เรียกได้ว่าถึงจุดอิ่มตัวแล้วจึงลาบาร์เซโลน่า และใช้เวลาไปกับการพักผ่อน ก่อนที่จะมารับงานที่ท้าทายกับทีมใหญ่อย่างบาเยิร์น มิวนิคอีกครั้งครับ สำหรับกุนซืออัจฉริยะอย่างเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เมื่อเจ้าตัวเพิ่งได้ออกมากล่าวย้อนถึงเหตุการณ์ช่วงชีวิตของตนเองเมื่อครั้งคุมบาร์เซโลน่า ยอดทีมแดนกระทิงดุทำนองว่าพักหลังๆมาตนเองเริ่มรู้สึกมาเรื่อยๆว่าการอยู่คุมทีมบาร์เซโลน่าต่อไปนั้นไม่มีอะไรที่จะเป็นแรงกระตุ้นทั้งตัวเอง และนักเตะในทีมอีกต่อไปแล้ว
ทั้งนี้เป๊ปได้เล่าถึงความสำเร็จของตนเองกับบาร์เซโลน่าว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มาก โดยคว้าแชมป์ได้มากถึง 14 แชมป์ในช่วงระยะเวลาแค่เพียง 4 ปีเท่านั้น ทว่าหลังจากความสำเร็จที่มากมายนั้น มันก็ทำให้ตัวเขารู้ว่าเริ่มอิ่มตัวกับการทำทีมบาร์เซโลน่าต่อไปแล้ว และกระทั่งมาถึงเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกในปี 2012 (รอบรองชนะเลิศ) ซึ่งเขาก็ต้องพาทีมบาร์เซโลน่าดวลกับทีมเชลซี แต่ต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และตกรอบนั้น มันจึงทำให้เขาได้รู้ชัดว่าน่าจะถึงเวลาแล้วจริงๆที่เขาต้องอำลาบาร์เซโลน่า เรื่องราวของเขาที่คัมป์นูเลยลงเอยด้วยการแยกทางจากบาร์เซโลน่าด้วยความต้องการของตัวเขาเอง อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากประเด็นการตัดสินใจอำลาทีมบาร์เซโลน่า เนื่องจากเหตุผลเรื่องความอิ่มตัวแล้ว
เป๊ป กวาร์ดิโอล่ายังได้เผยถึงความลำบากใจในการทำทีมอย่างใหญ่ๆอย่างบาร์เซโลน่า และบาเยิร์น มิวนิคด้วยว่าเป็นที่ขุมกำลังของทีมที่อาจจะมีคุณภาพ และปริมาณมากเกินไป โดยเขายกตัวอย่างสมัยคุมทีมบาร์เซโลน่าขึ้นมาว่าเมื่อใดที่เขาเลือกดร็อปเมสซี่ มักจะมีกระแสในด้านลบตามมาเสมอ (ประมาณว่าทำไมไม่ส่งเมสซี่ลงสนาม) แต่จะให้ทำยังไงได้ในเมื่อผู้เล่นของทีมบาร์เซโลน่าที่คุณภาพดีมีมากมายเหลือเกิน แต่เขาสามารถส่งลงสนามได้เพียงแค่ 11 รายเท่านั้น ไม่สามารถที่จะส่งผู้เล่นทั้งหมดที่มีลงไปในสนามได้
