ต้องยกให้เป็นหนึ่งแมทสุดดราม่าแห่งซีซั่นนี้แน่นอนสำหรับแมทการแข่งขันฟุตบอลถ้วยยุโรปใบเล็ก
ยูฟ่า ยูโรป้าลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายคู่ระหว่างหงส์แดง
ลิเวอร์พูล พบเสือเหลือง
ดอร์ทมุนด์ เพราะจากที่ทำท่าว่าจะเป็นทีมเยือนเสือเหลืองที่เอาชนะ และผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศต่อไปค่อนข้างแน่นอนแล้วจากสกอร์นำถึง 3-1 ณ นาทีที่ 66 ของเกมการแข่งขัน รวมผลสองเกมนำอยู่ 4-2
กลับกลายเป็นว่าช่วงเวลาที่เหลืออยู่ไปจนถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าบ้านรัวยิงสามประตูแซงชนะไปด้วยสกอร์ 4-3 รวมสองเกมเข้ารอบด้วยสกอร์ 5-4 หน้าตาเฉย
ทั้งนี้ก่อนเกมการแข่งขันที่แอนฟิลด์หงส์แดง เจ้าบ้านถือว่ากุมความได้เปรียบอยู่เล็กน้อยจากการเก็บอเวย์โกลมาได้ด้วยผลบุกไปเสมอเสือเหลืองที่ซิกนัล อิดูน่าพาร์ค 1-1 แต่กระนั้นเจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่คนเก่งชาวเยอรมันก็ประกาศไว้แล้วว่าอเวย์โกลดังกล่าวจะไม่มีผลใดๆทั้งสิ้นต่อเกมนัดที่สอง และโอกาสลุ้นเข้ารอบต่อไปของทีม (เพราะยังไงก็จะเดินหน้าเล่นเกมบุกเพื่อเอาชนะให้ได้สถานเดียว)
เมื่อเกมเริ่มขึ้นก็เป็นไปอย่างที่นายใหญ่จอมบู๊ว่าไว้ทั้งสองทีมเดินหน้าเล่นเกมรุกใส่กันทันที และเป็นทีมเยือนที่ได้เฮก่อนจากประตูนำ 1-0 ของมาร์คิตายานตั้งแต่นาทีที่ 5 ต่อด้วยการทำช็อกแฟนบอลเจ้าบ้านในอีกสี่นาทีถัดมาด้วยประตูหนีห่างเป็น 2-0 ของปิแอร์ เอเมอริก โอบาเมยอง และจบครึ่งเวลาแรกไปด้วยสกอร์นี้
ครึ่งเวลาหลังเริ่มเกมไปได้สามนาที
ดีว็อค โอริกี้ หัวหอกเจ้าบ้านมายิงตีไข่แตกให้หงส์แดงไล่ตามมาเป็น 2-1 ทว่าเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 57
มาร์โค รอยส์ ก็มายิงดับความหวังแฟนบอลเดอะค็อปอีกครั้งส่งทีมเยือนนำห่างเป็น 3-1
ก่อนที่ช่วงเวลาที่เหลืออยู่จะเกิดดราม่าดับความหวังและความฝันของทีมเยือนแทนเมื่อ
ฟิลิปเป้ คูติญโญ่ ยิงให้เจ้าบ้านไล่มาเป็น 3-2 นาทีที่ 66
มามาดู ซาโก้ โขกตีเสมอให้เป็น 3-3 นาทีที่ 78 และ
เดยัน ลอฟเรน ทำประตูพลิกแซงนำจนกลายเป็นประตูชัย 4-3 ของเจ้าบ้านไปในที่สุด