"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องเล่นเพียง 10 คนตลอดครึ่งหลังแต่ยังทำผลงานสุดแข็งแกร่งเบียดชนะ "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" นอริช ซิตี้แบบมันสุดๆ 4-3 เก็บอีก 3 คะแนนสุดล้ำค่าตามหลัง"ปีศาจแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 7 คะแนนต่อไป
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม 2555
นอริช ซิตี้ 3-4 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
สนาม แคร์โรว์ โร้ด เปิดฉากมาเพียงแค่นาทีที่ 2 "เรือใบสีฟ้า" ก็ขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่กองหลังโยนยาวมาให้กุนพักบอลต่อให้เซโก้ตรงริมเส้นด้านขวาก่อนที่ดาวเตะอาร์เจนไตน์โยนข้ามไปให้ซิลบาในกรอบเขตโทษด้านซ้ายซึ่งเขาก็ป้ายมาให้เซโก้ง้างเท้ายิงตรงจุดโทษพอดีไม่มีเหลือส่งให้ทีมขึ้นนำตั้งแต่ไก่โห่
ร้อนแรงจริงๆสำหรับทีมเยือนถัดมาแค่ 2 นาทีกอมปานีลากบอลขึ้นมาจากแดนตัวเองแล้วไปปะทะกับนักเตะนอริชกลางสนามแต่เขาลุกขึ้นมาได้เร็วก่อนแทงไปให้กุนลากบอลหลบบันน์แต่ไม่มีโอกาสยิงซึ่งเจ้าตัวเหลือบเห็นเซโก้ยืนอยู่โล่งๆจึงส่งมาให้ดาวเตะบอสเนียแปยัดเข้าไปกลางประตูไม่มีเหลือ
ผ่านมา 15 นาทีสกอร์มาวิ่งอีกครั้งแต่เป็นฝั่งของเจ้าถิ่นที่ได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะที่พิลคิงตันยิงฟรีคิกด้วยขวากลางประตูระยะ 25 หลาบอลไปแฉลบขาของกลีชี่เปลี่ยนทางทำให้ฮาร์ทกลับมาไม่ทันบอลพุ่งเข้าประตูไป
"เรือใบสีฟ้า"พยายามเรียกร้องเอาจุดโทษในจังหวะที่บาสซงที่ล้มลงไปกองอยู่กับพื้นเอาขาไปขวากุนในกรอบ 6 หลาทำให้ดาวยิงอาร์เจนไตน์ล้มลงแต่ไร้เสียงนกหวีดจากกรรมการ
นาทีที่ 24 นอริชเกือบโชคร้ายเสียประตูอีกแล้วในจังหวะที่ซิลบาลากบอลมาถึงหน้ากรอบเขตโทษก่อนที่จะไปโดนสกัดแล้วบอลไปตกหน้าการ์ริโด้ที่หันหน้าเข้าหาประตูตัวเองเตะเคลียร์ไม่ดีบอลเกือบเสียบใต้คานแต่บันน์ยังกลับหลังไปปัดทิ้งได้หวุดหวิด
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกแมนฯ ซิตี้เกือบได้ประตูอีกครั้งจากจังหวะเตะมุมด้านขวากอมปานีได้ขึ้นโขกบอลตรงกรอบแต่ยังไปติดอกของสน็อดกลาสส์ที่ยืนปักหลักปิดตรงเสาแรกเอาไว้
นาทีที่ 40 "เรือใบสีฟ้า"ทำชิ่งอยู่หน้ากรอบเขตโทษก่อนที่นาสรี่จะทำชิ่งสั้นๆให้ยาย่า ตูเร่ได้ยิงเต็มข้อแถวเส้นเขตโทษบอลพุ่งเรียดไปทางเสาไกลแต่หลุดออกไปนิดเดียวเท่านั้น
