พฤศจิกายน 22, 2024, 04:55:24 PM

ผู้เขียน หัวข้อ: บัสกระจุย~!! "สิงห์" ยิงก่อนโดน "หมี" ฮึดแซง 3-1 ลิ่วชิง "ชุดขาว"~!!  (อ่าน 4022 ครั้ง)

888Bullets

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2127
    • ดูรายละเอียด
ล็อคถล่มพอสมควรเมื่อ"ตราหมี"แอตเลติโก มาดริดประกาศศักดาบุกตะปบ"สิงห์ไฮโซ"เชลซีคาสแตมฟอร์ด บริดจ์ 3-1 จากประตูของอาเดรียน, ดีเอโก้ คอสต้าและอาร์ด้า ตูรานส่งผลให้ผ่านเข้าไปชิงดำแชมเปี้ยนส์ ลีกครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1974 กับ"ราชันชุดขาว"เรอัล มาดริด



ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัด 2
สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์
พุธที่ 30 เมษายน 2557
กรรมการ นิโกล่า ริซโซลี่
เชลซี 1-3 แอตเลติโก มาดริด

              เปิดฉากเริ่มเกม "สิงห์ไฮโซ" รอดเสียประตูไปได้แบบโชคดีสุดๆเมื่อแอตเลติโกได้เตะมุมด้านซ้ายโกเก้เปิดเข้าไปทางเสียแรกโดนเคลียร์ทิ้งออกมาบอลมาเข้าทางโกเก้อีกรอบที่ตัดสินใจโยนเข้ากลางทันทีบอลแล้วบอลไปตกใส่คานก่อนกระเด้งมาโดนชวาร์เซอร์แต่บอลนั้นกระดอนออกมาไม่เปลี่ยนทางเข้าประตูไป

นาที 15 เจ้าถิ่นมีโอกาสลุ้นจากลูกฟรีคิกระยะหวังผล 20 หลากลางประตูเลยโดยมีลุยซ์กับวิลเลี่ยนที่ยืนรอยิงอยู่และเป็นรายหลังที่วิ่งเข้ามาปั่นโค้งด้วยซ้ายข้ามกำแพงไปแล้วแต่บอลลอยข้ามคานออกไปนิดเดียวเท่านั้น

นาที 19 แอตเลติโก มาดริดเกือบได้ประตูเลยจากจังหวะทำชิ่งสวยงามของตูรานที่ผ่านให้คอสต้าหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วก้มหน้าอัดด้วยเท้าซ้ายแล้วทว่าเคฮิลล์ยังไววิ่งมาสไตล์ดักบอลออกหลัไปได้ก่อนจะถึงชวาร์เซอร์

นาที 23 ลุยซ์ทำฮือฮาแถมยังเกือบจะได้ประตูด้วยเมื่ออิวาโนวิชทุ่มไกลมาจากริมเส้นด้านขวาแล้วดาวเตะบราซิเลี่ยนจับบอลได้แต่บอลกระดอนโด่งทำให้เขาต้องหันไปจักรยานอากาศเต็มข้อทว่าบอลเฉี่ยวเสาขวามือออกไปนิดเดียวจริงๆ

นาที 33 แฟนเชลซีถึงกับต้องลุ้นตัวโก่งเมื่อเทอร์รี่มีอาการบาดเจ็บลงไปกุมแฮมสตริงเลยเมื่อเขาขึ้นโขกแย่งบอลกับคอสต้าก่อนจังหวะลงไม่ดีเท่าไหร่ทำให้มีอาการเดี้ยงแต่ก็ฝืนเล่นต่อไปได้ไม่มีปัญหา

นาที 36 เชลซีมาได้ประตูเบิกร่องต้องชมความยอดเยี่ยมของวิลเลี่ยนที่วิ่งไปเอาบอลตรงมุมธงด้านขวาก่อนแหวกนักเตะแอตเลติโกมาสองคนก่อนบอลกระฉอกมาถึงอัซปิลิกวยต้าวิ่งเข้ามาเปิดเข้ากลางไปให้ตอร์เรสแปยัดไปแฉลบกองหลังของ"ตราหมี"นิดนึงแล้วเข้าไปกองก้นตาข่ายเป็นประตูที่ 4 ของเขาในแชมเปี้ยนส์ ลีก

นาที 42 ทีมเยือนโต้ตอบได้อันตรายเหมือนกันจากจังหวะฟรีคิกตรงริมเส้นซ้ายที่โกเก้เปิดเข้าไปตรงกลางให้อาเดรียนกระโดดขึ้นโขกเช็ดบอลไปหน้าปากประตูทว่าบอลไปตรงตัวของชวาร์เซอร์และไม่มีใครโฉบมาตัดหน้าได้ทัน

