ยกให้เขาเลยเกมนี้สำหรับ "ซิลบา" ที่ซัดเบิกร่องตั้งแต่ 2 นาทีแรก ก่อนปิดกล่องให้ทีมในครึ่งหลังด้วยลูกชิพสุดงามพา "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ "เจ้าสัว" ฟูแล่มแบบสบายๆ 2-0 มีเพิ่มเป็น 51 คะแนนไล่จี้ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเหลือ 4 แต้ม
พรีเมียร์ ลีก
วันเสาร์ที่ 19 มกราคม 2556
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 - 0 ฟูแล่ม
สนาม เอติฮัด สเตเดี๊ยม เปิดฉากมาได้แค่ 2 นาที "เรือใบสีฟ้า" ได้ประตูนำเร็วตั้งแต่ไก่โห่จากจังหวะการบุกที่เชโก้ได้โอกาสซัดไปติดเซฟ แต่ไม่พ้นวิถีของซิลบาที่เข้าตามส่งบอลเข้าไปกระแทกตาข่าย เจ้าบ้านขึ้นนำก่อนเลย 1-0
ผ่าน 15 นาทีแรกไป เกมของแมนเชสเตอร์ ซิตี้วันนี้ต่อบอลกันได้เรื่อย แม้ว่าโอกาสยังไม่มีมากขึ้นกว่าเดิม เชโก้ได้โขกแต่เบาหวิว แต่พวกเขาก็ยังเดินเกมกันได้ต่อเนื่องและเกมรับก็ยอด ถึงขนาดที่เบอร์บาตอฟต้องถอยลงไปช่วยคลึงบอลกลางสนามกันเลย
นาทีที่ 22 พอเกมดีขึ้นมาหน่อย เบอร์บาตอฟก็ได้โชว์เลยกับจังหวะเล่นพื้นที่แคบๆด้านข้าง คลึงบอลตามสไตล์ล็อกไปหลอกมาจนผู้เล่นของแมนฯซิตี้ต้องเข้าไปช่วยบีบถึง 2 คน ถ้าไม่มีตัวซ้อนหอกศิลปินคงพลิกหลุดไปแล้วแน่นอน
นาทีที่ 28 ไม่รู้ล้ำไม่บ้ำเพราะไม่ฉายให้ดูไลน์แมน แต่จังหวะนี้น่าเสียดายเหมือนกันเพราะมิลเนอร์ล็อกบอลได้สวย ก่อนเปิดกึ่งยัดเข้าไปที่หน้าเขตโทษด้วยเท้าซ้าย เตเบซหลุดขึ้นมีลุ้นโหม่งคนเดียวแต่ตัวสั้นไปนิดเลยไม่ถึง
ไปๆมาๆมันชักยังไงแล้วสำหรับเกมของแมนฯซิตี้ เพราะหลังจากที่นำก็เล่นกันได้เรื่อยๆ ยังดีอยู่ แต่พอผ่านช่วง 20 นาทีแค่นั้นล่ะสปีดของเกมต่ำลงทันใด จังหวะบุกก็แทบไม่เห็น ต้องลงไปช่วยกันเคลียร์จังหวะกดดันของฟูแล่มอยู่ตลอด มันชินี่ต้องออกมาสั่งการที่ข้างสนามกันเลย
แม้ว่าจะได้บุกจริง แต่จังหวะสุดท้ายของฟูแล่มนั้นค่อนข้างจะเล็กน้อย ไม่ได้กดดันอะไรทางแนวรับของแมนฯซิตี้เลย ทำให้แมนฯซิตี้เองก็มีจังหวะได้ลุยสวนเรื่อยๆ แบบนี้ก็ลุ้นยากเหมือนกันสำหรับทีมเยือน
จบ 45 นาทีพร้อมกับจังหวะพลิกบอลสวยๆตรงกลางสนามของซิลบา แมนฯซิตี้ยังนำฟูแล่มอยู่ 1-0 แบบเสียวๆเล็กน้อยเพราะถ้าโดนพลิกได้เมื่อไหร่ก็อาจจะเงิบได้เหมือนกัน
