งานนี้คงจะต้องบอกว่าสตาร์ บาเยิร์น มิวนิค ผู้พลาดรางวัลบัลลดอร์ 2013 เหลืออดเหลือทนจริงๆแล้วล่ะครับ เพราะแม้ว่าจะเพิ่งกล่าวไปหยกๆว่าไม่เสียดายรางวัลบัลลงดอร์ และให้ความสำคัญกับการคว้าแชมป์ร่วมกับทีมต้นสังกัดมากกว่า แต่ทว่ามาหนล่าสุดนี้เจ้าตัวกลับกล่าวแบบตรงไปตรงมาว่าตนเองสมควรที่จะได้รางวัลดังกล่าวมากกว่าคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทั้งยังจวกฟีฟ่าซะยับที่ทำให้การโหวตรางวัลครั้งนี้น่ากังขา เช่นเดียวกันกับการจัดทีมยอดเยี่ยมที่เจ้าตัวก็รู้สึกไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ ริเบรี่ ชี้ว่าการที่ตนเองคว้าแชมป์ได้กับบาเยิร์น 5 แชมป์ในรอบปี 2013 นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ตนเองสมควรได้รับรางวัลฟีฟ่า บัลลงดอร์ 2013 ด้วยประการทั้งปวง ไม่ใช่คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ ผู้ซึ่งไม่ได้แชมป์รายการใดเลย และเรื่องของการเลื่อนกำหนดการปิดโหวตมันก็เป็นอะไรที่ชัดเจนมากๆว่าเอื้อประโยชน์ให้กับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ การเลื่อนกำหนดปิดโหวตแบบนี้ไม่เคยขึ้นมาก่อนกับการมอบรางวัลนี้ มันเป็นสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฟุตบอลเลย หากแต่เกี่ยวข้องกับการเมืองล้วนๆ ฉะนั้นเขาจึงไม่รู้สึกเสียใจอะไรกับการที่ไม่ได้รับรางวัลนี้เลย แต่รู้สึกเจ็บปวดมากๆกับสิ่งที่ฟีฟ่าทำ ส่วนเรื่องการจัดทีมยอดเยี่ยมฟีฟ่า 2013 ริเบรี่กล่าวว่าเป็นอะไรที่ตนเองไม่เห็นด้วยมากๆ เพราะมีนักเตะจากบุนเดสลีกาติดทีมแค่ 3 คนเท่านั้น (นอยเออร์, ลาห์ม, ริเบรี่) นอกนั้นมาจากในลีกสเปนซะเป็นส่วนใหญ่
ทั้งๆที่ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก เป็นทีมบาเยิร์น กับดอร์ทมุนด์ สองทีมจากเยอรมันที่เข้าชิงกันเอง และบาเยิร์น มิวนิคก็กวาดแชมป์ไปถึง 5 แชมป์ ซึ่งเขาคิดว่าอย่างน้อยนักเตะจากบาเยิร์นน่าจะมีกว่านี้เช่น อลาบา ร็อบเบน ชไวน์สไตเกอร์ เป็นต้น เช่นเดียวกันทีมดอร์ทมุนด์ก็ควรจะมีนักเตะอย่าง เกิทเซ่ (เกิทเซ่ย้ายมาอยู่กับบาเยิร์น มิวนิคแล้วเมื่อตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ที่ผ่านมา) และโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ที่ติด สำหรับ 5 แชมป์ของบาเยิร์นในปี 2013 ประกอบไปด้วย บุนเดสลีกา เดเอฟเบ โพคาล ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์สีก ยูโรเปี้ยน ซุปเปอร์คัพ และฟีฟ่าคลับ เวิร์ด คัพ หรือแชมป์สโมสรโลก
