"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เดินหน้าสู่ถ้วยแชมป์สมัยที่ 20 ต่อไป เมื่อ "ราฟาเอล" โชว์ฟอร์มทั้งสกัดและยิงประตูโคตรสวยเบิกร่องก่อนกิ๊กส์ตบตอกตะปูฝัง "ทหารเสือราชินี" ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส 2-0 แม้จะเสีย "ฟาน เพอร์ซี่" แต่พวกเขาก็ทิ้ง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปขาดลอยถึง 15 คะแนนเข้าให้
พรีเมียร์ ลีก
วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2556
ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส 0 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม ลอฟตัส โร้ด ออกสตาร์ทเกมแรกผ่านมา 10 นาทีกองเชียร์และแช่งใจเย็นไว้ก่อน เพราะยังไม่มีจังหวะอะไรให้ได้เห็นมากนักสำหรับแมนฯยูไนเต็ด ดูแล้วเครื่องยังเย็นอยู่ ด้านคิวพีอาร์เองก็เตรียมตัวกันมาดี ทั้งกันทั้งโต้ได้ทุกท่วงท่า
นาทีที่ 16 อุตส่าห์กดสูตรใช้หลังหัวโหม่งอีกครั้งแต่มันเบาไปสำหรับจังหวะนี้ของเอร์นานเดซที่สอดขึ้นไปเทคตัวโหม่งบอลที่เพื่อนครอสมาจากด้านข้าง ก่อนบอลจะลอยหวิวๆโด่งทำท่าจะย้อยเสียบคาน เซซาร์เลยจัดการดีดตัวปัดออกหลังไปซะให้พ้นๆ
นาทีที่ 23 อะไรจะเป็นลูกยิงวอลเล่ย์ที่สวยงามขนาดนี้สำหรับราฟาเอล เมื่อเซซาร์ทุบบอลที่ฟาน เพอร์ซี่ยิงมุมแคบยัดเข้าใส่ออกมาได้ แต่มันเข้าทางของแบ็คหย๋อยศักดิ์ที่วิ่งมาบวกทันที บอลเข้าเต็มข้อ ก่อนจะพุ่งเหินแหวกอากาศและกองหลังเข้าไปเสียบสามเหลี่ยมเสาไกลชนิดที่เซซาร์ต้องจำยอม แมนฯยูไนเต็ดขึ้นนำด้วยประตูงามหยด 1-0
ผ่านครึ่งชั่วโมงพอได้ประตูขึ้นนำเหมือนจะโดนเฟอร์กี้สั่งมาว่าให้ค้อยๆเล่น ทางแมนฯยูไนเต็ดเลยไม่ได้ขยับขันโยกโขกใส่คิวพีอาร์ แต่เน้นการยืนตำแหน่งให้แน่นหนาแล้วหาโอกาสสวนกลับแทน เพราะยังไงก็ออกมาเตะกันนอกบ้าน
นาทีที่ 35 ทั้งช่วยยิงช่วยกันเลยสำหรับราฟาเอลจากจังหวะการเตะมุมของคิวพีอาร์หลังแมนฯยูไนเต็ดโดนกดนอยู่พักใหญ่ ก่อนที่แซมบ้าจะขึ้นเบียดโขกได้ บอลพุ่งเข้ากรอบแน่นอนแล้ว แต่ก็เป็นราฟาเอลที่ยืนเฝ้าอยู่สกัดทิ้งออกมาได้ทัน
นาทีต่อมา จังหวะนี้ต้องชมกันทั้งหมดเลยไล่ตั้งแต่ราฟาเอลที่เปิดบอลครอสเข้าเขตโทษอย่างเป๊ะ ก่อนที่ฟาน เพอร์ซี่จะไปรอเสาสองวอลเล่ย์ทะแยงเล่นทาง แต่เซซาร์ก็ล้มตัวปัดปลายมือเอาไว้ได้สวยมาก
นาทีที่ 41 ข่าวร้ายอย่างแน่นอนสำหรับแมนฯยูไนเต็ดเมื่อฟาน เพอร์ซี่มีอาการบาดเจ็บจากการไปปะทะกับช่างกล้องนอกสนามจนไม่สามารถที่จะฝืนเล่นต่อได้ ทำให้ต้องถอดเอาออกโดยด่วนแล้วส่งเวลเบ็คลงไปเล่นแทน
ก่อนจะจบครึ่งแรก แมนฯยูไนเต็ดเซ็งอยู่สักหน่อยเพราะพวกเขากำลังจะได้บอลสวนกลับผ่านนักเตะคิวพีอาร์ เพียงแต่ผู้ตัดสินต้องหยุดเกมเพราะเอฟร่านอนเจ็บคางอยู่ หลังจากไปโดนสตั๊ดของทาวเซนด์เข้าแบบไม่ได้ตั้งใจ
จบครึ่งแรกลงพร้อมกับความโกรธเกรี้ยวของเฟอร์กูสันที่แทบจะปรี่เดินเข้าหาผู้ตัดสินทันที ก่อนโวยวายยกใหญ่ แต่ไม่รู้ว่าอะไรบ้าง เอาว่าก่อนจะกลับมาเตะกันอีก 45 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนำอยู่ 1-0
