"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล กลับคืนฟอร์มที่แท้จริงอีกหนหลังรับมือลูกโด่งและหนักของสโต๊คไม่ไหวส่งผลทำให้จุดโทษตั้งแต่นาทีที่ 2 ของสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดไร้ความหมายโดนยิงรวดเดียว 3 เม็ดพ่ายแบบหมดลุ้น 3-1 ร่วงไปอยู่ที่ 10 แล้ว
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันพุธที่ 26 ธันวาคม 2555
สโต๊ค ซิตี้ 3-1 ลิเวอร์พูล
สนาม บริทานเนีย สเตเดี้ยม ออกสตาร์ทเริ่มเกมมาในช่วงครึ่งแรก "หงส์แดง" ได้ลูกจุดโทษครั้งแรกของฤดูกาลในจังหวะที่ซัวเรซพยายามเลี้ยงไถเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนโดนชอว์ครอสส์หนี่ยวล้มลงไปเว็บบ์เป่าเป็นลูกฟาวล์ทันที
สตีเว่น เจอร์ราร์ดรับหน้าที่สังหารเลือกยิงไปทางโคนเสาด้านซ้ายมือขณะที่เบโกวิชพุ่งผิดทางส่งให้ทีมเยือนขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 2 เท่านั้น
แต่แล้วอีกเพียงไม่กี่นาทีเจ้าถิ่นก็ได้ประตูตีเสมออย่างรวดเร็วในจังหวะเปิดโด่งมาจากหลังให้โจนส์ขึ้นโขกต่อให้วอลเตอร์สได้บอลหลุดเข้าไปล่อเป้าเรน่าเพราะสเคอร์เทลตัวประกบดันลื่นล้มหัวทิ่มก่อนยิงตูมเดียวไม่เหลือทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันอีกครั้ง
เจ้าถิ่นมาได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 12 จากจังหวะเตะมุมริมเส้นด้านซ้ายวีแลนเปิดมาให้โจนส์วิ่งหนีแอ็กเกอร์ตัวประกบก่อนได้โขกโล่งๆตรงเสาแรกบอลกระดอนเข้าประตูไปโดยที่จอห์นสันพยายามมาเคลียร์ทิ้งไม่ทัน
มาถึงนาทีที่ 20 "หงส์แดง"เริ่มกลับมาครองเกมได้บ้างก่อนได้จังหวะลุ้นทำประตูเมื่อเจอร์ราร์ดทำชิ่งเร็วให้เชลวี่ย์ได้หลุดไปในกรอบเขตโทษแล้วแต่ดาวเตะหัวโล้นจับบอลไม่ดีทำให้เบโกวิชออกมาคว้าไว้ได้
เอ็นซองซี่ลากบอลขึ้นมาตรงริมเส้นด้านขวาก่อนปาดเข้ามาในกรอบประตูไปโดนลูคัสสกัดไว้ได้นิดนึงแต่บอลกระดอนไปเข้าเท้าเอเธอริงตันได้ซัดเต็มๆด้วยซ้ายบอลจะเสียบใต้คานอยู่แล้วแต่เรน่ายังบินปัดออกไปได้
มาถึงนาทีที่ 48 ดาวนิ่งโชว์สเต็ปลากบอลหลุดไปถึงสุดเส้นด้านซ้ายก่อนตวัดกลับมาให้"หัวขิง"วิ่งเข้ามาแปบอลตรงหัวกะโหลกย้อนศรไปทางเสาแรกแต่บอลถากเสาไปนิดเดียวเท่านั้น
