"ปืนใหญ่" อาร์เซนอล เกมนี้น่าเศร้าซะจริงๆ ก็อุตส่าห์ดีใจคิดว่าทีมจะไล่แซงเอาชนะได้เหมือนชาวบ้านเขา เพราะพลิกนำได้ 2-1 ในช่วงท้าย แต่อยู่ๆก็มาโดน "แกรม" ยิงดับชัยในนาทีที่ 87 เสมอกัน 2-2 ต้องไปเตะกันอีกนัด
เอฟเอ คัพ รอบ 3
วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม 2556
สวอนซี 2 - 2 อาร์เซนอล
สนาม ลิเบอร์ตี้ สเตเดี๊ยม เปิดฉากเกมแรกมาในนาทีที่ 13 โอกาสแรกเป็นของเจ้าบ้านที่เด กูซแมนจ่ายยาวต่อไปให้กับแกรมได้แตะหนีแมร์เตซัคเกอร์แล้วลองซัดบังคับให้ตรงกรอบแบบเน้นๆ แต่บอลไม่ผ่านมือของเซสนี่ย์ที่บินปัดเอาไว้ได้อย่างเยี่ยมเลย
นาทีที่ 20 เป็นจังหวะการประสานงานที่น่าดูชมระหว่างวิลเชียร์, ชิรูดและวัลค็อตต์ ก่อนที่ปีกความเร็วสูงจะได้ยิงในเขตโทษ แต่ติดบล็อกของกองหลังที่ช่วยกันกันเอาไว้ได้
นาทีที่ 30 เกือบหล่อแล้วเชียวสำหรับแรมซี่ย์ในจังหวะที่เขาวิ่งสอดขึ้นไปเติมในเขตโทษ เพื่อนจิ้มมาให้ได้จังหวะ ก่อนมิดฟิลด์ไอติมจะล็อกหักหลังแข้งสวอนซีเหมือนจะได้ยิงแล้ว แต่น้ำหนักมันเกินไปหน่อย เลยมีกองหลังเข้าไปมากสัดได้ทันเสียก่อน
นาทีที่ 36 นี่น่าจะเป็นจังหวะใกล้เคียงที่สุดในเกมนี้แล้วสำหรับลูกฟรีคิกของสวอนซีที่โยนเข้าไปลุ้นกันในเขตโทษ บาร์ทลี่ย์ขึ้นสูงกว่าใครโหม่งบอลสวนทางกลับข้ามเซสนี่ย์ไปแล้ว แต่ดันชนคานเข้าซะได้
ช่วงเวลาที่เหลือก็ได้โต้กันไปมาเล็กน้อยแต่พองาม เพราะกองหลังของแต่ละฝ่ายยังเยี่ยมปัดป้องเอาไว้ได้หมด ทำให้จบ 45 นาทีทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 0-0 ไว้ลุ้นกันอีกครึ่งหลัง
กลับมาเล่นกันต่อในช่วงหลังในนาทีที่ 52 ไม่รู้ว่ามันจะได้ได้ยังไง เพราะลูกนี้สะดุดเท้าตัวเองสำหรับแรมซี่ย์ที่พยายามจะควบไปเอาบอลในเขตโทษ แล้วมีผู้เล่นของสวอนซีวิ่งบีบตัดมาจากข้างหลังเหมือนจะเกี่ยวจนล้มคว่ำลงไป เว็บบ์ไม่ได้ว่าเป็นจุดโทษ ก่อนดูภาพช้าแข้งไอติมสะดุดขาตัวเองเห็นๆ
อีก 6 นาทีต่อมา อันนี้ต้องยอมรับแบบสุดติ่งจริงๆสำหรับมิชูทีเพิ่งจะถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นแปบๆไม่กี่นาทีก็ทำประตูให้ทีมได้เลย จากจังหวะที่เขาตัดบอลที่แย่งโหม่งกันมาได้ ก่อนกระชากหลุดขึ้นไปแม้จะโดนเข้ามาบีบ แต่ก็ซัดบอลสวนผ่านเซสนี่ย์ที่พยายามจะออกมาบล็อกเข้าประตูไป สวอนซีนำ 1-0
นาทีที่ 65 คงต้องบอกว่าน่าผิดหวังจริงๆสำหรับจังหวะนี้ของชิรูด์ เพราะแรมซี่ย์ถือว่าทำได้เยี่ยมในการพลิกบอลแล้วไปครอสจนเกือบสุดเส้นด้านข้างเข้ากลางให้ชิรูด์ได้ขึ้นโขกคนเดียวโล่งๆ แต่สะบัดหลุดกรอบออกไปซะอย่างนั้น พลาดจริงๆอาร์เซนอล
มาถึงตอนนี้ลุยหน้าแบบไม่ต้องถามว่าทำไมแล้วสำหรับอาร์เซนอล เพราะประตูตามหลังอยู่แบบนี้เสี่ยงเหลือเกินที่จะกระเด็นตกรอบไปในเอฟเอ คัพ เวนเกอร์คงต้องมีการปรับทัพกันบ้างด้วย เผื่อจะมีทางเลือกในแดนหน้าที่มากขึ้น
นาทีที่ 73 นี่แหละตัวเลือกที่จะช่วยเสริมแนวรุกได้ เมื่ออาร์เซนอลจัดการส่งโพโดลสกี้ลงไปเล่นแทนแรมซี่ย์ หวังว่าการมีกองหน้าเพิ่มอีกตัวจะช่วยกู้สถานการณ์ของเวนเกอร์เอาไว้ให้ได้
ซัพมาก็ซัพไปใส่กันเลย เมื่อโพโดลสกี้ที่ถูกเปลี่ยนลงมาเป็นตัวสำรองช่วยยิงตีเสมอให้กับอาร์เซนอลได้สำเร็จจากลูกเตะมุมของวัลค็อตต์ที่กอสเชียลนี่ช่วยหนุนบอลที่หลุดออกไปให้กลับมา ก่อนที่โพโดลสกี้จะสังหารเข้าประตูไปเกมเสมอกัน 1-1
นาทีที่ 83 สองนาทีสองลูกจัดไปเลยสำหรับอาร์เซนอลที่พลิกกลับมานำในช่วงท้ายเกม จากการเล่นอันยอดเยี่ยมของกิ๊บส์ที่ชิ่งบอลกับชิรูด์ก่อนจะหวดบอลที่ส่งคืนกลับมาแบบวอลเล่ย์แสกหน้าผู้รักษาประตูเข้าไปเสียบตาข่ายสวยได้ใจสุดๆ เกมพลิก 2-1 ระทึกได้ใจ
นาทีที่ 87 นี่มันเกมสุดมันส์จริงๆเพราะช่วงท้ายมีการทำประตูต่อๆกันถึง 3 ลูก เมื่อแกรมมาทำประตูไล่ตีเสมอให้กับสวอนซีได้จากลูกเตะมุมที่แม้จะมีผู้เล่นอาร์เวนอลล้อมหน้าล้อมหลังแต่ก็ส่งบอลเข้าไปสู่ประตูได้ เกมเสมอกัน 2-2 จะมีอีกไหม เดี๋ยวได้รู้กัน
จบ 90 นาทีของเกมที่พลิกไปพลิกมา อาร์เซนอลแอบเซ้งตรงนึกว่าจะได้ชัยชนะแล้วสุดท้ายโดนสวอนซีตีเสมอได้ ทำให้ท ั้งสองทีมต้องไปเตะกันอีกเกมที่เอมิเรตส์ สเตเดี๊ยม