ต่อมาในครึ่งหลังนี้ต้องลุ้นกันหน่อยสำหรับแฟนแมนฯยูไนเต็ด เพราะดูแล้ว "ปีศาจแดง" มาเล่นเหมือนยื้อเอาไว้ก่อนเต็มตัวเลย เพราะจะว่าไปก็เป็นการยากในการทำเกม ตรงกลางกิ๊กส์ค่อนข้างช้า ส่วนปีกสองข้างก็ไม่ได้ฟอร์มเปรี้ยง ยิ่งหอกคู่นี่ไม่ใช่ตัวทำเกมอยู่แล้ว เลยทำให้คิวพีอาร์มีจังหวะได้สวนขึ้นไปลุ้นเหมือนกัน เพียงแต่ยังไม่ลงล็อกเท่านั้นเอง
ผ่านหนึ่งชั่วโมง แมนฯยูไนเต็ดเล่นเหมือนรอโดนเลย เพราะนอกจากจะบุกกันแบบงึกๆงักๆ พวกเขายังเก็บบอลไม่อยู่ ทำเสียทำหลุดกันหมด จนสุดท้ายเฟอร์กูสันทนไม่ไหวต้องส่งรูนี่ย์ลงไปเล่นแทนเอร์นานเดซแม้ว่าสภาพความฟิตจะไม่เต็มถัง ด้านคิวพีอาร์ก็จัดเรมี่ลงลุยเช่นเดียวกัน
นาทีที่ 64 ก็ว่าเล่นเหมือนรอโดนสำหรับแมนฯยูไนเต็ดที่เสียบอลอีกรอบ สุดท้ายถูกสวนเป็นเรมี่ที่ได้บอล ก่อนตัดเข้าในแล้วตะบันอัดไปที่เสาแรก ยังดีเด เกอายืนคุมเอาไว้ได้อยู่ ปัดทิ้งออกหลังไปแบบตันท์ๆ ก่อนที่จะเสียวอีกดอกกับลูกเตะมุมที่แซมบ้าขึ้นได้ก่อนใคร เพียงแต่บอลมันพุ่งหลุดออกหลังไปนั่นเอง
อีก 4 นาทีต่อมา ถึงไม่รู้ว่าที่ส่งลงไปนั้นจะช่วยได้มากแค่ไหนแต่ยังไงคงต้องเปลี่ยนสำหรับแมนฯยูไนเต็ดที่ริมเส้นวันนี้ไม่มีอะไรเลย ถอดเอายังที่ช่วงหลังทำเสียบอลถี่ออกไป แล้วให้วาเลนเซียที่ช่วงหลังก็เปิดไม่เป็นลงไปเล่นแทน
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย สถานการณ์ยังเปลี่ยนได้เสมอกับสกอร์ที่ต่างกันอยู่แค่ลูกเดียวในตอนนี้ มาถึงตรงนี้แล้วถึงเกมบุกจะไม่จี๊ดจ๊าด แต่แมนฯยูไนเต็ดคงต้องนึกถึงเกมแน่นๆที่ไม่พลาดเอาไว้ก่อน ส่วนคิวพีอาร์ก็ต้องเร่งตัวเองขึ้นมาอีกหน่อย เพราะนอกจากจังหวะเรมี่แล้วที่เหลือยังไม่ได้ลุ้น
นาทีที่ 76 น่าจะได้ประตูนำห่างจริงๆสำหรับแมนฯยูไนเต็ดในจังหวะที่นานี่ป้ายบอลให้เอฟร่าสอดขึ้นไปสุดเส้นกลัง ก่อนตบกลับให้กัยรูนี่ย์ที่ยืนตั้งป้อมในเขตโทษ แต่มีฮิลล์ยืนบังจังก้าอยู่ ไอ้หมูเหมือนคิดอะไรไม่ออกเลยยิงซะเลย สรุปคือติดบล็อกพลาดโอกาสไป
อีก 2 นาทีต่อมา นึกว่าจะหล่อซะแล้วสำหรับเวลเบ็คที่นานๆทีจะเห็นได้บอล เมื่อเขารับต่อมาจากรูนี่ย์ก่อนสับขาหลอกกองหลังคิวพีอาร์หักเข้ากลางได้แล้ว แต่จังหวะยิงกลับมีจีนาสพุ่งเข้ามาบล็อกไว้ได้ซะก่อน
นาทีที่ 80 หลังจากอึดอัดมาเกือบทั้งเกม ในที่สุดแมนฯยูไนเต็ดก็หายใจโล่งคอได้สักที เมื่อเวลเบ็คโชว์จังหวะการจ่ายเทพ แตะเร็วให้กิ๊กส์วิ่งเอาชนะกับดักล้ำหน้าก่อนจะเข้าไปยิงอัดด้วยซ้ายสวนตัวเซซาร์ที่เซฟไม่ไหวพุ่งเสียบตาข่ายอย่างเยือกเย็น แมนฯยูไนเต็ดทิ้ง 2-0
ช่วงเวลาที่เหลือก็มีจังหวะที่ได้ลุ้นกันทั้งสองฝ่าย แต่สุดท้ายแล้วไม่มีสกอร์เพิ่มเติมแต่อย่างใด ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเอาชนะควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์สไปได้ 2-0 ทิ้งห่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่จะเตะกับเชลซีในวันอาทิตย์นี้ไปเป็น 15 คะแนนเข้าให้แล้ว
ส่วนควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์สนี่ต้องลุ้นหนักจริงๆ เพราะเหลืออีก 11 เกมพวกเขายังมีเพียง 17 คะแนนเท่านั้น งานยากอย่างยิ่งสำหรับเร้ดแนปป์ในภารกิจหนีตายครั้งนี้
