คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ - ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 22 มีนาคม 2557
เวลา : 22:00 น.
ถ่ายทอดสด : CTH สเตเดี้ยม2
เปรียบเทียบความพร้อมของทีม คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ : ทีมเจ้าบ้านเกมนี้ในยุคของ "โอเล่ กุนนาร์ โซลชา" บอสใหญ่หน้าละอ่อนของ "เดอะ บลูเบิร์ดส์" คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ต้องการชัยชนะเพื่อหนีตาย หลังจากที่ออกไปโดนเอฟเวอร์ตันเฉือน 2-1 ในนัดที่แล้ว จนรั้งอันดับรองสุดท้าย ห่างจากโซนปลอดภัยสามคะแนน
สำหรับการเปิดคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สเตเดี้ยม รับลิเวอร์พูลวันเสาร์นี้ อดีตกองหน้าแมนฯ ยูไนเต็ด กำลังภาวนาให้ เบน เทอร์เนอร์ กองหลังตัวแกร่ง ฟิตกลับมาช่วยทีมให้ได้ หลังเจ้าตัววืดแมตช์เยือนเอฟเวอร์ตัน ทว่าสามารถซ้อมได้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระนั้นหากไม่ไหวจริงๆ ฆวน กาล่า ดาวเตะสแปนิช จะทำหน้าที่แทนต่อ
ขณะที่ แอนดรูว์ เทย์เลอร์ แบ็กซ้ายตัวเก่ง ก็ยังไม่หายบาดเจ็บ เช่นเดียวกับ มาร์ค ฮัดสัน กัปตันทีม ก็ยังต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บต่อไป
เชื่อว่าอดีตดาวยิงทีมชาตินอร์เวย์จะยึดทีมหน้าเดิมๆ ต่อไป โดยอัดกองหลังห้าคนเหมือนที่เริ่มต้นที่กูดิสัน พาร์ค มี ฟาบิโอ ดา ซิลวา อดีตเด็กแมนฯ ยูไนเต็ด รับบทวิงแบ๊กขวา ส่วน แกรี่ เมเดล ดาวเตะชิลีเป็นตัวโฮลด์บอล ขณะที่ จอร์ดอน มัทช์ กับ เคร็ก นูน จะทำเกมริมเส้นป้อนให้หอกเป้าอย่าง เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์
ลิเวอร์พูล : ฟากของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ภายใต้บังเหียนของกุนซือตาหวาน "เบรนแดน ร็อดเจอร์ส" จะเยือนแคว้นเวลส์อย่างมั่นใจ หลังเพิ่งบุกไปประกาศชัยชนะเหนืออริตัวแสบแมนฯ ยูไนเต็ด 3-0 ถึงโอดล์ แทร็ฟฟอร์ด รักษาความหวังในการลุ้นแชมป์เอาไว้ได้ต่อไป
ความพร้อมก่อนเกมนี้ถือว่าร็อดเจอร์สไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนเพิ่มเติมเลย และเป็นที่คาดหมายกันว่า กุนซือหนุ่มอดีตนายใหญ่สวอนซีที่เป็นคู่แค้นคาร์ดิฟฟ์ คงไม่เปลี่ยนแปลงทีมที่ทำผลงานเฉียบขาดที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มากนัก
หากจะมีจุดที่เปลี่ยน ก็น่าจะเป็นการที่ ลูคัส เลวา มิดฟิลด์ทีมชาติบราซิล กับ มามาดู ซาโก้ กองหลังผิวหมึก ที่ฟิตกลับมาเป็นสำรองในศึกแดงเดือด มีลุ้นถูกเรียกใช้บริการ
กัปตันทีม สตีเว่น เจอร์ราร์ด พร้อมบัญชาการแดนกลางเหมือนเคย ปล่อยให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เติมขึ้นสูงได้อย่างอิสระ ส่วนแนวรุกนำโดยคู่กองหน้าพระกาฬ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กับ หลุยส์ ซัวเรซ ดาวซัลโว 25 เม็ด
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ :(5-4-1) : เดวิด มาร์แชลล์ - ฟาบิโอ ดา ซิลวา, สตีเว่น คอลเกอร์, เบน เทอร์เนอร์ (ฆวน กาล่า), เกแว็ง เตโอฟิล-กาแตร์กรีน, ดีแคลน จอห์น - เคร็ก นูน, คิม โบ คยอง, แกรี่ เมเดล, จอร์ดอน มัทช์ - เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์
ลิเวอร์พูล : (4-1-2-1-2) : ซิมง มิโญเล่ต์ - เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดน แอ็กเกอร์, จอน ฟลานาแกน - สตีเว่น เจอร์ราร์ด - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โจ อัลเลน - ราฮีม สเตอร์ลิง - หลุยส์ ซัวเรซ, แดเนียล สเตอร์ริดจ์
วิจารณ์เกมการแข่งขัน
ยอดทีมแห่งลุ่มแม่น้ำเมอร์ซีไซด์ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เวลนี้กำลังคึกคักเลยทีเดียว หลังจากที่ชนะศึกแดงเดือดมาได้อย่างสวยงาม ถึงแม้ว่าเจ้าบ้านต้องดิ้นหนีตายสุดฤทธิ์ และหวังตั้งรับให้แน่น แต่ก็คงต้านเกมรุกที่จัดจ้านของ "หงส์แดง" เอาไว้ไม่ไหว แดนกลางของอาคันตุกะแน่นปึ้ก เซตเกมรุกได้หลายรูปแบบ ยืนยันด้วยสถิติที่ระบุว่า เหล่าบรรดาลูกทีมของ "บีร็อด" รัวอย่างน้อยถึงสามประตูในห้านัดหลุดในพรีเมียร์ลีกที่ชนะมารวด งานนี้ "เดอะ ค็อป" ได้เฮหายห่วง ทีมรักไล่บี้จ่าฝูง "สิงห์บลูส์" เชลซีไม่ลดละแน่
