แม้ว่าจะต้องเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากในถิ่นโอลแทรฟฟอร์ด แต่ชินจิ คางาวะ มิดฟิลด์จอมเทคนิคของทีมแมนฯยูไนเต็ด และทีมชาติญี่ปุ่นก็หาได้ย่อท้อหรือมีปัญหากับสถานการณ์ดังกล่าวไม่ โดยลั่นว่าตนเองพร้อมสู้ต่อเพื่อตำแหน่งตัวจริง และจะคิดบวกกับสิ่งที่เผชิญอยู่ ทั้งนี้ในเกมที่แมนฯยูไนเต็ดพ่ายเวสต์บรอมคาบ้านนั้น คางาวะโดนถอดออกตั้งแต่พักครึ่ง ซึ่งคางาวะกล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ประมาณว่าในครึ่งแรกตนเองไม่ค่อยได้บอลและมีส่วนร่วมกับทีมน้อย แต่ก็คิดว่าในครึ่งหลังนั้นจะพอสามารถหาช่อทางในการทำเกมได้บ้าง
แต่พอมาโดนถอดออกก่อนที่จะได้ลงไปเล่นต่อในครึ่งเวลาหลังจึงทำให้ตนเองรู้สึกผิดหวัง แต่กระนั้นก็ไม่ได้รู้สึกว่าเรื่องนี้เลวร้ายเท่าใดนัก และคิดโดยรวมๆว่าที่ตนเองนั้นไม่ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวหลักของทีมเป็นเหมือนกับสิ่งที่ผู้จัดการทีม เดวิด มอยส์ พยายามจะบอกตนเองว่าต้องพัฒนาฝีเท้าให้มากกว่านี้ ไม่งั้นก็อาจจะไม่ได้อยู่ต่อในโอลแทรฟฟอร์ด ฉะนั้นตนก็จะทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด โดยหวังว่าผู้จัดการทีมจะเห็นคุณค่าในสิ่งที่ตนทำ อย่างไรก็ตามหากเรามองกันอีกแง่มุมอาจจะบอกได้ว่านอกจากสถานการณ์ของคางาวะในถิ่นโอลแทรฟฟอร์ดที่ว่าดูยากลำบากแล้วนั้น สถานการณ์ของทางด้านเดวิด มอยส์ กุนซือก็ดูยากลำบากไม่แพ้กัน คือว่ากันง่ายๆก็ไม่รู้ว่าใครจะไปก่อนกัน
บางทีมอยส์อาจโดนตะเพิดก่อนที่คางาวะจะหมดอนาคตในโอลแทรฟฟอร์ดแล้วถอดใจย้ายไปทีมอื่นก็เป็นได้ เพราะดูๆแล้วถ้าผลงานยังไม่ดีแบบนี้ อีกหน่อยแมนฯยูไนเต็ดก็คงเล็งกุนซือรายอื่นไว้มารับตำแหน่งหน้าที่ผู้จัดการทีมคนใหม่ คือระดับแมนฯยุไนเต็ดนั้นคงไม่อยากเห็นทีมตนเองต้องจบฤดูกาลด้วยการอยู่ในอับดับครึ่งล่างของตาราคางคะแนนเป็นแน่ ถึงเซอร์ อเล็กซ์ฯจะเป็นคนที่ไว้ใจ มั่นใจและเลือกเดวิด มอยส์ให้มารับหน้าที่ต่อจากตนเองก็เถอะ