เชลซี - แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 19 มกราคม 2557
เวลา : 23:00 น.
ถ่ายทอดสด : CTH สเตเดี้ยม 1
เปรียบเทียบความพร้อมของทีม เชลซี : ทีม "สิงห์บลูส์" เชลซี ภายใต้การทำงานของกุนซือแฮปปี้ วัน "โชเซ่ มูรินโญ่" หมายมั่นปั้นมือลุ้นสามแต้มในบิ๊กแมตช์ซูเปอร์ซันเดย์ เพื่อรักษาความหวังในการลุ้นแชมป์ต่อไป หลังนัดก่อนออกไปทะลวงน้องใหม่ ฮัลล์ 2-0 ที่ เคซี สเตเดี้ยม
ความพร้อมล่าสุดมีรายงานว่า แฟร้งค์ แลมพาร์ด กองกลางจอมเก๋า มีลุ้นสลัดอาการเจ็บกล้ามเนื้อกลับมาเป็นตัวเลือกได้ในเกมบิ๊กแมตช์กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ กระนั้นมีแนวโน้มอาจนั่งสำรองไปก่อน
แต่สำหรับ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กองหลังเซิร์บที่เพิ่งหายเจ็บเข่ากลับมาซ้อมได้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ยังไม่น่ามีเอี่ยวให้ แอชลี่ย์ โคล จะทำหน้าที่แบ็กซ้ายตัวจริงต่อไป ปล่อยให้ทางฝั่งขวาเป็นงานของ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า
ขณะที่แดนกลาง ตัวใหม่แต่หน้าเก่าอย่าง เนมานย่า มาติช ยังไม่น่าได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงหลังเพิ่งย้ายมา โดย ดาวิด ลุยซ์ ที่ทำผลงานไม่เลวในบทบาทมิดฟิลด์ เตรียมปักหลักทำลายเกมร่วมกับรามิเรส เพื่อนร่วมทีมชาติบราซิลอีกนัด
ส่วนเกมรุก มูรินโญ่คงยึดผู้เล่นชุดเดียวกับที่บุกกำราบฮัลล์ได้ โดยมี เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ซัดหนึ่งเม็ดในนัดล่าสุดรับบทหัวหอกตัวเป้าที่มีสามพระกาฬอย่าง วิลเลี่ยน, ออสการ์ และ เอแด็น อาซาร์ ปั้นให้
แมนฯ ยูไนเต็ด : ส่วนฝั่งทางด้านทีมแชมป์เก่าของกุนซือหน้าอีที "เดวิด มอยส์" หยุดสถิติพ่ายติดต่อกันทุกรายการไว้ที่สามนัด เมื่อเปิดโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดอัดสวอนซี 2-0 ก่อนมีโปรแกรมหนักเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์
สภาพทีมล่าสุดมีข่าวว่า เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษยังจะไม่สามารถช่วยทีมได้เป็นนัดที่สี่ติดต่อกัน เพราะมีอาการเจ็บโคนขาหนีบ แม้ถูกสโมสรส่งตัวไปรักษาและพักฟื้นที่อียิปต์มาหมาดๆ ก็ตาม
ส่วน โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ดาวซัลโวทีมชาติฮอลแลนด์ ก็ยังคงต้องเป็นแค่ผู้ชมต่อไปอีกนัด โดยมีคิวกลับมาซ้อมวันจันทร์นี้หลังเจ็บต้นขาจนหายหน้าไปหกวีก ขณะที่กองหลัง ฟิล โจนส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์ (หัวเข่าทั้งคู่) และ จอนนี่ อีแวนส์ (หลัง) ยังไม่ไหว
นอกจากนี้ มารูยาน เฟลไลนี่ (ข้อมือ) และ แอชลี่ย์ ยัง (ไหล่) ก็ต้องพักรักษาอาการเจ็บต่อทำให้วืดแน่ เช่นเดียวกับฟูลแบ็ก ฟาบิโอ ดา ซิลวา ที่ติดโทษแบนเป็นนัดสุดท้ายจากใบแดงที่ได้รับในเกมเอฟเอ คัพ ที่ถูกสวอนซีถีบตกรอบ
มอยส์คงยึดทีมชุดที่ทำผลงานได้ดีในเกมอัดหงส์ขาว โดยแนวรับก็คงต้องใช้ คริส สมอลลิ่ง คู่กับกัปตันทีม เนมานย่า วิดิช ต่อไป ส่วนห้องเครื่องเป็นหน้าที่ของ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ กับ ไมเคิ่ล คาร์ริค ปล่อยให้เจ้าหนู อั๊ดนาน ยานาไซ, ชินจิ คางาวะ และ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ปั้นให้หอกเป้าอย่าง แดนนี่ เวลเบ็ค ที่กดไปหกลูกจากการลงสนามหกนัดในพรีเมียร์ลีก
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี : (4-2-3-1) : ปีเตอร์ เช็ก - เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, จอห์น เทอร์รี่, แกรี่ เคฮิลล์, แอชลี่ย์ โคล - ดาวิด ลุยซ์, รามิเรส - วิลเลี่ยน, ออสการ์, เอแด็น อาซาร์ - เฟร์นานโด ตอร์เรส
แมนฯ ยูไนเต็ด : (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - ราฟาเอล ดา ซิลวา, คริส สมอลลิ่ง, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - ไมเคิ่ล คาร์ริค, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ชินจิ คางาวะ, อั๊ดนาน ยานาไซ - แดนนี่ เวลเบ็ค
วิจารณ์เกมการแข่งขัน
ก่อนหน้านี้ "ปีศาจแดง" อาจเพิ่งซิวชัยมาหมาดๆ แต่หากเทียบเรื่องความสม่ำเสมอล่ะก็ยังต่างกับ "เชลซี" ที่เชื่อใจได้แน่นอนโดยเฉพาะเวลาเล่นในบ้าน ซึ่ง 11 นัดหลังชนะถึง 10 เกมเลยทีเดียว นอกจากนี้ "สิงห์ไฮโซ" นั้นยังไม่แพ้ให้ "ปีศาจแดง" เลยในห้านัดหลังที่เจอกันรวมทุกรายการ แนวรุกที่มีแข้งตัวจี๊ดๆอย่าง อาซาร์, วิลเลี่ยน และ ออสการ์ เล่นงานแผงหลัง "ทัพผี" หัวหมุนแน่ ขณะที่ฝั่งทางด้านของทีมแชมป์เก่าการขาด "รูนี่ย์" ไปก็ไม่ช่วยอะไรเลย โดยพวกเขายิง "สิงห์บลูส์" ไม่ได้เลยในสามนัดหลังที่พบกัน และไม่เคยยิงได้เลยที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในยุคของ "มูรินโญ่"