"กองทัพผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หมดน้ำยาไม่สามารถทำอะไรเจ้าภาพ "กาลาตาซาราย" ที่เปิดบ้านเอาชนะพวกเขาไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 พ่ายเกมแรกของแชมป์เปี้ยนส์ ลีกปีนี้ไป
ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม เอช
วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน 2555
กาลาตาซาราย 1 - 0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม เติร์ก เทเลคอม อารีน่า เริ่มเกมมาเล่นกันจนป่าน 10 กว่านาทีแรกไปยังไม่มีประตูหรือโอกาสลุ้นแบบเสียวๆให้เห็น แต่บอกได้เลยว่าบรรยากาศมันกดดันน่าดู ไม่ว่าแมนฯยูไนเต็ดจะบุกไปในรูปแบบไหน จับบอลนานไหม แฟนเจ้าบ้านก็พร้อมใจกันโห่ก้องสนาม เจอแบบนี้คงต้องมีไข่สั่นกันบ้างล่ะ
นาทีที่ 19 มีใบหลืองโปล่มาให้เห็น 2 ใบแล้วสำหรับเกมนี้ จังหวะแรกเป็นของคาย่าที่เสียบดุใส่บุตต์เนอร์ ส่วนใบที่ 2 นั้นเป็นของราฟาเอลที่ไปเจตนาทำฟาวล์ผู้เล่นเจ้าถิ่น ต้องจับตากันหน่อย เดือดขึ้นมาจะได้ดูใบแดงกันถูก!
อีก 2 นาทีต่อมา กดลงอีกนิดก็น่าจะมีประตูแรกของเกมแล้ว สำหรับจังหวะฟรีคิกของกาลาตาซารายที่ปั่นบอลโค้งเข้าไปในเขตโทษที่เสาแรก มียิลมาซขึ้นโหม่งสะบัดชิงจังหวะได้ก่อนคนเดียวแบบเหน่งๆ แต่บอลเหินเกิน เลยหลุดคานออกไปได้ระยะอยู่
ผ่านครึ่งชั่วโมงแรกของเกม ที่เห็นกันโดยมากมักเป็นจังหวะของเจ้าบ้านที่ได้ครองบอลพยายามหาช่องบุกใส่ทีมเยือน ส่วนแมนฯยูไนเต็ดเน้นไปที่การสวนกลับด้วยจังหวะน้อยที่สุด แต่ยังไม่เป็นผลทั้งสองฝ่าย แต่ที่เห็นผลเลยคือจังหวะฟาวล์มีเยอะน่าดู
นาทีที่ 33 ได้ลุ้นยิงเต็มเท้าก็งานนี้สำหรัลอัลตินท็อปที่เขาได้บอลนอกกรอบเขตโทษ มีจังหวะตั้งป้อมชาร์จพลังซัดบอลเต็มแรง พุ่งเข้าหาเสาแรก แต่ลินเดการ์ดไม่พลาดปัดเอาไว้ได้ ก่อนจะมีประเด็นอยู่สักหน่อยตรงที่ผู้เล่นกาลาฯเปิดบอลไปติดแขนกองหลังแมนฯยูไนเต็ดในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไรเลยตกไป
นาทีที่ 43 นึกว่าจะทำประตูโชว์หล่อในแชมป์เปี้ยนส์ ลีกได้บ้างสำหรับพาวล์ที่เติมขึ้นไปรอเสาสองในจังหวะเตะมุม ก่อนขึ้นโขกบอลได้เต็มเหน่ง ผ่านมือของมุสเลร่าไปแล้ว แต่จูบคานเต็มรักเลย
