"เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค เกมนี้ถือว่าไม่ง่ายเลย เมื่อเกมพลิกล็อคโดนทีมเจ้าบ้านนั้นขึ้นนำไปก่อนจากความผิดพลาดของ "นอยเออร์" แต่ยังดีที่มาได้ประตูตีเสมอเร็วในครึ่งแรก ก่อนที่จะมาได้ลูกยิงของ "โธมัส มุลเลอร์" ก่อนเกมจะหมดเวลา 15 นาที ส่งผลให้ "บาร์เยิร์น" บุกเอาชนะ "ฮอฟเฟ่นไฮม์" 2-1 เก็บสามแต้มแซง "ดอร์ทมุนด์" กลับไปนำเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง
บุนเดสลีกา เยอรมัน
สนาม เวียร์ซอล ไรน์ เนคการ์ อารีน่า
วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2556
ฮอฟเฟ่นไฮม์ 1-2 บาเยิร์น มิวนิค เข้าสู่เกมในช่วงแรกได้ 15 นาทีเป็นฝ่าย "เสือใต้" ที่ได้โอกาสทักทายก่อน โดยเกมขึ้นมาทางขวา ฟิลิปป์ ลาห์ม แลบขึ้นมารับบอลทะลุช่องมองหาเพื่อนจะจ่ายแต่ดูแล้วโดนปิดไว้หมดเลยยิงยัดเสาแรกดื้อๆแต่โคเอน คาสตีลล์ ปิดมุมไว้แล้วบล็อคไว้ได้
นาที 17 บาเยิร์น เริ่มติดเครื่องแล้วได้ลุ้นเน้นๆจากจังหวะที่ฟร็องค์ ริเบรี่ เล็งจ่ายมาให้โธมัส มุลเลอร์ เข้าในกรอบก่อนจะอัดเต็มข้อเข้าเสาแรกซ้ายมือโกล์แต่คาสตีลล์ยังไวบินทุบทิ้งได้เยี่ยมทีเดียว
นาที 18 เริ่มสร้างโอกาสต่อเนื่องแล้ว หนนี้เกมขึ้นจากแผงหลังเลยต้องชมดานเต้ ที่จ่ายเรียดจากกลางสนามไปให้ดาวิด อลาบ้า ที่วิ่งเติมไปสุดเส้นหลังก่อนปาดทันทีมาตรงกลาง เป็นมานด์ซูคิชวิ่งตัดหน้ามาแปเบี้ยวออกไปไม่ค่อยได้ลุ้น
นาที 23 เป็นโอกาสทองของทีมเยือนน่าจะใส่สกอร์นำจริงๆ จากลูกฟรีคิกที่บาสเตียน ชไวน์สไตน์เกอร์ เปิดได้พอดีเป๊ะมาตกที่ฆาบี้ มาร์ติเนซ แต่เหมือนเจ้าตัวคิดท่ายิงไม่ถูกเพราะบอลมาต่ำเลยดีดด้วยขวาเลยเลยปลิ้นหลุดเสาขวามือโกล์ไปน่าผิดหวังทีเดียว
นาที 31 ยังพยายามต่อไปสำหรับบาเยิร์น สามประสานตัวรุกทำดันสวน มานด์ซูคิช เปิดชิพๆมาให้มุลเลอร์ โหม่งชงให้ริเบรี่ กดเรียดหน้ากรอบเขตโทษแต่ยังพุ่งตรงตัวคาสตีลส์รับสบาย
นาที 34 เป็นเรื่องแล้วสำหรับบาเยิร์น บุกหนักทำไม่ได้พลาดเองถึงกับเสียประตูเลย จากจังหวะลูกเตะมุมทางซ้ายเปิดมาตรงกลาง มานูเอล นอยเออร์ ทำสิ่งที่ง่ายเป็นเรื่องยากออกมาคว้าบอลหลุดมือไปเข้าทางนิคลาส ซูเล่ ปราการหลังวัย 17 ปีตวัดด้วยซ้ายเข้าประตูไปเฉยเลย ฮอฟเฟ่นไฮม์ทำช็อคนำก่อน 1-0
นาที 37 นำแล้วได้ใจได้ลุ้นเน้นๆถึงสองครั้งสำหรับเควิน โฟลลันด์ ดาวเตะของเจ้าบ้านช็อตแรกมาจากลูกทุ่มเป็นโฟลลันด์บังกองหลังก่อนพลิกตัวยิงยัดเสาแรกซ้ายมือโกล์แต่แฉลบเข้าช้างตาข่าย ถัดมามีลุ้นยิงไก บอลพุ่งตรงกรอบแต่นอยเออร์แก้ตัวบินปัดทิ้งได้สวย ยังนำแค่ลูกเดียว