เกมมาเดือดปุดๆในจังหวะที่บาสซงเข้าเสียบหนักใส่นาสรี่กลางสนามจนทั้ง 2 คนลุกขึ้นมาเอาหัวดันกันทำให้นักเตะทั้งสองฝ่ายต้องเข้ามาห้ามทัพโดยบาสซงโดนใบเหลืองเท่านั้นส่วนนาสรี่โดนตะเพิดออกจากสนามไปเพราะพยายามตั้งใจโขกคู่กรณีนิดเดียวจริงๆ
กลับมาได้เพียง 5 นาที"เรือใบสีฟ้า"ที่เหลือผู้เล่นน้อยกว่ามาโดนยิงอีกลูกจากจังหวะที่ยาย่า ตูเร่ตักบอลมาจากในวงกลมกลางสนามบอลไปตกใส่หัวไหล่ของบาสซงที่วิ่งหันหลังอยู่ไปเข้าทางของกุนดีดบอลสวนบันน์เข้าประตูไปอย่างงาม
เกมผ่านมาเกือบครบ 1 ชั่วโมงเจ้าถิ่นหันมาใช้บอลโยนยาวกันบ้างโดยฮูลาฮานได้เปิดจากริมเส้นด้านซ้ายมาให้สน็อดกลาสส์ได้โขกไม่เต็มทำให้บอลกระเด้งพื้นก่อนออกข้างไป
นอริชมาได้ประตูตีตื้นอีกครั้งหลังจากบุกใส่อยู่นานโดยเริ่มจากจังหวะเตะมุมเล่นกันสั้นๆก่อนโยนไปเสาไกลให้บาสซงเติมขึ้นมาโหม่งชงทางเสาสองบอลมาถึงมาร์ตินกัปตันทีมได้ขึ้นโขกส่งบอลเข้าไปกองก้นตาข่ายในนาทีที่ 63
นาทีที่ 66 นอริชเช็คไลน์พลาดปล่อยให้เซโก้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้ายซ้ายก่อนกดเต็มๆบอลไปกระเด้งชนเสาก่อนมาโดนบันน์ย้อนกลับเข้าประตูตัวเองไป"เรือใบสีฟ้า"นำห่าง 2 ลูกอีกครั้ง
ถัดมาอีกอึดใจเดียว"เรือใบสีฟ้า"เกือบได้ประตูนำห่างจากจังหวะที่กุนพักบอลหลุดเข้าไปในเขตโทษแม้จะโดนบาสซงมาชนก็ไม่ล้มแต่น่าเสียดายที่กระดกบอลไปเข้าข้างตาข่าย
เกมมันจริงๆ นอริชไม่ยอมตายง่ายๆและมาได้ประตูเพิ่มจากจังหวะเตะมุมที่บอลไปขลุกขลิกอยู่ในกรอบเขตโทษก่อนกระเด้งมาเข้าทางของจอห์นสันได้ยิงยัดเข้ามากลางประตูและเป็นมาร์ตินที่ยืนอยู่ตรงนั้นแปบอลเปลี่ยนทางเข้าประตูไปสุดปัญญาที่ฮาร์ทจะรับได้
มาร์ค บันน์มาเซฟชีวิตของเจ้าถิ่นได้อีกรอบจากจังหวะที่ยาย่า ตูเร่แทงทะลุช่องมาให้กุนได้ซัดเดี่ยวๆแต่บันน์โชว์ปฏิกิริยาสุดยอดปัดบอลมือเดียวออกหลังไปได้ซึ่งในจังหวะนี้ดาวเตะทีมชาติอาร์เจนติน่าน่าจะล้ำหน้าไปแล้วแต่ไม่มีธงยกขึ้นมา
ช่วง 5 นาทีสุดท้ายเจ้าถิ่นพยายามบอมบ์แหลกเข้ามาในกรอบเขตโทษของแมนฯ ซิตี้แต่ก็ได้แค่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาเท่านั้นทำให้จบเกมพวกเขาต้องแพ้ 3 เกมรวดส่วน"เรือใบสีฟ้า"กระชาก 3 แต้มกลับออกไปพร้อมรักษาระยะห่างจาก"ปีศาจแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไว้ที่ 7 แต้มเท่าเดิม