ถัดมาอีกนิดเดียวดาวนิ่งคนเดิมทำชิ่งกับซัวเรซหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนตบกลับมาให้"หม่อมเหยิน"ได้ยิงแต่บอลออกไปไหนไม่ทราบ
นาทีที่ 36 ดาวนิ่งแทงยัดมาให้"หม่อมเหยิน"ในกรอบเขตโทษด้านขวาได้พลิกตัวหนีวิลกินสันก่อนตะบันด้วยซ้ายหมายให้เข้าไปตรงเสาแรกแต่เบโกวิชยืนปิดมุมไว้แล้วล้มตัวบล็อคบอลไว้ได้
ก่อนหมดเวลา 1 นาทีกองหลัง"หงส์แดง"พลาดอีกแล้วในจังหวะที่ไคท์ลี่ย์เปิดบอลมาให้เอเธอริงตันได้จับบอลลงโล่งๆตรงเสาไกลก่อนหวดด้วยซ้ายแต่เรน่ายังออกมาไวบล็อคเอาไว้ได้ก่อนตามไปคว้าอีกหนึ่งจังหวะ
เปิดฉากมาในช่วงครึ่งหลัง "ร็อดเจอร์ส" ตัดสินใจเปลี่ยนเอาสเตอร์ลิ่งลงสนามแทนซูโซ่ทันทีหมายแก้เกมทำประตูตีเสมอให้ได้โดยเร็ว
เปิดเกมขึ้นมาสเตอร์ลิ่งแผงฤทธิ์ทันทีเมื่อได้บอลลากหลบกองหลังเจ้าถิ่นไปสุดเส้นหลังด้านขวาก่อนเปิดมาให้"หม่อมเหยิน"วิ่งมายิงตรงเสาแรกแต่หักไม่พอบอลไปโดนโคนเสาด้านนอกออกไป
นาทีที่ 49 บอลโด่งของ"ช่างปั้นหม้อ"ได้ผลอีกแล้วในจังหวะที่วิลกินสันทุ่มบอลไกลมาในกรอบแต่สเคอร์เทลโหม่งเคลียร์ไม่ดีไปเข้าทางของวอลเตอร์สจับบอลหนึ่งจังหวะก่อนวอลเล่ย์ทันทีบอลพุ่งเข้าตุงตาข่ายชนิดที่เรน่าบินยังไงก็ไม่ถึง
นาทีที่ 60 ซัวเรซพยายามเข้าบอลไปยกเท้าสูงใส่เบโกวิชที่ผวาออกมาชกบอลทำให้ดาวเตะอุรุกวัยโดนใบเหลืองสังเวยพร้อมกับอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าด้วย
ถัดมา 2 นาทีคาเมร่อนรอดพ้นโดนใบเหลืองที่ 2 แบบหวุดหวิดเมื่อไปเข้าบอลช้าเตะสเตอร์ลิ่งล้มกลิ้งไปนอนกับพื้นแต่เว็บบ์ยังใจดีไม่จดชื่อในจังหวะนี้
นาทีที่ 71 เรน่าลงไปนอนกุมหน้าจากจังหวะที่พยายามพุ่งออกมารับบอลแต่ไปโดนไวท์เฮดที่เสียหลักพุ่งมาปะทะเต็มๆทำให้นายด่านสเปนต้องให้แพทย์ลงมาดูอาการอยู่หลายนาที
เกมมาถึงช่วง 10 นาทีสุดท้ายดูเหมือนว่า"หงส์แดง"จะไร้ปัญญาเจาะแผงหลังของเจ้าถิ่นเสียแล้วแม้พยายามทำเกมบุกขึ้นมาแต่ก็มาพลาดในจังหวะสุดท้ายอยู่ตลอด
เข้าสู่นาทีสุดท้ายของเกมเจอร์ราร์ดพยายามตั้งป้อมปั่นไกลจากระยะทำการ 25 หลาบอลไซร้ไปทางเสาสองแต่เบโกวิชยังพุ่งสุดตัวปัดทิ้งออกไปได้ก่อนที่จะจบเกม"ช่างปั้นหม้อ"รักษาสถิติไม่แพ้ 9 นัดพุ่งไปอยู่อันดับ 8 ของตารางส่วน"หงส์แดง"ร่วงมาอยู่ที่ 10