามันดีต่อประสิทธิเกมรุกของทีม คือสรุปกันง่ายๆเลยว่าการเปลี่ยนระบบของร็อดเจอร์สครั้งนี้ทำให้ลิเวอร์พูลใช้งานนักเตะที่มีอยู่ในทีมได้อย่างคุ้มค่าที่สุด แต่ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่การที่ลิเวอร์พูลเปลี่ยนระบบมาใช้ 3-5-2 นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าลิเวอร์พูลจะมีฟอร์มการเล่นที่ดีแบบนี้ และเอาชนะคู่แข่งไปได้เรื่อยตลอดหรอกนะครับ เรื่องของฟอร์มการเล่นโดยส่วนตัวนักเตะ ความฮึกเหิม หรือสภาพจิตใจที่อยากจะเอาชนะก็เป็นส่วนสำคัญของชัยชนะด้วย และแน่นอนนั่นเป็นอีกหน้าที่ที่ร็อดเจอร์สจะต้องคอยกระตุ้นลูกทีมอยู่เสมอ