เชลซี - สโต๊ค ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 05 เมษายน 2557
เวลา : 23:30 น.
ถ่ายทอดสด : CTH สเตเดี้ยม1
เปรียบเทียบความพร้อมของทีม เชลซี : "สิงห์บลูส์" เชลซี ทีมจ่าฝูงภายใต้บังเหียนของกุนซือแฮปปี้ วัน "โชเซ่ มูรินโญ่" เกมนี้ต้องการสามแต้มเพื่อรักษาความหวังในการลุ้นแชมป์เอาไว้ให้ได้ต่อไป หลังสัปดาห์ก่อนโดน สโต๊ค หั่น 1-0 จนตกบัลลังก์จ่าฝูง ก่อนเป๋ต่อเนื่องไปโดน ปารีส แซงต์-แชร์กแม็งต์ หวด 3-1 อีกใน แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแปดทีมสุดท้าย นัดแรก ต้องเจองานหินในนัดสอง
ความพร้อมก่อนเกมวันเสาร์นี้ รามิเรส กองกลางจอมลุยชาวบราซิเลียน จะต้องชดใช้โทษแบนเป็นนัดสุดท้ายในลีก หลังจากที่เพิ่งลงเล่นในถ้วยยุโรปได้ กระนั้น ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะ เนมานย่า มาติช ที่เล่นถ้วยยุโรปไม่ได้ เพราะติดคัพไท พร้อมลุยเช่นเดียวกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกที่ย้ายมาเมื่อช่วงปีใหม่
ปัญหาจริงๆ ของ เชลซี อยู่ที่ตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้าที่ยังไม่แน่ว่า ซามูเอล เอโต้ จะไหวหรือไม่ หลังจากพลาดมาสองนัดติดต่อกัน เพราะเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ซึ่งดูแนวโน้มแล้ว มูรินโญ่ คงต้องฝากความหวังไว้ที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส อีกครั้ง หลังจากที่วางหมากแบบไม่มีหัวหอกตัวเป้าอาชีพในเกมกับ เปแอสเช
มูรินโญ่ ต้องจัดทัพใหญ่เอาชัยให้ได้ เพื่อเรียกขวัญกลับมาก่อนเล่นเกมยุโรปกับ ปารีส โดยแนวรับมี จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมเป็นหัวใจสำคัญเช่นเดิม ขณะที่แดนกลาง ดาวิด ลุยซ์ ที่ทำเข้าประตูตัวเองเมื่อมิดวีก คงต้องหลีกทางให้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด จอมเก๋ากลับมาบัญชาการร่วมกับ มาติช ส่วนเกมรุก วิลเลี่ยน คงถูกพักไว้ใช้ในถ้วยยุโรป ปล่อยให้ อันเดร เชือร์เล่, ออสการ์ และ เอแด็น อาซาร์ ปั้นให้ ตอร์เรส
สโต๊ค ซิตี้ : ฝั่งของ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ ของกุนซือ "มาร์ค ฮิวจ์ส" กำลังมั่นใจทีเดียว หลังสัปดาห์ก่อนเปิด บริทานเนีย สเตเดี้ยม ไล่ทุบ สโต๊ค 1-0 จนสถานการณ์น่าพออุ่นใจได้
นอกจากนี้อดีตกองหน้า เชลซี ยังได้รับข่าวดีก่อนเยือนบ้านเก่าอีกเมื่อ จอน วอลเตอร์ส ตัวรุกทีมชาติสาธารณรัฐไอร์แลด์ พ้นโทษแบนกลับมาพร้อมเป็นตัวเลือกครั้งแล้ว
อย่างไรก็ดี วอลเตอร์ส คงต้องนั่งรอโอกาสบนม้านั่งสำรองไปก่อน เพราะ ฮิวจ์ส ไม่น่าเปลี่ยนแปลงทีมที่กำลังทำผลงานได้ดี ขณะที่ อุสซามา อัสไซดี้ ปีกจอมเลื้อยที่ยืมมาจาก ลิเวอร์พูล กับ โรเบิร์ต ฮูธ ปราการหลังชาวเยอรมันอดีตแข้ง เชลซี อีกราย ไม่น่าไหว เพราะเจ็บหัวเข่า
ไรอัน ชอว์ครอสส์ กัปตันทีมจะเฝ้าหน้านายทวารจอมหนึบ อัสเมียร์ เบโกวิช ต่อไป ขณะที่ สตีเว่น เอ็นซอนซี่ กับ เกล็น วีแลน รับบทตัวโฮลด์บอล ปล่อยให้เกมรุกเป็นหน้าที่ของ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, ปีเตอร์ โอเดมวิงกี้ และ มาร์โค อาร์เนาโตวิช ที่จะป้อนให้หัวหอก ปีเตอร์ เคร้าช์ เช่นเดิม
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี : (4-2-3-1) : ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า - เนมานย่า มาติช, แฟร้งค์ แลมพาร์ด - อันเดร เชือร์เล่, ออสการ์, เอแด็น อาซาร์ - เฟร์นานโด ตอร์เรส
สโต๊ค ซิตี้ : (4-2-3-1) : อัสเมียร์ เบโกวิช - เจฟฟ์ คาเมรอน, ไรอัน ชอว์ครอสส์, มาร์ค วิลสัน, เอริค ปีเตอร์ส - เกล็น วีแลน, สตีเว่น เอ็นซอนซี่ - ปีเตอร์ โอเดมวิงกี้, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, มาร์โค อาร์เนาโตวิช - ปีเตอร์ เคร้าช์
วิจารณ์เกมการแข่งขัน
"สิงห์บลูส์" ชอกช้ำจากถ้วยยุโรป ถือว่าคาดเดายากพอสมควร ถึงแม้ว่าฟอร์มในบ้านจะแข็งแกร่งสุดๆเมื่อคว้าชัยชนะรวดเจ็ดนัดหลังที่เจอกับ "ช่างปั้นหม้อ" แต่ชั่วโมงนี้ ทีมเยือนกำลังขึ้นหม้อ ไม่แพ้มาห้านัดแล้ว แถมยังเก็บได้ถึง 13 คะแนนในช่วงเวลาดังกล่าว อีกอย่างพวกเขาเคยเชือด "สิงห์ไฮโซ" มาได้แล้วในนัดแรกที่เจอกัน แม้ว่าทีมของ "น้ามู" จะดูเหนือกว่า และเป้าหมายชัดเจนคือการลุ้นแชมป์ แต่งานนี้ไม่ง่ายแน่ เต็มที่ก็คงทำได้แค่เชือดแบบหืดๆ ดูแล้วสกอร์ไม่น่าขาดลอยแน่
