ถ้าแบบนี้ไม่ให้โห่กันก็คงไม่ได้เเพราะ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล เล่นกันได้ไม่ดีเอาซะเลยแล้วยังมาพลาดท่าเสียทีให้กับ "มิชู" ก่อนหมดเวลาเพียงไม่กี่นาที ซัดไปเต็มๆคนเดียวสองเม็ดช่วยให้ "หงส์ขาว" สวอนซี ซิตี้ เอาชนะไปได้ 2-0 ยัดเหยียดความพ่ายแพ้ให้เป็นเกมที่ 4 ในฤดูกาลนี้ให้กับ "ปืนโต"
พรีเมียร์ ลีก
วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม 2555
อาร์เซนอล 0 - 2 สวอนซี
สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี๊ยม ออกสตาร์ทมาในช่วงแรกของเกมเล่นกันจนผ่านช่วง 10 กว่านาทีแรกไป อาจจะยังไม่ถึงขั้นชัดเจนทำหรับทิศทางของเกมนี้เท่าไหร่ แต่สวอนซีเองต้องบอกเลยว่าดูดีจริงๆกับการมาเยือนอาร์เซนอลในครั้งนี้ มีจังหวะครองบอลได้ต่อเนื่อง มีไม่กี่ทีมที่สามารถมาทำแบบนี้ในถิ่นของ "ปืนใหญ่" ได้
นาทีที่ 14 เกือบจะได้ประตูขึ้นนำอย่างไวแล้วสำหรับสวอนซี เมื่อแรนเกลทะลุหลุดขึ้นไปทางเขตโทษฝั่งขวา มีโอกาสได้ยิงโล่งๆ ซัดดอกแรกเต็มแรง ไม่ผ่านเซสนี่ย์ที่ล้มตัวเซฟได้ทัน แต่โอกาสสองมาถึงจัดการรีบยิงอีกครั้งก่อนที่กองหลังจะสกัดได้ แต่ก็ไม่ผ่านเซสนี่ย์อีกนั่นแหละ เซฟจริงๆ
ถึงจะได้เล่นในบ้านตัวเอง แต่วันนี้อาร์เซนอลมาแบบไม่ค่อยจะเป็นตัวเองเท่าไหร่คือพื้นที่ในการครองบอลไม่ได้กว้างเหมือนทุกๆเกม แต่ก็ค่อยๆขยับทำเกมได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดูแล้วถ้าเครื่องติดเมื่อไหร่ก็น่าจะกลับไปต่อบอลกันแบบถนัดๆอีกครั้ง ส่วนเรื่องจบสกอร์เดี๋ยวค่อยว่ากัน
นาทีที่ 30 จังหวะชี้เป็นชี้ตายยังไว้ใจได้เสมอสำหรับแฟร์มาเล่นที่ช่วยทีมในช็ิอตที่ไดเออร์ได้ควบหลุดเดี่ยวขึ้นไปจากการโหม่งของมิชู ก่อนที่จะง้างยิงในเขตโทษ แต่แฟร์มาเล่นสไลด์เข้าบล็อกเอาไว้ได้อย่างเฉียดฉิว
นี่ถือว่าเป็นเกมคุณภาพเกมหนึงเลย เพราะทั้งสองทีมค่อนข้างจะเด่นเรื่องการต่อบอลที่ไหลลื่นเป็นจังหวะ แถมยังแม่นยำเสียด้วย ดูแล้วเพลินตาดี แต่ติดตรงโอกาสสุดท้ายนี่ยังน้อยเหมือนกันทั้งคู่
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย เกมก็ยังคงดำเนินไปในลักษระเดิมคือทั้งสองทีมมีโอกาสครองบอลผลัดกันบุกไปมา แต่พอจะถึงจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มก็ดันไม่ลงล็อคกันสักที
ช่วงทดเวลาจริงๆแล้วอาร์เซนอลควรมีโอกาสลุ้นที่จะได้ประตูจากการด้านข้างที่โยนเข้าไปในเขตโทษ แชร์วินโญ่ยืนว่างโล่งอยู่คนเดียวอยู่แล้ว แต่จังหวะโหม่งเขาดันออกแนวแป้ก มันโดนไม่เต็ม หลุดออกหลังไปซะเลย
จบ 45 นาทีของเกมที่เอาไว้ดูเพลิน แต่ลุ้นยากหน่อย ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0 สวอนซีมีโอกาสจบได้จะๆกว่า แต่ยังทำไม่ได้เท่านั้น
