อาร์เซน่อล - เชลซี (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 23 ธันวาคม 2556
เวลา : 03:00 น.
ถ่ายทอดสด : CTH สเตเดี้ยม 1
เปรียบเทียบความพร้อมของทีม อาร์เซน่อล : "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ภายใต้การนำทีมของกุนซือเลือดน้ำหอม "อาร์แซน เวนเกอร์" หวังฟื้นจากความพ่ายแพ้ย่อยยับในเกมล่าสุดที่ออกไปโดน แมนฯ ซิตี้ ยำ 6-3 เพื่อทวงบัลลังก์จ่าฝูงคืนจาก ลิเวอร์พูล ให้ได้ สำหรับการเปิด เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ทำศึกลอนดอนดาร์บี้กับ เชลซี คืนวันจันทร์นี้
อย่างไรก็ตาม เวนเกอร์ จะต้องหมดสิทธิ์ใช้งาน แจ็ค วิลเชียร์ กองกลางทีมชาติอังกฤษ ที่ต้องเริ่มต้นโทษแบนสองนัด หลังโดน เอฟเอ ลงดาบ กรณีชูนิ้วกลางใส่แฟนๆ แมนฯ ซิตี้ ในนัดที่แล้ว
ขณะเดียวกัน เวนเกอร์ ยังต้องลุ้นให้ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ ปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศส ผ่านการทดสอบความฟิตลงบู๊ได้ หลังหน้าแข้งเจ็บในเกมพ่าย เรือใบสีฟ้า แต่ในรายของศูนย์หน้า ลูคัส โพดอลสกี้ พร้อมลุยอีกครั้ง หลังหายหน้าไปนานสามเดือน เนื่องจากเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ทว่ากองหน้า ยาย่า ซาโนโก้ (หลัง), กองกลาง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน และ อาบู ดิยาบี้ (หัวเข่าทั้งคู่) ยังคงต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บต่อไป
เชื่อว่า เวนเกอร์ พร้อมจัดทัพใหญ่ลงสนามในระบบ 4-2-3-1 ตามถนัด โดย มิเกล อาร์เตต้า ที่นั่งสำรองในเกมที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม จะลงปักหลักกลางสนามคู่กับ มาติเยอ ฟลามินี่ เพื่อทำลายเกม เชลซี ส่วน ธีโอ วัลค็อตต์, อารอน แรมซี่ย์ และ เมซุต โอซิล พร้อมปั้นให้หอกเป้า โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
สำหรับแนวรับ หากว่า กอสซิแอลนี่ ไม่ไหวจริงๆ โอกาสก็จะตกเป็นของ โธมัส แฟร์มาเล่น อดีตปราการหลังกัปตันทีมชาวเบลเยียมในการจับคู่กัปตันทีมคนปัจจุบัน แพร์ แมร์เตซัคเคอร์
เชลซี : ฝั่งทางด้านของทีเยือน "สิงห์บลูส์" เชลซี ภายใต้บังเหียนของ "โชเซ่ มูรินโญ่" กุนซือชาวโปรตุเกสลุ้นคว้าสามแต้มเพื่อไล่บี้จ่าฝูง หงส์แดง เช่นกัน หลังจากที่เพิ่งออกไปโดน ซันเดอร์แลนด์ ตบ 2-1 หลังต่อเวลาพิเศษ จนตกรอบ แคปปิตอล วัน คัพ เมื่อกลางสัปดาห์
แอชลี่ย์ โคล แบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษ อดีตเด็กปั้น อาร์เซน่อล คงต้องกลับไปนั่งสำรองอีกครั้งในการเจอทีมเก่าของตัวเองคืนวันจันทร์นี้
จากการที่ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช พ้นโทษแบนหนึ่งเกมแล้ว ทำให้ดาวเตะเซิร์บ เตรียมยึดตำแหน่งแบ็กขวา และ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า จะได้กลับไปเล่นด้านซ้ายเหมือนช่วงก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมที่ได้พักในเกมฟุตบอลถ้วย ก็พร้อมลงบัญชาเกมรับอีกครั้ง แต่ ไมเคิ่ล เอสเซียง จอมลุยที่ได้ใบเหลืองใบที่ห้าของฤดูกาลในเกมดังกล่าว จะติดโทษแบน และเป็นแค่ผู้ชมเช่นเดียวกับ มาร์โก ฟาน กิงเคล (หัวเข่า) ที่พักยาว
เชื่อว่า กุนซือจอมแท็กติกชาวโปรตุกีส คงปรับเปลี่ยนทีมบางตำแหน่งจากชุดที่พ่าย แมวดำ โดยต้องเลือก แฟร้งค์ แลมพาร์ด หรือ จอห์น โอบี มิเคล ที่ลงเล่นครบ 120 นาที เพื่อคุมแดนกลางคู่กับ รามิเรส ส่วนแนวรุก เฟร์นานโด ตอร์เรส พร้อมทวงตำแหน่งตัวจริงคืน โดยมี อันเดร เชือร์เล่, ออสการ์ กับ เอแด็น อาซาร์ ปั้นให้
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อาร์เซน่อล : (4-2-3-1) : วอยเชียค เชสนี่ - บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ (โธมัส แฟร์มาเล่น), แพร์ แมร์เตซัคเคอร์, คีแรน กิ๊บบ์ส - มิเคล อาร์เตต้า, มาติเยอ ฟลามินี่ - ธีโอ วัลค็อตต์, อารอน แรมซี่ย์, เมซุต โอซิล - โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
เชลซี : (4-2-3-1) : ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า - รามิเรส, จอห์น โอบี มิเคล - อันเดร เชือร์เล่, ออสการ์, เอแด็น อาซาร์ - เฟร์นานโด ตอร์เรส
วิจารณ์เกมการแข่งขัน
"เดอะ กันเนอร์ส" ลุ้นชัยเพื่อจะทวงคืนตำแหน่งจ่าฝูง แต่ทว่าเกมนี้ดูแล้วไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมของ "เวนเกอร์" ยังไม่เคยเอาชนะ "มูรินโญ่" ได้เลย เมื่อแพ้ถึง 5 และเสมอ 4 จากการพบกันทั้งหมด 9 เกม และทีมเยือน ก็ต้องเน้นเพื่อลบล้างความอับอายที่ตกรอบฟุตบอลถ้วย "สิงห์บลูส์" จะเน้นครองบอลรอจังหวะเข้าทำแต่ทว่าต้องระวังตัวอันตรายอย่าง "วัลค็อตต์" ไว้ให้ดี เพราะได้ชื่อว่าเป็นคนที่ยิง "เชลซี" มากสุดในชีวิตนักเตะ อย่างไรก็ตามดูรวมๆแล้วแนวโน้มน่าจะออกไปทางเสมอมากสุด