กลายเป็นที่กล่าวขานกันไปแล้วสำหรับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เล่นในบ้านเมื่อไหร่ก็โหดเมื่อนั้นโดยเกมนี้ไล่ยำใหญ่ "กุหลาบไฟ" แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 5-0 ในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 3 นัดแข่งใหม่โดยได้ประตูจากเหล่าดาวยิงทั้งอัลบาโร่ เนเกรโด้, เอดิน เชโก้และเซร์คิโอ อเกวโร่ที่เพิ่งหายเดี้ยงก็มีชื่อขึ้นสกอร์บอร์ดด้วย
เอฟเอ คัพ รอบ 3 นัดรีเพลย์
วันพุธที่ 15 มกราคม 2557
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5-0 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม เปิดฉากลงสนามมาเล่นกันแค่ 2 นาที "ซิตี้" เกือบมาได้ประตูจากจังหวะที่มิลเนอร์เปิดบอลจากนอกกรอบเขตโทษด้านซ้ายมาให้เชโก้ได้โขกแต่ก็กดไม่ลงทำให้บอลเลยเหินข้ามคานออกไปเยอะพอสมควร
เข้าสู่ทนาทีที่ 10 การผสานงานกันระหว่างกองหน้าซิตี้เริ่มออกฤทธิ์เมื่อเนเกรโด้พักบอลมาให้เชโก้จับบอลก่อนหนึ่งจังหวะแล้วอัดด้วยขวาแต่ก็ยังกดไม่ลงทำให้บอลเลยหลุดกรอบออกไปไกลอย่างน่าเสียดาย
ผ่าน 20 นาทีมาแล้วแบล็คเบิร์นมาได้โอกาสบ้างจากจังหวะฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษระยะ 20 หลากลางประตูเลยแต่มาร์แชลล์วิ่งเข้ามายิงผ่านกำแพงไปแล้วก่อนจะไปตรงตัวของปานติลิม่อนกลางประตูรับเอาไว้สบายๆ
"เรือใบสีฟ้า"ยังบุกอย่างต่อเนื่องและคราวนี้เป็นทีของมิดฟิลด์อย่างการ์เซียที่เห็นกองหน้าเจาะไม่ได้เลยขอยิงไกลบ้างโดยดาวเตะสเปนสับด้วยขวาระยะกว่า 30 หลาบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นก่อนที่โรบินสันจะต้องทุบบอลทิ้งออกมาแต่ไม่มีใครเข้ามาซ้ำทำให้ทีมเยือนพ้นอันตรายออกไป
น.ที่ 36 ซิตี้เกือบได้ประตูเลยเมื่อนาบาสได้รับบอลโยนยาวมาจากปานติลิม่อนก่อนเปิดเลียดเข้าไปในกรอบ 6 หลาโดยทั้งเชโก้กับเนเกรโด้พยายามเข้าชาร์จที่เสาแรกและเสาสองแต่ก็ไม่โดนบอลทั้งคู่ทำให้ออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
แต่แล้วช่วงทดเวลาบาดเจ็บทำนบของแบล็คเบิร์นก็แตกจนได้ในจังหวะที่แฟร์นานดินโญ่หลุดมาทางกราบขวาก่อนเปิดเข้ากลางประตูให้เนเกรโด้วิ่งสอดเข้ามาโขกเต็มหัวบอลผ่านโรบินสันเข้าไปสุดเฉียบคมเป็นประตูที่ 20 รวมทุกรายการของเขาในซีซั่นนี้
ต่อมาในช่วงครึ่งหลัง 2 นาทีเจ้าถิ่นได้ประตูขึ้นนำเลยโดยเป็นโคลารอฟที่เปิดบอลจากกลางสนามฝั่งซ้ายกองหลังแบล็คเบิร์นสกัดพลาดไปเข้าทางของเนเกรโด้ที่วิ่งเข้ามาดีดบอลด้วยซ้ายผ่านมือของอีสต์วู้ดที่เพิ่งจะลงสนามมาเข้าไปไม่เหลือซาก
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 59 เจ้าถิ่นยังดาหน้าบุกต่อไปและเป็นมิลเนอร์ที่ลากขึ้นมาทางริมเส้นด้านขวาก่อนเปิดย้อนกลับไปให้เนเกรโด้จับบอลนอกกรอบเขตโทษแล้วอัดซ้ายซ้ายทันทีทว่าบอลยิงข้ามคานออกไปไกลไม่ได้ลุ้นเลย
นาทีที่ 64 "กุหลาบไฟ"มีลุ้นบ้างเหมือนกันเมื่อพวกเขาเติมเกมขึ้นทางทางฝั่งซ้ายก่อนได้เปิดเข้ากลางให้คิงที่เพิ่งจะลงมาได้โขกแต่บอลก็ยังไม่ตรงกรอบและหลังจากนั้นไม่นานกองหลังเจ้าถิ่นทำพลาดปล่อยให้คิงหลุดไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนยิงยัดเสาแรกปานติลิม่อนยังปัดทิ้งออกมาสุดหวาดเสียว
และก็เป็นทีของเชโก้บ้างเมื่อมิลเนอร์เปิดบอลจากแดนตัวเองไปให้นาบาสหลุดลากจนสุดเส้นหลังฝั่งขวาก่อนสไลด์ตัวเปิดบอลมาที่เสาแรกเป็นหัวหอกบอสเนียตั้งป้อมหวดตูมเดียวยัดเสาแรกเข้าไปแบบสุดหมดจด
บทจะยิงก็ยิงกันหมดเมื่อเซร์คิโอ อเกวโร่ที่เพิ่งจะลงมาแทนเนเกรโด้ไม่ถึงสองนาทีก็ยิงได้โดย"เรือใบสีฟ้า"ขึ้นเกมมาทางด้านซ้ายกลีชี่เปิดเข้าในกรอบให้เชโก้จับบอลพลิกแล้วไหนให้กุนจับบอลก่อนแล้วตวัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบตาข่ายสบายๆ
เป็นผลงานที่ต้องชมนาบาสอีกแล้วเมื่อเขาได้บอลลากไปตรงริมเส้นด้านขวาก่อนเปิดอย่างเหมาะเหม็งให้เชโก้วิ่งเข้ามาซัดตูมเดียวไม่เหลือซากเป็นประตูที่ 5 ของเจ้าถิ่นแบบหวานหมูสบายอุรากันไป
นาทีที่ 88 มิลเนอร์รับอาสายิงฟรีคิกระยะ 20 หลาหน้าปากประตูด้านซ้ายโดยเขาวิ่งเข้ามายิงบอลเฉี่ยวเสาสองไปนิดเดียวเท่านั้นก่อนที่"เรือใบสีฟ้า"จะตบเท้าเข้าไปชน"แตนอาละวาด"วัตฟอร์ดในรอบ 4