"หลุยส์ ซัวเรซ" ดาวยิงฟันล้ไหน้าเกมนี้เจมปลอกแขนกัปตันทีมแทน "สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด" ได้สวยงามจริงๆหลังซัลโวไปก่อน 2 เม็ดตามมาด้วย "จอร์แดน เฮนเดอร์สัน" และ "จอน ฟลานาแกน" และ "ราฮีม สเตอร์ลิ่ง" มาบวกเพิ่มบุกมาสอนบอล "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ที่เหลือ 10 ตัวช่วง 30 นาทีสุดท้ายหนแรกในรอบ 5 ปีด้วยสกอร์ถล่มทลาย 5-0 ขยับพรวดกลับมาอยู่รองจ่าฝูงตาม "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล เพียงแค่ 2 แต้มเท่านั้น
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม 2556
ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ 0-5 ลิเวอร์พูล
สนาม ไวท์ ฮาร์ท เลน เข้าสู่เกมช่วงครึ่งแรกมาไม่นาน "หงส์แดง" ก็มีโอกาสได้ยิงก่อนในจังหวะที่ดอว์สันสกัดบอลไม่ดีมาเข้าทางซัวเรซทำชิ่งจังหวะเดียวให้คูตินโญ่หลุดไปตรงกลางประตูแต่ดาวเตะบราซิลกลับยิงเบาเหลือเชื่อทำให้ญอริสรับได้ง่ายๆ
"หงส์แดง"มาได้ลุ้นเน้นๆจากจังหวะฟรีคิกริมเส้นเขตโทษด้านขวาคูตินโญ่เปิดยัดเข้ากลางโดนเตะทิ้งแต่ยังไปเข้าทางของอัลเลนที่ถอยตัวกลับมาแล้วยิงไปโดนแขนของเปาลินโญ่แต่มอสไม่เป่าเป็นการฟาวล์เพราะไม่ได้กางออกมาจนน่าเกลียด
จังหวะสวนกลับของลิเวอร์พูลยังน่ากลัวเหลือเกินและเกือบมาได้ประตูเลยเมื่อคูตินโญ่แทงบอลไปให้ซัวเรซจับบอลไม่อยู่เลยไปถึงเฮนเดอร์สันที่ตามไปเก็บในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนไหลกลับมาให้"หม่อมเหยิน"จับก่อนโดนกาปูแหย่ขาสกัดจนล้มแต่ดาวยิงอุรุกวัยพยายามกระเสือกกระสนลุกขึ้นมายิงต่อไปติดบล็อคกองหลังเจ้าถิ่นออกหลังไป
"หงส์แดง"น่าได้ประตูเหลือเกินในจังหวะนี้เมื่อสเตอร์ลิ่งลากบอลหนีกองหลังเข้าไปจนสุดริมเส้นหลังก่อนเปิดยัดเข้ามาตรงกลางบอลเลยซัวเรซที่เสาแรกไปแล้วก่อนจะโดนนอห์ตันสกัดบอลทิ้งออกหลังไม่กี่หลาหน้าปากประตูหวุดหวิด
และในนาทีที่ 18 ลิเวอร์พูลก็ขึ้นนำจนได้จากความยอดเยี่ยมของ"หม่อมกัด"ที่ได้รับบอลต่อมาจากเฮนเดอร์สันซึ่งดอว์สันสกัดไม่ขาดก่อนล็อคหนีวอล์คเกอร์หลังหักเรียกรถพยาบาลด่วนแล้วแปด้วยซ้ายยัดเสาสองเข้าไปอย่างเยือกเย็นเป็นประตูที่ 16 ของเขาในพรีเมียร์ลีก
"หงส์แดง"น่าได้อีกแล้วเมื่อราฮีมแย่งบอลได้จากกลางสนามก่อนแทงบอลจังหวะเดียวให้ซัวเรซหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนจะยิงหวังให้ลอดขาญอริสแต่ไม่ได้ทำให้บอลออกหลังได้เตะมุมเท่านั้นเอง