จบ 45 นาทีแรก ทั้งคู่ยังคงเสมอกันอยู่ 0-0 เกมถือว่าสนุกน่าดู เพราะค่อนข้างที่จะเปิดเข้าใส่กันอยู่ในทุกจังหวะ ขาดแต่ประตูแรกที่จะเข้ามาเปลี่ยนจังหวะของเกมเท่านั้นเอง
ต่อมาในช่วงครึ่งหลังลงสนามมาเล่นกันต่อในนาทีที่ 54 อุตส่าห์โชว์ซูเปอร์เซฟออกมาแล้วสำหรับลินเดการ์ดที่ดีดตัวปัดลูกโหม่งเต็มหัวจากระยะไม่กี่หลาของเมโล่ได้ เพราะคาร์ริคดันไปพยายามสกัดโดนใช้ขา แต่สุดท้ายก็มาเสียประตูจากลูกเตะมุมที่โยนเข้ามาลงหัวของบิลมาซพอดี บอลพุ่งเข้าเบียดเสา นายด่าน "ปีศาจแดง" ได้แต่ยืนทำใจ เจ้าถิ่นนำ 1-0 เสียงเฮดังลันได้ใจจริงๆ
อีก 5 นาทีต่อมา แมนฯยูไนเต็ดได้ลุ้นตีเสมอจากเกมสวนกลับที่เวลเบ็คได้ลากหลุดขึ้นไปทางขวา ก่อนจะแตะหักเข้าในแล้วไหลต่อให้เอร์นานเดซที่ไม่มีใครประกบอยู่ แต่เหมือนบอลมันไม่เป็นใจ จังหวัจับแล้วยิงเลยไม่พอดี โดนบล็อกเอาไว้ได้
พอโดนประตูแรกเข้าไป แมนฯยูไนเต็ดก็มีปฏิกริยาเดิมที่คุ้นเคยคือตื่นตัวและเล่นกันได้ดีขึ้น จังหวะทะลุทะลวงที่ไม่เคยเห็นเลยตั้งแต่ต้นเกมก็มีให้ได้เห็น แต่ยังต้องรอโอกาสเหมาะๆในการทำประตูให้ได้อยู่
นาทีที่ 74 แมนฯยูไนเต็ดมีการขยับเปลี่ยนผู้เล่นสองตำแหน่ง โดยเลือกส่งยังและมาเคด้าที่ช่วงหลังๆหายไปจากทีมเลยลงเล่นและถอดเอาอันแดร์สันกับพาวล์ออกไป
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย แม้ว่าจะต้องพึ่งลูกเซฟของลินเดการ์ดอีกครั้งเพื่อไม่ให้โดนทำประตูนำห่างไป แต่แมนฯยูไนเต็ดก็ยังพยายามใส่เกียร์ลุยลุ้นเอาประตูคืนมาให้ได้ แม้ว่าโอกาสจะยังไม่มีสักเท่าไหร่ก็ตาม
แม้ว่าใกล้จบเกมอยู่แล้ว แต่แฟนบอลของเจ้าบ้านยังคึกกันเต็มที่ โห่ตั้งแต่ตอนเริ่มเกมยังไง ตอนนี้ก็ยังเปล่งเสียงกดดันแมนฯยูไนเต็ดได้อย่างนั้นเสมอมา ดูแล้วก็ฮึดแทนนักเตะกาลาตาซารายเหมือนกัน
ช่วงท้ายเกมแม้ว่าแมนฯยูไนเต็ดจะพยายามลุยจนมีจังหวะเสียวๆหลายครั้ง แต่ผู้เล่นของกาลาตาซารายก็ลงไปเล่นเกมรับกันจนแน่นหนา ทำให้พวกเขาไม่สามารถทำประตูตีเสมอได้
จบ 90 นาทีเป็นกาลาตาซารายสุขสมหวังเปิดบ้านเอาชนะแมนฯยูไนเต็ดไป 1-0 ทำให้ทั้งกาลาฯและครูจ์ที่ชนะมาเหมือนกัน มี 7 คะแนนเท่ากัน ต้องไปลุ้นตั๋วเข้ารอบต่อไปใบสุดท้ายกันในนัดทิ้งทวนรอบแบ่งกลุ่ม ส่วนแมนฯยูไนเต็ดที่เห็นๆส่งเด็กลงก็เพราะว่าเข้ารอบไปแล้วนั่นเอง
