เชลซี - ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 29 ธันวาคม 2556
เวลา : 23:00 น.
ถ่ายทอดสด : CTH สเตเดี้ยม 1
เปรียบเทียบความพร้อมของทีม เชลซี : "สิงบลูส์" ภายใต้การทำงานของกุนซือชาวโปรตุเกส "โชเซ่ มูรินโญ่" ลุ้นคว้าสามแต้มเพื่อไล่ล่าตำแหน่งผู้นำ หลังจากนัดก่อน เปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์ หั่นสวอนซีหวุดหวิด 1-0
แต่ในศึกซูเปอร์ซันเดย์วันอาทิตย์กับลิเวอร์พูล วันอาทิตย์นี้เจ้าบ้านจะอดใช้บริการ รามิเรส กองกลางทีมชาติบราซิล ที่ต้องชดใช้โทษแบนหนึ่งนัดจากการสะสมใบเหลืองครบห้าใบในเกมกับหงส์ขาว โดยคาดกันว่ามูรินโญ่จะให้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ปักหลังกลางสนามในฐานะตัวจริงอีกครั้ง
ส่วนตำแหน่งอื่นๆ เชื่อว่ากุนซือชาวโปรตุกีส จะนำระบบหมุนเวียนผู้เล่นมาใช้เช่นเคย โดยสองกองหลัง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า กับ แกรี่ เคฮิลล์ จ่อได้หวนคืนแนวรับแทน แอชลี่ย์ โคล และ ดาวิด ลุยซ์
ขณะที่เกมรุก เฟร์นานโด ตอร์เรส มีสิทธิ์ได้เผชิญหน้าทีมเก่า โดยมี อันเดร เชือร์เล่ กับวิลเลี่ยน ที่ไม่ได้เป็นตัวจริงในนัดล่าสุด ต่างลุ้นที่จะได้ลงรับบทสามตัวรุกร่วมกับออสการ์ กับ เอแด็น อาซาร์ ที่ถูกเปลี่ยนออกมาเก็บในช่วงครึ่งหลังเมื่อวันบ็อกซิ่ง เดย์
ลิเวอร์พูล : ฝั่งทางด้านของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ของกุนซือตาหวาน "เบรนแดน ร็อดเจอร์ส" เกมนี้หวังกระชากตัวเองกลับมาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะอีกครั้ง หลังออกไปถูก "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ เชือด 1-0 จนหล่นบัลลังก์จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก
ความพร้อมก่อนเยือนลอนดอน ร็อดเจอร์ส อดีตโค้ชเชลซี จะต้องอดใช้บริการ วิคเตอร์ โมเสส แกนรุกชาวไนจีเรียที่ยืมมาจากสิงโตน้ำเงินครามเอง ตามข้อตกลง
ขณะที่ตัวเลือกของบีร็อดก็มีอยู่อย่างจำกัดอยู่แล้ว เมื่อกัปตันทีม สตีเว่น เจอร์ราร์ด และแบ็กซ้ายดาวรุ่ง จอน ฟลานาแกน (เอ็นหลังหัวเข่า) ยังไม่พร้อมหวนคืนสนาม ทำให้กุนซือหนุ่ม อาจดันดาวรุ่งขึ้นมาเป็นตัวเลือกด้วย ส่วน แดเนียล สเตอร์ริดจ์ (ข้อเท้า) และแบ็กซ้าย โฆเซ่ เอ็นริเก้ (หัวเข่า) ยังต้องพักถึงปีใหม่
เชื่อกันว่า บีร็อด คงต้องยึดทีมชุดเดิมๆ แม้พ่ายศึกที่เอติฮัด สเตเดี้ยม ภายใต้ระบบ 4-2-3-1 โดย อาลี ซิสโซโก้ ยังจะได้ทำหน้าที่แบ็กซ้ายต่อ ส่วนแดนกลางยามไร้เจอร์ราร์ดจะยังเป็นหน้าที่ของ โจ อัลเลน, ลูคัส เลวา และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ขณะที่แนวรุก หลุยส์ ซัวเรซ จะสวมปลอกแขนกัปตันทีมผนึกกำลังกับ ราฮีม สเตอร์ลิง และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี : (4-2-3-1) : ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แกรี่ เคฮิลล์, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า - จอห์น โอบี มิเคล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด - อันเดร เชือร์เล่, ออสก้าร์, เอแด็น อาซาร์ - เฟร์นานโด ตอร์เรส
ลิเวอร์พูล : (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ - เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, มามาดู ซาโก้, อาลี ซิสโซโก้ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ลูคัส เลวา, โจ อัลเลน - ราฮีม สเตอร์ลิง, หลุยส์ ซัวเรซ, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่
วิจารณ์เกมการแข่งขัน
"สิงห์บลูส์" ชนะแค่นัดเดียวจากห้านัดหลังสุดที่เตะพรีเมียร์ลีกกับ "หงส์แดง" โดยแพ้ถึงสาม ซึ่งเกมนี้ "น้ามู" หวังจะแก้ไขให้ได้ โดยเฉพาะนี่คือการพบกับคู่แข่งลุ้นแชมป์ แต่อย่างไรก็ตามนัดนี้ "สิงห์ไฮโซ" ขาดแข้งคนสำคัญอย่าง "รามิเรส" ไปต้องส่งผลกระทบต่อห้องเครื่องแน่ ขณะที่ทางด้านของ "หงส์แดง" แนวรุกไม่ธรรมดา นับเฉพาะตอนมาเยือน ลอนดอน 14 นัดหลังสุด ซัดไปถึง 29 เม็ดแล้ว แม้คงไม่ง่ายในการเจาะ "เชลซี" ที่เสียแค่เจ็ดลูกจากเก้านัดในลีกที่บ้าน แนวโน้มเกมน่าชิงจังหวะกัน และเหล่าบรรดาขุนพลหงส์แดงนั้นคึกพอที่จะบุกไปเก็บหนึ่งแต้มกลับออกมาได้แบบหวุดหวิด