"ไก่เดือยทอง"มีโอกาสบ้างในจังหวะที่ชาดลี่ทำเกมขึ้นมาทางกราบซ้ายของสนามก่อนครอสบอลเข้าไปหน้าปากประตูให้โซลดาโด้หันหลังโขกบอลเหินข้ามคานไม่ได้ลุ้น
ยังเป็น"หงส์แดง"ที่น่ารักน่าลุ้นกว่าเยอะเมื่อลูคัสเล่นฟรีคิกเร็วจากกลางสนามให้ซัวเรซลากหลุดไปถึงเส้นหลังแล้วตักกลับมาให้คูตินโญ่วิ่งมาล้มตัวยิงวอลเลย์บอลไปชนคานสนั่นก่อนที่กาปูโขกออกมาไม่ดีจอห์นสันวิ่งเข้ามาสับเปรี้ยงเดียวเฉี่ยวสามเหลี่ยมออกไปไม่มาก
เจ้าถิ่นมาได้ลุ้นอีกครั้งในจังหวะเตะมุมด้านซ้ายที่โฮลท์บี้เปิดบอลมาทางเสาใกล้ให้ชาดลี่ทะยานขึ้นโขกคนเดียวโล่งโจ้งไม่มีกองหลังกวนใจแต่กดบอลไม่ลงทำให้เหินข้ามคานออกไปเยอะ
ทีมเยือนพลาดได้ประตูที่ 2 แบบสุดเหลือเชื่อเมื่อญอริสออกมาตัดบอลนอกกรอบเขตโทษพลาดเลยบอลเลยไปถึงซัวเรซที่ทำเป็นใจเย็นจับบอลก่อนไม่ยอมยิงหน้าปากประตูโล่งๆก่อนที่จะกดด้วยขวาทำให้มือกาวฝรั่งเศสพุ่งกลับมาแก้ตัวบล็อคเอาไว้ได้ในจังหวะสุดท้าย
สเปอร์สมาได้ลุ้นบ้างในจังหวะที่ลูคัสเข้าพรวดสุดเส้นด้านขวาทำให้โซลดาโด้ได้หลุดมาเปิดถวายพานไปยังโฮลท์บี้ยิงเร็วทันทีแต่บอลก็หลุดเสาไกลเรียกว่าได้เสียวอยู่เหมือนกัน
นาทีที่ 40 ลิเวอร์พูลทิ้งห่างแล้วในจังหวะโต้กลับไวราฮีมโยนยาวไปให้คูตินโญ่แปะบอลจังหวะเดียวให้เฮนเดอร์สันที่เติมขึ้นมายิงไปติดญอริสบอลกระเด้งมาเข้าทางปืนของซัวเรซซัลโวอีกดอกก็ไปติดปลายมือของมือกาวน้ำหอมอีกแต่โชคร้ายยังไม่หมดสำหรับเจ้าถิ่นเพราะบอลมาตกใส่ตีนของเฮนโด้แปยัดด้วยขวาเข้าเสาแรกไปอย่างงดงาม
มิโญเล่ต์เกือบหางานใส่ตัวเสียแล้วเมื่อจับบอลพลาดห่างไปประมาณ 10 เมตรทำให้ต้องวิ่งมาแก้ก่อนโดนโซลดาโด้ชนควักบอลไปได้แล้วยิงไปติดกองหลังทว่ามอสเป่าให้เป็นการฟาวล์ในจังหวะแรกไปเรียบร้อยแล้ว
ออกสตาร์ทเกมช่วงครึ่งหลีง "นั่งยอง" เปลี่ยนเกมเลยโดยส่งฟรายเออร์สลงมาแทนนอห์ตันในตำแหน่งแบ็คซ้ายที่โดนราฮีมพาทัวร์จนเสียรูปมวยตลอดครึ่งแรกออกไป
โอกาสแรกของสเปอร์สในครึ่งหลังมาจากจังหวะที่ลิเวอร์พูลเคลียร์ไม่ดีก่อนบอลมาถึงโซลดาโด้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วยิงตูมกะให้ตายกันไปข้างทำให้บอลเหินข้ามคานออกไปไกล
เกือบเป็นประตูที่ 3 เลยเมื่อราฮีมลากบอลตรงกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วตักมาทางเสาไกลให้ซาโก้โถมขึ้นโขกระยะแต่หลาเดียวแต่ดันไปชนเสาบอลกระเด้งมาให้สเคอร์เทลง้างมาจากบ้านเลยแต่ยิงไม่ดีบอลปลิ้นหลังเท้าออกไปไกล