นาที 44 แนวรับของเชลซีพลาดมหันต์ทำให้ต้องเสียประตูเลยในจังหวะที่ติอาโก้ตักบอลฆวนฟรานที่เติมขึ้นมาสุดเส้นหลังด้านขวาแล้วตวัดกลับเข้ามาเทอร์รี่ไม่ยอมสกัดบอลเลยเคฮิลล์ไปอีกก่อนที่จะถึงอาเดรียนกดนิ่มๆเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย

              กลับมาเล่นกันต่อในช่วงหลัง "สิงห์บลูส์" เกือบเสียประตูอีกแล้วเมื่อฆวนฟรานเปิดบอลจากริมเส้นด้านขวาเข้าไปตรงกลางเทอร์รี่ไม่กล้าสกัดแบบเต็มๆทำให้บอลผ่านไปถึงโกเก้จับบอลได้ก่อนหนึ่งทีแล้วซัดเต็มข้อแต่ยังดีที่ชวาร์เซอร์มือไวปัดทิ้งข้ามคานออกไปได้

นาที 52 กลายเป็นทางฝั่งแอตเลติโกบุกโหมกระหน่ำในช่วงนี้และได้ยิงอยู่หลายครั้งแต่ไปติดบล็อคซึ่งจังหวะสุดท้ายเป็นติอาโก้ที่ส่องไกล 25 หลาบอลทะลุกองหลังเชลซีไปได้แต่ไปติดมือของชวาร์เซอร์ล้มรับเอาไว้ได้สบาย

นาที 53 เชลซีมาได้ลุ้นเหมือนกันจากจังหวะฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษวิลเลี่ยนเปิดมาหน้าปากประตูให้เทอร์รี่โฉบปาดหน้าทุกคนมาโขกลงพื้นทว่ากูร์กตัวส์ยังยอดเยี่ยมล้มตัวปัดเอาไว้ได้ทันเวลาโดยมูรินโญ่ส่งซามูเอล เอโต้ลงมาแทนโคลแล้วในตอนนี้

นาที 60 เอโต้ที่เพิ่งจะลงมาทำเรื่องเลยเมื่อลงไปช่วยเกมรับแล้วสกัดโฉ่งฉ่างเตะคอสต้าที่เข้าถึงบอลก่อนในกรอบเขตโทษกรรมการเป่าเป็นการฟาวล์ทันทีและเป็นคอสต้าที่ลุกขึ้นมายิงเองอัดตูมเดียวชวาร์เซอร์พุ่งผิดทางเป็นประตูนำให้"ตราหมี"และทำให้เชลซีเหงื่อตกต้องยิงอีก 2 ประตูถึงจะผ่านเข้ารอบชิงดำ

นาที 64 เชลซีอดได้ประตูตีเสมอแบบสุดเหลือเชื่อในจังหวะฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษที่วิลเลี่ยนเปิดไปหน้าประตูให้เคฮิลล์โขกชนเสาแล้วบอลกระดอนมาหน้าปากประตูกูร์กตัวส์มือปัดบอลออกหลังไปนิดเดียวเท่านั้น

นาที 71 สิ่งที่น่าเหลือเชื่อเกิดขึ้นในสแตมฟอร์ด บริดจ์จนได้เมื่อแอตเลติโกมาดได้อีกประตูเป็นจังหวะที่ฆวนฟรานเติมมาเปิดบอลในกรอบเขตโทษด้านขวาไปทางเสาไกลให้ตูรานวิ่งมาโขกชนเสาแล้วบอลมาเข้าทางเขาอีกรอบก่อนแปบอลง่ายๆเข้าประตูไปเลยท่ามกลางความช็อคของบรรดาแฟน"สิงห์ไฮโซ"

นาที 77 มูรินโญ่หมดทางเลือกแล้วต้องส่งไพ่ใบสุดท้ายอย่างชูร์รเล่ลงสนามมาแทนวิลเลี่ยนขณะที่ซิเมโอเน่ต้องเอาคอสต้าที่เจ็บเล็กน้อยออกจากสนามแล้วให้โฆเซ่ เอร์เรสโต้ โซซ่าลงมาเติมเกมบริเวณกลางสนามแทน

นาที 85 เชลซีเหมือนจะถอดในแล้วบุกเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้นไม่สามารถสร้างอันตรายลุ้นประตูได้เลยขณะที่"ตราหมี"ก็เหมือนจะปิดเกมพยายามครองบอลให้เหนียวแน่นผลาญเวลาไปเรื่อยๆรอเฮอย่างเดียวแล้วในเวลานี้

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บกูร์กตัวส์มาเซฟลูกยิงของอาซาร์ได้อีกก่อนที่ท้ายที่สุดแอตเลติโกสามารถรักษาสกอร์เอาไว้ได้ก่อนไปชิงชนะเลิศกับเรอัล มาดริดที่กรุงลิสบอนปล่อยให้เชลซีต้องชีช้ำระกำทรวงแพ้คาบ้านไปอย่างน่าเสียดาย

www.888scoreonline.net นำเสนอ ผลฟุตบอล อัพเดทรวดเร็วทันใจ