เข้าใกล้เรื่อยๆแล้วสำหรับโทรฟี่แชมป์ลีกสูงสุดหนแรกในรอบ 24 ปีหลังพรพรรค "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยกพลบุกมาทุบ "นอริช ซิตี้" เละเทะ 3-2 จาก 2 ประตูของว่าที่ดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี "ราฮีม สเตอร์ลิ่ง" และ "หลุยส์ ซัวเรซ" หนี "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี คู่ปรับนัดต่อไปเป็น 5 แต้มเข้าให้แล้ว
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม แคร์โรว โร้ด
อาทิตย์ที่ 20 เมษายน 2557
กรรมการ อังเดร มาร์ริเนอร์
นอริช ซิตี้ 2-3 ลิเวอร์พูล ออกสตาร์ทเกมช่วงครึ่งแรก "หงส์แดง" ขึ้นนำได้เร็วเหลือเกินอีกแล้วโดยเป็นจังหวะที่พวกเขาเดินเกมขึ้นมาทางด้านซ้ายแล้วคูตินโญ่ไหลบอลกลับไปให้ราฮีมกระชากหนีจอห์นสันก่อนก้มหน้าตะบันยิงจากระยะ 25 หลาบอลผ่านตัวของเทอร์เนอร์ที่พยายามวิ่งเข้ามาบล็อคแล้วตรงดิ่งเสียบตาข่ายไปชนิดที่รัดดี้พยายามบินไปแล้วแต่ไม่ถึง
นาที 8 นอริชสู้เหมือนกันและมามีโอกาสยิงด้วยในจังหวะที่มาร์ตินตามไปเก็บตกบอลตรงมุมธงด้านซ้ายของสนามก่อนโยนเข้ากลางให้ฮูเปอร์เบียดกับซาโก้แล้วได้โขกตรงกลางประตูแต่คุมบอลไม่ดีทำให้ไม่ตรงกรอบ
นาที 9 ลิเวอร์พูลเกือบได้ประตูเพิ่มเลยในจังหวะที่คูตินโญ่ลากบอลจากริมเส้นด้านขวาก่อนแทงทะลุช่องให้อัลเลนที่วิ่งแลบขึ้นมาเกี่ยวบอลลงหนึ่งจังหวะแล้วหวดเต็มข้อทันทีทว่าคราวนี้รัดดี้ยังพุ่งไปเซฟได้สวยทำให้เจ้าถิ่นไม่เสียประตูอีกครั้ง
นาที 11 ประตูที่สองของลิเวอร์พูลมารวดเร็วเหลือเกินและเป็นจังหวะที่พวกเขาขึ้นเกมได้สวยงามด้วยเมื่อฟลานาแกนพลิกบอลได้ในแดนตัวเองก่อนไหลไปให้ราฮีมที่วิ่งมารอบอลนอกกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วไหลง่ายๆเข้าไปตรงกลางที่มีซัวเรซวิ่งเข้ามาแปเล่นทางด้วยเท้าขวาเข้าไปซุกก้นตาข่ายเป็นประตูที่ 30 ของเขาในฤดูกาลนี้แล้ว
นาที 17 นอริชเป็นฝ่ายที่เกือบได้ประตูบ้างเหมือนกันจังหวะที่โยนเข้าไปให้เทอร์เนอร์โขกตั้งไปให้ฮูเปอร์เกี่ยวก่อนจะยิงแต่โดนอัลเลนมาขวางไว้แล้วตอนสุดท้ายเป็นเจอร์ราร์ดที่พุ่งเข้ามาบล็อคลูกยิงของเฟอร์ก่อนที่บอลจะพ้นอันตรายไปได้ในท้ายที่สุด
นาที 26 หลังจากลงไปตั้งรับอยู่นาน"หงส์แดง"ก็เริ่มตั้งเกมบุกขึ้นมาใหม่ได้แล้วและคราวนี้เป็นการทดลองส่องไกลของอัลเลนจากระยะกว่า 30 หลาบอลพุ่งแรงแล้วแต่ทิศทางไม่ได้เฉี่ยวเสาขวามือออกไปไม่มากนัก
นาที 32 ลิเวอร์พูลมัวแต่ไปทำเก๋าต่อบอลหน้าปากเขตโทษของตัวเองและเกือบเสียท่าเลยเมื่อซาโก้โดนฉกบอลไปได้ก่อนที่สน็อดกราสส์จะกระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วปาดเข้ากลางหวังให้ฮูเปอร์เข้าชาร์จแต่ยังมีสเคอร์เทลที่ตามมาเตะเคลียร์ทิ้งออกไปได้ก่อนและหลังจากนั้นเร้ดม่อนด์ก็พยายามยิงไกลร่วม 30 หลาแต่มิโญเล่ต์ยังไม่หลับปัดทิ้งออกมาได้
นาที 38 เกมของลิเวอร์พูลยังไม่ดีเท่าไหร่ทำให้นอริชได้บุกขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและคราวนี้เป็นสน็อดกลาสส์โยนจากริมเส้นด้านซ้ายมาถึงเสาสองที่เร้ดม่อนด์จับบอลได้ก่อนพยายามกึ่งยิงกึ่งผ่านไปที่หน้าปากประตูก็ออกหลังไปไม่มีอะไรมากกว่านั้น
นาที 44 ดูเหมือนว่าจะรอจังหวะสวนกลับอย่างเดียวเท่านั้นแล้วสำหรับ"หงส์แดง"แต่ก็ยังได้ยิงอยู่เมื่ออัลเลนแทงบอลให้คูตินโญ่ในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วดาวเตะบราซิลพยายามหาช่องยิงก่อนตักด้วยขวาหวังให้เข้าทางเสาไกลแต่ก็เลยออกไปได้แค่เสียว
ต่อมาในช่วงหลัง "ลิเวอร์พูล" ได้ลุ้นในจังหวะโต้กลับเร็วที่ซัวเรซเปิดยาวไปให้คูตินโญ่ลากบอลไปสุดเส้นหลังด้านซ้ายก่อนเงยหน้ามองเห็นราฮีมวิ่งมารอแล้วจ่ายให้ปีกอพอลโล่ลองส่องจากนอกเขตโทษแต่กดไม่ลงทำให้บอลเหินข้ามคานออกไป
นาที 54 นอริชมาได้ประตูที่ต้องการจนได้จากความผิดพลาดของมิโญเล่ต์ที่ออกมาชกบอลพลาดโดนจอห์นสันชนด้วยทำให้บอลตกไปเข้าทางปืนของฮูเปอร์วิ่งมาแปเข้าประตูโล่งๆไปไม่ต้องลุ้นอะไรทำให้ร็อดเจอร์สยืนหน้าเครียดอยู่ข้างสนามเลย
นาที 56 เมื่อเสียประตูลิเวอร์พูลพยายามโต้ทันควันและมาได้ยิงด้วยจากการทำเองชงเองของซัวเรซที่พยายามลากไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนยิงบอลปลิ้นหน่อยๆทำให้รัดดี้รับเอาไว้ได้แต่บอลหลุดราฮีมพยายามตามซ้ำก็ไม่ทันมือกาวทีมชาติอังกฤษยังคว้าบอลได้ก่อน
นาที 60 น่าเป็นประตูสำหรับทีมเยือนจริงๆในจังหวะนี้เมื่อจอห์นสันเติมขึ้นมาถึงสุดเส้นด้านขวาก่อนจ่ายกลับมาให้ซัวเรซหลอกว่าจะยิงด้วยซ้ายแล้วล็อคกลับมาทำให้กองหลังนอริชเสียท่าไปสองคนก่อนที่จะยิงด้วยขวาโล่งๆแล้วแต่เล่นทางมากเกินไปทำให้บอลเฉี่ยวเสาออกไปไม่กี่ฟุต
นาที 62 แต่แล้วจังหวะที่นอริชบุกอยู่ดีๆจอห์นสันก็พลาดเลยเมื่อจ่ายบอลขวางสนามทำให้โดนราฮีมตัดได้ก่อนลากมาเองจากแดนตัวเองแล้วหลบเทอร์เนอร์ไปก่อนหนึ่งด่านแล้วจัดการยิงไปติดจอห์นสันที่พยายามลงมาแก้ตัวก่อนที่บอลจะลอยโด่งข้ามหัวรัดดี้ที่ออกมาแล้วเข้าไปกองก้นตาข่าย
นาที 68 นอริชฮึดมาอีกรอบและได้ยิงเกือบเข้าเลยเป็นสน็อดกลาสส์ที่พลิกได้ตรงระยะประมาณ 25 หลาแล้วหวดด้วยซ้ายเต็มข้อบอลพุ่งเรียดไปทางเสาขวามือแล้วแต่คราวนี้มิโญเล่ต์ยังพุ่งสุดตัวปัดทิ้งออกหลังไปได้หวุดหวิด
นาที 70 นอริชจวนเจียนจะได้ประตูเลยในจังหวะที่เร้ดม่อนด์ลากเข้ามาถึงระยะ 20 หลาก่อนตัดสินใจยิงทันทีสเคอร์เทลพยายามจะก้มลงเอาหัวโหม่งสกัดแต่บอลไปแฉลบบริเวณขาทำให้เปลี่ยนทางพุ่งไปยังเสาสองยังดีที่ไม่ตรงกรอบและจากจังหวะเตะมุมเทอร์เนอร์ได้โขกก็สูงไปอีก
นาที 78 "หงส์แดง"ต้องเหนื่อยอีกแล้วเมื่อโดนนอริชตามมาอีกประตูจากจังหวะที่โอลส์สันโยนบอลจากริมเส้นด้านซ้ายไปเข้าหัวของสน็อดกลาสส์ที่กระโดดสูงกว่าฟลานาแกนโหม่งเข้าสามเหลี่ยมไปเลย
นาที 83 นอริชเกือบได้ประตูตีเสมอเลยในัจังหวะทีเร้ดม่อนด์ตั้งป้อมโยนบอลจากริมเส้นด้านซ้ายเข้าไปหน้าปากประตูให้ฟาน โวล์ฟสวิงเคลโถมขึ้นโขกเหนือซาโก้แต่บอลยังไปตรงตัวของมิโญเล่ต์ที่รับจังหวะแรกหลุดแล้วต้องตามมาตะครุบบนเส้นประตู
ช่วงท้ายเกมแฟน"หงส์แดง"ต้องลุ้นกันระทึกเมื่อทีมรักพยายามเล่นบอลช้าเอาแน่นอนและโอกาสทองที่จะปิดเกมของลิเวอร์พูลทำไม่ได้โดยเป็นโมเซสที่จ่ายไปให้ซัวเรซลากเข้าในกรอบเขตโทษแล้วทำใจกว้างไหลไปให้ลูคัสยิงจังหวะแรกติดยิงอีกทีก็ออกไปเลยทำให้อดได้ประตูต้องมาลุ้นกันต่อแต่สุดท้ายก็เอาตัวรอดเก็บ 3 แต้มล้ำค่ากลับแอนฟิลด์ไปได้แบบใจหายใจคว่ำก่อนเปิดรังเจอเชลซีคู่แข่งสำคัญที่ตามหลังพวกเขา 5 คะแนนในเกมต่อไปสัปดาห์หน้า