"ไก่เดือยทอง"เกือบได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะสกัดกันไม่ดีทำให้บอลไปถึงเลนน่อนในกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วยิงยัดเข้ามาเลยไปติดบล็อคของกองหลังกระเด้งออกมาราฮีมโขกตั้งอยู่หน้าปากประตูตัวเองให้โฮลท์บี้วิ่งเข้ามาใส่เต็มดอกก็ยังไปติดบล็อคของแข้ง"หงส์แดง"อีกครั้งโดยในจังหวะนี้สเคอร์เทลไปดึงโซลดาโด้ล้มลงในกรอบแต่กรรมการไม่เห็น
และในนาทีที่ 63 สเปอร์สมาโดนใบแดงจนได้ในจังหวะที่เปาลินโญ่เตะจรเข้ฟาดหางสูงใส่"หม่อมกัด"เข้าไปเต็มยอดอกตรงกลางสนามพอดีมอสไม่ลังเลควักใบแดงมาให้เจ้าตัวเชิญไปอาบน้ำก่อนเพื่อนทำให้โบอาสทำหน้าเซ็งไปตามระเบียบหลังจากนั้นไม่นานโฮลท์บี้ก็มาโดนเหลืองอีกคนเมื่อไปเตะอัลเลนเต็มๆดูเหมือนว่านักเตะเจ้าถิ่นจะระงับอารมณ์กันไม่ค่อยอยู่เสียแล้ว
นาทีที่ 70 "หม่อมกัด"ตัดสินใจไม่ดีเมื่อได้ลูกหลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแต่ดันไม่ยิงในจังหวะแรกลากไปอีกจังหวะก่อนยิงยัดที่เสาแรกไปโดนมือของญอริสปัดทิ้งออกหลังไปได้
"หงส์แดง"สวนกลับน่ากลัวอีกแล้วโดยเป็นซัวเรซที่เกี่ยวบอลได้ก่อนลากเข้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วไหลมาให้คูตินโญ่เอี้ยวตัวปั่นด้วยขวาหวังให้เข้าที่สามเหลี่ยมเสาไกลแต่บอลไม่เป็นดังหวังทำให้ออกไป
แต่แล้วในนาทีที่ 75 "หงส์แดง"ได้ประตูที่ 3 จนได้เมื่อบอลมาจากกลางสนามอัลเลนงัดบอลมาให้เฮนเดอร์สันลากเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วตอกกลับมาให้ซัวเรซวิ่งมาเปิดไปทางเสาไกลด้านซ้ายมีฟลานาแกนวิ่งเข้ามาซัดตูมเดียวชนคานก่อนกระเด้งเข้าประตูไปอย่างสวยงามนับเป็นประตูแรกของเขาในทีมชุดใหญ่
สเตอร์ลิ่งน่าจะได้ยิงกับเค้าบ้างเมื่อได้บอลทะลุช่องอย่างงามมาจากซัวเรซก่อนเกี่ยวได้ในจังหวะแรกทว่ายาวเกินไปทำให้ญอริสพุ่งออกมารับเอาไว้ได้สบายๆ
นาทีที่ 84 "หม่อมกัด"ทำประตูที่ 17 ของเขาในฤดูกาลนี้ได้อย่างสวยงามโดยอัลเบร์โต้แทงบอลมาอย่างสวยให้ซัวเรซหลุดไปเผชิญหน้ากับญอริสที่ต้องออกมาปิดมุมก่อนตักบอลข้ามหัวจอมหนึบน้ำหอมเข้าไปแบบต้องซูฮกจริงๆ
ก่อนหมดเวลานาทีเดียวซัวเรซเป็นพระเอกอีกแล้วจ่ายบอลให้ราฮีมหลุดเข้าไปล่อเป้าญอริสก่อนแปเน้นๆเข้าไปทางเสาขวามือไม่มีเหลือทำให้"หงส์แดง"ขึ้นนำสบายๆ 5-0
จบ 90 นาที"หงส์แดง"หักปากกาเซียนบุกมาคว้า 3 แต้มครั้งแรกในไวท์ ฮาร์ท เลนนับตั้งแต่ปี 2008 แถมยังเป็นการหยุดสถิติแพ้ 6 เกมรวดที่สนามแห่งนี้แล้วขึ้นไปรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงเหมือนเดิมส่วน"ไก่เดือยทอง"อยู่อันดับ 8 ท่ามกลางก้นร้อนๆของโบอาส