นาที 39 มีดวงจริงๆ สำหรับบาเยิร์น มาได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย นักเตะฮอฟเฟ่นไฮม์มายืนตั้งกำแพงถึง6-7คน ทำให้ริเบรี่ เลือกยังจะหนีกำแพงแต่บอลพุ่งไปแฉลบมาริโอ มานด์ซูคิช เปลี่ยนทางเข้าไปขวามือโกล์ คาสตีลส์ ที่ทิ้งตัวไปก่อนได้แต่มองดูบอลไหลเข้าประตูไป เครดิตเป็นหอกโครเอเชียยิงประตูที่ 8 ในซีซั่นให้บาเยิร์นตีสเมอทันควัน 1-1
จบครึ่งแรก ฮอฟเฟ่นไฮม์ ทำเซอร์ไพรซ์โดนพับสนามบุกแต่กลับได้ประตูนำจากความผิดพลาดของนอยเออร์ แต่เฮอยู่แค่ 5 นาที ก็เจอประตูแบบเฮ็งๆของมานด์ซูคิชเปลี่ยนทางลูกฟรีคิกของริเบรี่ ให้ทั้งสองเสมอที่ 1-1
ลงสนามาเล่นกันต่อครึ่งหลังนาทีที่ 52 "เสือใต้" เริ่มเปิดฉากบุกในครึ่งหลัง มาได้ลุ้นจากลูกเตะมุมเป็นริเบรี่ เปิดจากมุมฝั่งซ้ายข้ามมาถึงดานเต้ ขึ้นเบียดโขกย้อนกลับมุมเสาแรกแต่โด่งข้ามคานตกลงบนหลังคาประตูไปมีลุ้นทีเดียว
นาที 55 จะประมาทไม่ได้เหมือนกันสำหรับทีมเยือน เพราะฮอฟเฟ่นไฮม์อาศัยการจ่ายยาวข้ามมาให้โฟลลันด์ แต่บอลแรงไปนิดเหยียดขาโดนบลอโด่งข้ามคานไป เป็นโอกาสที่ได้เสียวทีเดียว
นาที 65 แลกหมัดกันคนละทีแต่ยังยิงเพิ่มไม่ได้ บาเยิร์น ได้ลุ้นก่อนจากการทำชิ่งกันของริเบรี่และมุลเลอร์ ก่อนที่สตาร์เลือดเฟร้นช์จะยิงแต่ต้องชมคาสตัลส์ที่ออกมาบล็อคได้อย่างรวดเร็ว ตัดมาเป็นเกมโต้กลับของฮอฟเฟ่นไฮม์และเป็นอันเดรียส เบ็ค จ่ายให้โฟลลันด์จับก่อนพลิกตัวยิงยัดเสาแรกซ้ายมือโกล์แต่นอยเออร์ยังปฏิกิริยาดีเยี่ม พุ่งปัดได้อย่างหวุดหวิด
นาที 68 บาเยิร์นมาอีกครั้งและเกือบจะมีโชคอีกแล้วจากจังหวะที่ริเบรี่ หาช่องเลี้ยงจี้ก่อนจะยิงแฉลบกองหลังเจ้าบ้าน บอลพุ่งหนีกรอบไปนิดเดียวได้แค่เตะมุม
นาที 70 ยังขาดๆเกินๆในวันนี้สำหรับเสือใต้ ริเบรี่ มองหามุลเลอร์เปิดครอสไปเสาไกลทางขวามือโกล์ขึ้นเทคตัวโหม่งได้แล้วแต่ยังกดไม่ลงข้ามคานไปอีก
นาที 75 ความพยายามของบาเยิร์น มาประสบผลสำเร็จจนได้จากความขยันของโทนี่ โรว ที่แย่งบอลคืนเร็วจากกองหลังฮอฟเฟ่นไฮม์ที่สกัดเกิทเซ่ได้ บอลมาถึงริเบรี่ โชว์ความพลิ้วในที่แคบจ่ายต่อให้มุลเลอร์ที่ยืนรอทางซ้ายได้พอดีเป๊ะ ยิงเร็วตามน้ำเข้าเสาแรกไม่เหลือ บาเยิร์น มิวนิค พลิกขึ้นนำแล้ว 2-1
นาที 86 บาเยิร์นน่าจะได้ประตูย้ำชัยจากจังหวะที่ชไวนี่ เปิดมาให้มุลเลอร์ ขึ้นโขกเน้นๆ โล่งๆที่เสาแรกประจำที่เก่าแต่โหม่งไปไหนไม่รู้ออกไปเอง
จบเกม บาเยิร์น มิวนิค ออกแรงเหนื่อยทีเดียว พลิกล็อคโดนขึ้นนำไปก่อนจากความผิดพลาดของนอยเออร์แต่มีโชคมาได้ประตูตีเสมอเร็วในครึ่งแรก ก่อนจะบดจนได้ประตูชัยจากโธมัส มุลเลอร์ก่อนหมดเวลา 15 นาที บุกชนะฮอฟเฟ่นไฮม์ 2-1 เก็บสามแต้มแซงดอร์ทมุนด์กลับไปนำเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง
