พฤศจิกายน 23, 2024, 06:44:01 AM

ผู้เขียน หัวข้อ: "แมนฯยู" สไตล์~!! "อาบัง" ปั่นท้ายเกมเฉือน "เรดดิ้ง" 2-1 ทะลุเอฟเอ  (อ่าน 3833 ครั้ง)

888Bullets

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2127
    • ดูรายละเอียด
ให้แฟนดูเกมง่ายๆชนะสบายเหมือนชาวบ้านไม่เป็นสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่นำห่างจากลูกยิงและจ่ายของนานี่ที่ลงเป็นสำรองแทนโจนส์ที่เจ็บอีกแล้วไป แต่กลับมาประมาทโดนตีไข่แตกท้ายเกม ยังดีที่ยื้อสกอร์ได้จนจบ 2-1 ทะลุผ่านเข้ารอบต่อไปชนิดที่เฟอร์กี้เครียดทั้งเกม



เอฟเอ คัพ รอบ 5
วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 1 เรดดิ้ง
สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด

               เปิดฉากเริ่มเกมมาได้แค่ไม่กี่นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดลุยมันตั้งแต่วินาทีแรกเลย โดยพวกเขาทำเกมบุกกดดันหวังให้เรดดิ้งไม่ทันตั้งตัว แต่ติดตรงบอลยังไม่ผ่านเฟเดริชี่ที่ปัดป้องเอาไว้ได้

นาทีที่ 6 จริงๆแล้วหลุดไปมุมแบบนั้นจ่ายน่าจะได้ลุ้นมากกว่าสำหรับเวลเบ็คเมื่อเพื่อนจ่ายบอลไหลทะลุช่องให้เขาหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย แม้ว่าเอร์นานเดซจะเบียดกับกองหลังอยู่ตรงกลาง แต่เขาเลือกที่จะหวดบอลยิงด้วยเท้าซ้ายแบบฝืนๆ เลยเจอเฟเดริชี่เซฟเอาไว้ได้

นาทีที่ 14 งานนี้ต้องปฐมพยาบาลกันอย่างเดียวเท่านั้นสำหรับฮันท์ที่ขึ้นโหม่งบอลแต่โดนหัวของวีดิชโขกเข้าด้านหลังเต็มๆจนเลือดแตกไหลริน ผู้ตัดสินต้องให้ออกไปทำแผลที่ข้างสนามแล้วกลับมาใหม่ มีเรียกเสียงฮือฮาได้สักหน่อยเพราะต้องเปลี่ยนทั้งเสื้อและกางเกงข้างสนามเลย

ส่วนในเกมนั้นต้องถือว่าเรดดิ้งกลับมาเข้าที่เข้าทางได้เร็วและเล่นกันได้ดีขึ้นเรื่อยๆจนตอนนี้คุมเกมบุกใส่แมนฯยูไนเต็ดแทน

นาทีที่ 22 ลูกนี้มันต้องใส่สกอร์แล้วเว้ยเฮ้ยสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เพราะเคลฟเวอร์ลี่ย์ได้ลองส่องยิงเน้นๆนอกกรอบ บอลพุ่งเลียดรับยาก แต่เฟเดริชี่ล้มตัวปัดเอาไว้ได้ แม้ว่ามันจะเข้าทางของยังที่วิ่งเข้ามาเอี้ยวตัวก่ะยิงให้เสียบเสาแรกเน้นๆไปเลย แต่เฟเดริชี่ก็ไวโคตรลุกมาปัดออกหลังได้เฉียดฉิวสุดๆ

เจอเกมบีบเข้าเร็วๆไปทำให้มิดฟิลด์ตรงกลางของแมนฯยูไนเต็ดเล่นกันไม่ออกเลยทีเดียว เพราะแม้ว่าจะได้กลับมาครองบอลคืนเอาบ้าง แต่โดยรวมแล้วเกมเจ้าบ้านไม่ได้มีจังหวะต่อจังหวะปั้นกันสักเท่าไหร่ เพราะโดนเข้าเร็วจนเล่นกันไม่ถนัดนะ

นาทีที่ 38 ไม่น่าเลยจริงๆสำหรับโจนส์เพราะตัวเองเปราะอยู่แล้ว แต่จังหวันี้ไปจับยาวแล้วจำต้องเอี้ยวตัวเบี่ยงขาขวาเพื่อปั้มบอลกับผู้เล่นของเรดดิ้งจนตัวเองกลิ้งลงไปนอนโอดโอยกับพื้น พอปฐมพยาบาลแล้วเอาน้ำหนักลงที่เท้ากลับไม่ไหว ดูท่าจะต้องพักอีกแล้ว

ทำให้แมนฯยูไนเต็ดต้องส่งตัวนานี่ลงไปในสนามแทนที่ของโจนส์ แล้วขยับเอาบาเลนเซียไปยืนแบ็คขวาจำเป็นแทน

นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ใกล้เคียงมากจริงๆสำหรับจังหวะยิงครั้งนี้ของเล ฟอนเดรที่พลิกไปยิงนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งไซด์จะเสียบเข้าเสาแรกอยู่แล้ว แต่เด เกอาก็บินไปคว้าเอาไว้ได้หนึบมือพอดี อันนี้ประมาทไม่ได้เลยเพราะเล ฟอนเดรยิงมา 7 นัด 7 ประตูให้กับเรดดิ้งเลยนะ

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บแมนฯยูไนเต็ดน่าจะได้ประตูสุดสวยจากนานี่ที่วิ่งเข้าบวกบอลซึ่งกองหลังเรดดิ้งสกัดออกมาไม่ขาดได้แบบเต็มข้อ บอลพุ่งโค้งฮุคผ่านมือของเฟเดริชี่ไปแล้ว แต่กลับชนเสาไกลซะก่อน