ต่อมาในช่วงครึ่งหลังในนาทีที่ 50 เหม่อไปนิดเกือบพังเลยสำหรับซิดเวลล์ที่ไปออกบอลช้าตรงกลาง เลยเจอเตเบซพุ่งเข้าฉกลากยันเขตโทษ ยังดีเจ้าตัวควบหน้าตั้งมาสกัดแก้ตัวได้ทัน ไม่งั้นแย่แน่
นาทีที่ 63 โชคร้ายเหมือนกันสำหรับซาบาเลต้าที่ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไปจากอาการบาดเจ็บที่เขาโดนผู้เล่นฟูแล่มเข้าสกัดแล้วข้อเท้ามีปัญหา แม้ว่าจะปฐมพยาบาลแล้วลองเล่นต่อ แต่ไม่ไหว สุดท้ายเลยต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไป นาสรี่ลงไปเล่นแล้วให้มิลเนอร์ขยับลงไปเล่นแบ็คแทน
นาทีที่ 69 เป็นประตูที่แสดงให้เห็นถึงคลาสของซิลบาโดยแท้เลย เมื่อเขาควบฝ่าแนวรับของฟูแล่มเข้าไปรับบอลที่เพื่อนป้ายต่อมาให้ ก่อนกระชากเข้าหาชวาร์เซอร์ แม้ว่ามุมจะแคบแต่เขาก็ชิพบอลข้ามตัวนายด่านทีมเยือนส่งบอลชิ่งกระทบเสาไกลเข้าประตูไป สวยงามจริงๆ แมนฯซิตี้โล่งคอนำห่าง 2-0 จากซิลบาคนเดียวเลย
เข้าช่วง 15 นาทีสุดท้าย ขนาดว่าตอนมีโอกาสบุกยังทำกันไมได้ มาถึงตอนนี้โดนนำห่าง 2-0 แถมโอกาสในการบุกก็น้อยกว่าเดิม ค่อนข้างมืดมนสำหรับทีมเยือนถ้ายังเอาคืนประตูแรกไม่ได้ก่อนเหลือ 10 นาทีสุดท้ายนี่ยากสุดๆแน่
นาทีที่ 81 ชื่นใจเสียจริงสำหรับแฟนบอลของทีม "เรือใบ" เมื่ออเกวโร่ได้รับโอกาสคัมแบ็คกลับมาลงสนาม หลังจากมีอาการบาดเจ็บต้องพักไปนานพอควร โดยเขาถูกส่งตัวลงไปเล่นแทนเตเบซที่ได้รับเสียงปรบมือก้อง เพราะวันนี้มีส่วนร่วมกับเกมหลายจังหวะ
นาทีที่ 86 นิดเดียวจริงๆสำหรับจังหวะนี้ของอเกวโร่ที่เกือบจะได้ประตูฉลองการคัมแบ็คกลับมา เมื่อเขาวิ่งทะลุหลุดเข้าไปอาเพื่อนที่เพื่อนจ่ายมาได้ ก่อนที่จะแตะหนีชวาร์เซอร์ไปแล้ว แต่จังหวะยิงหลักไม่ดี บอลเลยบอลหวิวเป็นแป้กๆโดนกองหลังดักเอาไว้ได้
จบ 90 นาทีเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่เอาชนะไปด้วยสกอร์ 2-0 จากซิลบาคนเดียวที่พลาดโอกาสยิงแฮทริกเพราะหลุดเข้าไปอีกรอบหลังยิงเม็ด 2 ได้แต่เน้นเกินไป ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็เก็บ 3 คะแนนเน้นๆ มีเพิ่มเป็น 51 คะแนน แม้จะเตะมากกว่าหนึ่งเกม แต่ก็จี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเหลือ 4 คะแนนแล้ว กดดันได้ดีน่าดูเลย
ด้านฟูแล่มที่วันนี้เล่นกันไร้แรงจูงใจไปหน่อยก็ต้องพบความพ่ายแพ้เป็นเกมที่ 4 ในรอบ 7 นัด
