งานนี้ไม่รู้ใครร้อน ใครหนาวเลยครับ ระหว่างทีมเรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ มหาเศรษฐีแห่งเกาะอังกฤษ กับเจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลน่า มหาอำนาจลูกหนังแดนกระทิงดุ เมื่อผลการจับสลากประคู่ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก (รอบ 16 ทีมสุดท้าย) ปรากฏว่าทั้งคู่ต้องมาชนกัน ทั้งนี้เรือใบสีฟ้า และเจ้าบุญทุ่มถือเป็นสองทีมที่จัดได้ว่าน่าเกรงขามมากที่สุดในยุโรปเวลานี้ โดยต่างก็มีนักเตะคุณภาพระดับเวิร์ดคลาสอยู่ในทีมมากมายเต็มไปหมด อย่างแมนฯซิตี้ก็มีอาทิเช่น ดาบิด ซิลบา อเกวโร่ กุน ยาย่า ตูเร่ อัลบาโร่ เนเกรโด้ เป็นต้น
ทางฝั่งบาร์เซโลน่าก็มี ลิโอเนล เมสซี่ เนย์มาร์ เปโดร อันเดรส อิเนียสต้า เป็นต้น อย่างไรก็แต่หากเราว่ากันที่ชื่อชั้น เกียรติประวัติความสำเร็จในฟุตบอลรายการนี้ เราอาจจะกล่าวได้ว่าทางด้านบาร์เซโลน่านั้นเหนือกว่า มีประสบการณ์มากกว่า จึงอาจจะดูมีภาษีที่จะทะลุเข้าสู่รอบต่อไปมากกว่า แต่กระนั้นในรอบแรก หรือว่ารอบแบ่งกลุ่มที่ผ่านมาแมนฯซิตี้ก็เคยแสดงให้เห็นมาแล้วว่าการที่เป็นรองเรื่องประสบการณ์ และเกียรติประวัติความสำเร็จในฟุตบอลรายการนี้ของพวกเขาหาได้เป็นตัวขัดขวางการล้มทีมใหญ่ๆไม่ เมื่อพวกเขาสามารถบุกไปเอาชนะทีมเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค สุดยอดทีมแกร่งประจำยุโรปยุคนี้ ทั้งยังเป็นแชมป์เก่ารายการนี้ด้วย ฉะนั้นแล้วถึงภาพรวมบาร์ซ่าจะดูดีมีภาษีกว่า แต่ก็ย่อมต้องรู้สึกหนาวๆไม่น้อยที่ต้องเผชิญหน้ากับทีมเรือใบ
และยิ่งหากว่าเราคิดรวมสถิติการพบกันระหว่างบาร์เซโลน่า กับบาเยิร์น มิวนิคในฤดูกาลที่ผ่านมาด้วยแล้ว มันยิ่งชวนให้รู้สึกหนาวๆแทนทีมบาร์เซโลน่ามากยิ่งขึ้นไปใหญ่ เพราะว่าบาร์เซโลน่านั้นแพ้บาเยิร์น มิวนิคแบบชนิดหมดรูปถึง 2 นัด ทั้งไปและกลับ แต่กับแมนฯซิตี้ฤดูกาลนี้รวมผลสองนัดถือว่าสู้กับบาเยิร์น มิวนิคได้อย่างสูสี ดังนั้นเรื่องของมาตรฐานทีม ฟอร์มการเล่นของแมนฯซิตี้ และบาเยิร์น มิวนิคย่อมไม่ต่างกัน