จบ 45 นาทีแรกเลยกลายเป็นว่าทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0 แบบแมนฯยูไนเต็ดหัวเสียอยู่สักหน่อยที่บุกแล้วทำไม่ได้ แถมยังต้องมาเสียโจนส์ไปอีก

              ออกสตาร์ทช่วงครึ่งหลังในนาทีที่ 50 ถ้าเดินไปตะคอกต่อหน้าได้คงทำแล้วสำหรับเฟอร์กูสัน เพราะจังหวะนี้นานี่ทำเสียของหมด แมนฯยูไนเต็ดได้สวยกลับ นักเตะเรดดิ้งยืนกันสูงทำให้มีพื้นที่เลือกเล่นได้เยอะ มีเพื่อนกำลังวิ่งทำทางอยู่สองฝั่ง แต่นานี่กลับเลือกยิงไกลกว่า 30 หลาแถมจังหวะฝืน บอลเลยพุ่งเลียดๆเข้ามือเฟเดริชี่สบาย

หลังจากหลุดๆไปให้แมนฯยูไนเต็ดครองก่อนในช่วงแรก ตอนนี้เรดดิ้งได้บอลมาครองกันติดเท้าอยู่พักใหญ่ เพียงแต่โอกาสในการเจาะเข้าไปในพื้นที่สุดท้ายของพวกเขายังถือว่าน้อยไปอยู่

นาทีที่ 61 กระตุ้นกันสักนิดสำหรับแมนฯยูไนเต็ด จากพ่อหนุ่มอารมณ์ดีอย่างอันแดร์สันที่ได้บอลลากหลุดเข้าไปในเขตโทษ แม้ว่ามุมจะแคบและโดนบีบให้ยิงด้วยขวา แต่เขาก็บอลไปติดเซฟของเฟเดริชี่ ก่อนที่จะกระตุ้นแฟนบอลให้ส่งเสียงเชียร์กันเพิ่มขึ้น

อีก 3 นาทีต่อมา อั้นอยู่นาน แต่สุดท้ายก็ต้องลงเหมือนเดิมสำหรับฟาน เพอร์ซี่เพราะตอนนี้เกมของแมนฯยูไนเต็ดขาดทีเด็ดทีขาดในแดนหน้า โดยเปลี่ยนเอายังออกไป

นาทีที่ 69 แม้ว่าจะเล่นตะกุกตะกักไปหลายดอก แต่สุดท้ายนานี่ก็มายิงเรียกเสียงเฮจากแฟนบอลได้สำเร็จ จากจังหวะที่วาเลนเซียแตะบอลจ่ายเลียดมาให้ ก่อนนานี่จะจับจังหวะแรกบอลเด้งลอยขึ้นแล้วซัดไม่ต้องรอ บอลพุ่งเสียบตาข่าย แมนฯยูไนเต็ดนำ 1-0

อีก 2 นาทีต่อมา พอได้ปุ้บก็เหมือนกับเขื่อนแตกเลยสำหรับแมนฯยูไนเต็ดที่ทำเกมบุกต่อเนื่องใส่เรดดิ้ง จนมาได้ประตูนำห่างจากลูกเปิดของนานี่ที่บรรจงตักไปเสาแรกให้เอร์นานเดซพุ่งมาโฉบโขกตามสูตรเป๊ะๆ เห็นอีกทีบอลนอนกองอยู่ก้นตาข่าย แมนฯยูไนเต็ดทิ้ง 2-0 เฟอร์กี้ไม่ต้องไปโวยผู้ตัดสินที่ 4 กดดันให้เมื่อยตุ้มแล้ว

นาทีที่ 81 ยืนหลังห่างกันน่าเกลียดเลยสำหรับแนวรับของแมนฯยูไนเต็ดในจังหวะนี้ที่เปิดช่องให้กับเรดดิ้งได้ลุย วีดิชหายจากตำแหน่ง สมอลลิ่งพยายามเข้าสกัดลูกเปิดจนบอลไปเข้าทางของแม็คอีนัฟฟ์ แม้ว่าบุตต์เนอร์จะพยายามเข้าสกัดแต่ไม่ทัน โดนยิงบอลโค้งผ่านเด เกอาเสียบเสาสองซะแล้ว เรดดิ้งยังมีหวังไล่ตามมา 2-1

นาทีที่ 85 ก่ะว่าจะสวนเกมเอาแบบหล่อๆแต่กลายเป็นฮาแถมโดนเฟอร์กูสันตะคอกใส่อย่างแรงเลยสำหรับเวลเบ็คที่เพื่อนจ่ายบอลทะลุช่องไปให้ เจ้าตัวก่ะว่าจะหลอกกองหลังแล้วเข้าไปซัดเหน่งๆ แต่จังหวะล็อกบอลซ้ายไปขวากลับไปติดเท้าหลักที่ยืนก่อนสะดุดหัวเกือบทิ่มแล้วบอลก็กลิ้งหลุดออกหลังไปเลย

ช่วงท้ายเกมอึดอัดหัวใจแทบแย่เหมือนกันสำหรับแฟนแมนฯยูไนเต็ดที่แม้ว่าจะมีโอกาสได้ฝังจากฟาน เพอร์ซี่ แต่ก็โดนเรดดิ้งบุกกดดันไม่หยุด เล่นเอาหายใจไม่ทั่วท้อง แต่สุดท้ายจบ 90 นาทีพวกเขาก็เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 ผ่านเข้ารอบต่อไปรอเจอผู้ชนะระหว่างเชลซีและมิดเดิ้ลสโบรห์

www.888scoreonline.net นำเสนอ ผลฟุตบอล อัพเดทรวดเร็วทันใจ