ช่วงครึ่งหลังกลับมาเล่นกันต่อในนาทีที่ 57 มีร้องเลยสำหรับ "หงส์ขาว" สวอนซี เพราะพวกเขาอยากที่จะให้ผู้ตัดสินจดชื่อของกาซอร์ล่าที่ไปล้มง่ายในเขตโทษ ทั้งที่ไม่ได้มีผู้เล่นเข้าปะทะอะไรเท่าไหร่ แต่ผู้ตัดสินก็ยังนิ่งไม่ได้ว่าอะไร
นาทีที่ 62 เจอแบบนี้ก็เซ้งเหมือนกันสำหรับเซสนี่ย์ที่ครึ่งแรกต้องออกแรงปัดลูกยิงแรนเกลมาแล้วสองครั้งติด ตอนนี้ก็ยังต้องเซฟช่วยทีมจากแรนเกลคนเดิมที่ลากบอลผ่านกองหลังอาร์เซนอลมาได้หน้าตาเฉย จนเซสนี่ย์ต้องลุกมาโวยเพื่อนหน่อย ปล่อยให้โดนยิงง่ายไปไหม
อีก 5 นาทีต่อมา เกมยังไม่เด็ดขาดแบบนี้ก็ต้องเปลี่ยนแปลงสถานเดียวสำหรับอาร์เซนอล เมื่อตัดสินใจส่งทั้งชิรูด์และแชมเบอร์เลนลงเล่นด้วยใจหวังว่าจะมีอะไรดีขึ้น ส่วนคนที่โดนถอดไปคือโพโดลสกี้กับแชร์วินโญ่
นาทีที่ 70 ใจแข็งจริงๆสำหรับแคลตเทินเบิร์กเมื่อเขาเมินที่จะให้จุดโทษกับทางอาร์เซนอล ในจังหวะที่คี ซุง ยองไปจ่ายกลับพลาด แล้วชิรูด์กำลังจะตัดบอลได้ แต่โดนเสียบซะก่อนร้องจะเอาจุดโทษ แต่แคลตเทินเบิร์กทำสัญญาณมือชัดเจนว่าไม่ใช่
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย แม้ว่าจะเปลี่ยนเกมอะไรยังไงแล้วก็ตาม แต่อาร์เซนอลก็ยังเจาะแนวรับของสวอนซีเข้าไปไม่ได้อยู่ดี แถมยังต้องระวังจังหวะสวนกลับของทีมเยือนอีกด้วย ดูแล้วงานยากชัดๆเลยกับจังหวะของเกมที่เป็นแบบนี้อยู่
นาทีที่ 83 เหนื่อยอยู่คนเดียวเลยสำหรับเซสนี่ย์ที่เขาต้องออกแรงช่วยเซฟไม่ให้ทีมเสียประตูอีกครั้ง ในจังหวะที่กองหลังอาร์เซนอลมีช่องทำให้สวอนซีเล่นชิ่งกันแล้วเทียนเดลลี่ทะลุเข้าไปยิงเน้นๆได้ แต่ก็ติดเซฟของเซสนี่ย์ที่พุ่งออกมาบล็อกแล้วคว้าบอลได้อยู่หมัด
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ไม่มีคำว่าเลิกล้มสำหรับอาร์เซนอลที่ยังคงเดินหน้าลุยต่อไป แม้จะพลาดแล้วพลาดอีกแต่ตราบใดที่นกหวีดยาวยังไม่เกิด พวกเขาก็ขอลุ้นอีก แต่ความว่าใกล้เคียงไหมยังไม่มีให้เห็น
นาทีที่ 88 บอกแล้วว่าอย่าให้เขาได้ง้างสำหรับมิชูคนนี้ เมื่อเขาได้โอกาสหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปเบี่ยงตัวยิงบอลพุ่งโค้งผ่านเซสนี่ย์แบบกินนิ่มเสียบตาข่าย ทำให้สวอนซีขึ้นนำอาร์เซนอลในช่วงเวลาสุดสำคัญ 1-0 มีแววเห็นชัยชนะมาแล้ว
ช่วงทดเวลาอาร์เซนอลมาเจอฝันร้ายกับประตูตอกฝาโลงเมื่อเจนกินสันทำพลาดเสียบอล จนทำให้มิชูได้วิ่งหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงผ่านเซสนี่ย์แบบสบายๆ สวอนซีบุกมาชนะอาร์เซนอลได้ถึงถิ่น 2-0 ท่ามกลางเสียงโห่กันทั่วทั้งสนามเอมิเรตส์เลยทีเดียว
ทำให้ตอนนี้อาร์เซนอลอย่างแย่ 5 เกมหลังสุดแพ้ไป 2 ชนะได้แค่ 1 หล่นไปอยู่อันดับ 10 เหมือนจะห่างไกลจากพื้นที่ชิงตั๋วแชมป์เปี้ยนส์ ลีกไปเรื่อยๆแล้ว ขณะเดียวกันสวอนซีก็มีเพิ่มเป็น 23 คะแนนทำให้พวกเขาขยับขึ้นไปอยู่อันดับที่ 7 แทนที่ของเวสต์แฮมอีกทีหนึง
