แม้ว่าความเป็นจริงตามที่ทราบๆกันในฤดูกาลนี้คือทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูลไม่ได้มีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันรายการยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกเหมือนกับทีมยักษ์ใหญ่อื่นๆในยุโรป และในอังกฤษ อาทิเช่น แมนฯยุไนเต็ด แมนฯซิตี้ อาร์เซน่อล แต่กระนั้นพวกเขาก็หาได้เมินเฉยกับการแข่งขันชิงชัยของสุดยอดทีมในยุโรปสำหรับรายการแข่งขันฟุตบอลนี้ไม่ครับ โดยในเกมที่เราอาจจะต้องเรียกกันว่าเป็นซุปเปอร์บิ๊กแมทประจำศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกในรอบสัปดาห์นี้ซึ่งคือการพบกันระหว่าง สโมสรแมนฯซิตี้ กับสโมสรบาร์เยิร์น มิวนิค นั้น
แบรนแดน ร็อดเจอร์ส ก็ได้พาลูกทีมบางส่วนเขาไปชมเกมการแข่งขันภายในสนามเอติฮัต สเตเดี้ยมด้วย และหนึ่งในลูกทีมของร็อดเจอร์สที่เข้าชมเกมนี้ก็รวมสเตีเฟ่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมผู้ที่เคยพาทีมลิเวอร์พูลเข้าชิง และสัมผัสถ้วยแชมป์ใบนี้มาแล้ว ทั้งนี้การที่แบรนแดน ร็อดเจอร์สและลูกทีมลิเวอร์พูลของเขาได้เข้าไปชมเกมยุโรปนี้ ร็อดเจอร์สชี้ว่าเป็นอะไรที่สร้างแรงกระตุ้นให้กับการทำงานพวกเขาได้อย่างดีเยี่ยม และร็อดเจอร์สก็ยังให้เหตุผลเกี่ยวกับการเข้าชมเกมนี้อีกด้วยว่าเป้าหมายของลิเวอร์พูลคือการกลับไปอยู่ในระดับนั้น (ระดับเดียวกับทีมอย่างแมนฯซิตี้ บาร์เยิร์น มิวนิค ที่ได้เล่นแชมเปี้ยส์ลีก) ดังนั้นพวกเขาจึงต้องศึกษาจากสิ่งนี้ และมองหาคุณสมบัติที่ทีมในระดับนี้มี
อย่างไรก็ตามแม้ว่าผลงานในฤดูกาลนี้ของลิเวอร์พูลจะยอดเยี่ยม และใกล้เคียงกับเป้าหมายของพวกเขาที่ต้องการกลับไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก กลับไปอยู่ในจุดสูงสุดของทีมระดับสโมสรยุโรป แต่ร็อดเจอร์สก็ยังกล่าวว่าพวกเขายังเหลืองานให้ต้องทำอีกมาก คือเรียกกว่ายังไม่ประมาทและหลงระเริงกับผลงานที่ทำได้ในลีกเวลานี้แหละครับ และแน่นอนว่าในฐานะที่ร็อดเจอร์สเป็นผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นทีมใหญ่และเป็นทีมที่กระหายในการกลับไปสู่ความสำเร็จอีกครั้ง แนวทางการทำงานที่ตั้งอยู่บนความไม่ประมาทอย่างนี้เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมมากๆครับ