"หลุยส์ ซัวเรซ" กู้ชื่อคืนมาจนได้หลังจากทำแฮนด์บอลเสียจุดโทษแถมลามปามใช้ฟันหน้าแทะ "บรานิสลาฟ อิวาโนวิช" จนจ่อพ่าย "เชลซี" กลับกลายมาโหม่งพังประตูให้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูลไล่ตีเสมอ 2-2 ในช่วงทดเจ็บที่เลย 6 นาทีแบบโชคช่วยสุดระทึก
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2556
ลิเวอร์พูล 2-2 เชลซี
สนาม แอนฟิลด์ เริ่มเกมมาในช่วงแรก "หงส์แดง" ถึงกับต้องใจหายก่อนเลยจากจังหวะที่แอ็กเกอร์พยายามไล่เบียดสกัดบอลกับตอร์เรสก่อนที่จะเสียหลักลงไปกองกับพื้นซึ่งเจ้าตัวต้องใช้เวลานิดหน่อยก่อนกลับมายืนจับบั้นเอวและเล่นต่อไปได้ในนาทีที่ 2
นาทีที่ 5 ลิเวอร์พูลทำเกมมาสวยเหลือเกินเริ่มจากเฮนเดอร์สันป้ายมาให้ซัวเรซดึงบอลแล้วแทงทะลุช่องหลุดเป็นแผงให้จอห์นสันที่เติมขึ้นมาพยายามจิ้มให้หนีตัวเช็คที่ออกมาบล็อคแต่บอลออกหลังไปไม่ได้ลุ้น
โอกาสยิงครั้งแรกของเชลซีเกิดขึ้นในนาทีที่ 14 เมื่อออสการ์ได้บอลจากอาซาร์มาตรงริมเส้นด้านซ้ายแล้วทำชิ่งกับตอร์เรสเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่จังหวะยิงดาวเตะบราซิลจิ้มเบาเกินไปทำให้ไม่ผ่านมือของเรน่า
"หงส์แดง" เริ่มเปิดเกมรุกใส่บ้างและจากจังหวะต่อเนื่องในลูกเตะมุมดาวนิ่งพยายามเลี้ยงไปเลี้ยงมาหน้าปากเขตโทษด้านขวาก่อนซัดด้วยซ้ายแต่บอลเหินข้ามคานออกไปไม่ได้ลุ้น
เรน่าต้องออกแรงอีกครั้งจากจังหวะที่เชลซีเดินเกมหนีโซนประกบของเจ้าบ้านจากริมเส้นด้านซ้ายแล้วบอลมาถึงรามิเรสตะบันไกล 30 หลาทำให้เรน่าต้องปักหลักทุบบอลให้พ้นอันตรายออกไปก่อน
นาทีที่ 26 เชลซีได้ประตูออกนำจนได้จากจังหวะเตะมุมด้านขวามาต้าเปิดมาตรงเสาแรกให้ออสการ์ขยับหนีแอ็กเกอร์ตัวประกบมาโขกสะบัดไปที่เสาแรกโดยเรน่าพยายามพุ่งมาปัดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ทำให้บอลเข้าไปตุงตาข่ายเลย
แฟนบอลเจ้าบ้านใจหายใจคว่ำอีกครั้งเมื่อลูอิซพยายามยิงไกลจากระยะกว่า 35 หลากลางประตูบอลพุ่งตรงตัวเรน่าแต่กระดอนพื้นก่อนทำให้มือกาวสเปนซองแตกบอลเกือบจะปลิ้นเข้าประตูแล้วแต่เขาหันกลับมาคว้าไว้ทันนิดเดียวเท่านั้น
เกมของ"หงส์แดง"ยังตั้งไม่ค่อยติดเลยแต่ก็ได้ลุ้นเหมือนกันเมื่อคูตินโญ่ลากบอลส่ายไปสายมาก่อนถึงเส้นหลังด้านซ้ายแล้วพยายามปาดเข้ากลางให้ซัวเรซที่อยู่เสาแรกแต่บอลโด่งข้ามหัวแล้วไปเข้ามือของเช็ก
น่าได้จริงๆในจังหวะนี้ของเจ้าบ้านเมื่อดาวนิ่งลากบอลเข้ามาริมกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วจิ้มต่อให้ซัวเรซที่วิ่งมาตามช่องอย่างเหมาะเจอะก่อน"หม่อมเหยิน"ได้ยิงมุมแคบแต่ก็ไม่พ้นมือเช็คที่ดักเอาไว้หมดแล้ว
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ"หม่อมเหยิน"ได้ยิงมุมแคบอีกครั้งแต่ครั้งนี้เปลี่ยนมาเป็นด้านซ้ายของกรอบเขตโทษซึ่งก็ไม่ผ่านเช็คอีกเหมือนเดิม
ต่อมาในช่วงพักครึ่งหลัง "บีร็อด" แก้เกมก่อนเลยโดยส่งสเตอร์ริดจ์ลงมาเจอทีมเก่าแล้วถอดคูตินโญ่ที่ไม่มีบทบาทกับเกมออกจากสนามไปในช่วงพักครึ่ง
เริ่มเกมมาเพียง 15 วินาทีสเตอร์ริดจ์ก็แผลงฤทธิ์เลยเมื่อลากบอลจากริมเส้นด้านขวาเข้ามาถึงหน้าประตูแล้วไหลทะลุช่องให้เจอร์ราร์ดที่เติมขึ้นมายิงตามน้ำไปที่เสาแรกแต่เช็คยังไวทายาทใช้ขาซ้ายสกัดออกหลังไป
"หงส์แดง"บุกหนักเลยและเป็นสเตอร์ริดจ์อีกแล้วที่ได้บอลนอกกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนหาจังหวะสับด้วยซ้ายข้างถนัดแบบเต็มข้อแต่บอลไปโดนเสาไกลดังสนั่นเฮนเตอร์สันพยายามอัดบอลเข้าไปตรงกลางประตูอีกแต่ก็แฉลบผ่านหน้าปากประตูไป
"หงส์แดง"ได้ประตูตีเสมอจนได้โดยเริ่มจากคาร์ราเกอร์วางไกลไปให้ดาวนิ่งเกี่ยวบอลกลับหลังไปให้ซัวเรซตักบอลข้ามหัวอิวาโนวิชไปถึงสเตอร์ริดจ์เข้าชาร์จในระยะ 6 หลาไม่พลาดหมดปัญญาที่เช็คจะเซฟได้อีกแล้ว
นาทีที่ 55 เจ้าบ้านมาเสียจุดโทษจากจังหวะเตะมุมด้านขวาของเชลซีบอลมาโดนแชนของซัวเรซที่ยกขึ้นมาโดนบอลเฉยทำให้เควิน เฟรนด์ลังเลก่อนนิดนึงแล้วเป่าเป็นจุดโทษ
อาซาร์รับหน้าที่สังหารโดยเขาเลือกยิงไปทางซ้ายของตัวเองนิ่มๆส่วนเรน่าพุ่งไปผิดทางทำให้เชลซีขึ้นนำอีกครั้ง
ซัวเรซกับอิวาโนวิชมีจังหวะปะทะกันหน้าปากประตูทำให้ดาวเตะเซิร์บลงไปนั่งเซ็งกับพื้นและเมื่อมาดูภาพช้าเห็นได้เลยว่า"หม่อมเหยิน"ไปกัดบริเวณแขนของคู่แข่งระหว่างที่กำลังนัวเนียกันอยู่หน้าปากประตูแต่เฟรนด์ไม่เห็นเหตุการณ์ซึ่งอาจทำให้เขาโดนลงโทษย้อนหลังได้เหมือนกัน
เกมมาถึงนาทีที่ 67 "หงส์แดง"พยายามครองบอลบุกและมาได้ลูกฟรีคิกตรงเส้นกรอบเขตโทษกลางประตูเลยซึ่ง"หม่อมเหยิน"รับหน้าที่สังหารเองแต่เข้ากลับเลือกยิงหักข้อไปทางเสาซ้ายมือทำให้บอลมันออกข้างไป
คราวนี้เป็นโอกาสของทีมเยือนบ้างจากจังหวะเตะมุมบอลโดนเคลียร์มาถึงอาซาร์แต่งบอลก่อนตะบันไปแฉลบนักเตะเจ้าบ้านเหินข้ามคานออกไป
เกมมาถึงนาทีที่ 74 ซัวเรซพยายามทำเกมเองลากบอลหลบกองหลังเชลซีมา 5 คนก่อนจะยิงด้วยซ้ายหน้าปากประตูแต่บอลไปตรงเข้าซองเช็คสบายๆ
เจ้าบ้านพลาดโอกาสได้ประตูอย่างน่าเหลือเชื่อเมื่อจอห์นสันตกบอลมาให้สเตอร์ริดจ์จับบอลย้อนหลังมาถึงเฮนเดอร์สันป้ายไปให้เชลวี่ย์ได้ยิงโล่งๆตรงกรอบเขตโทษด้านซ้ายแต่ดาวเตะหัวโล้นยิงออกข้างตาข่ายเสียอย่างนั้น
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากลูกเตะมุมเชลวี่ย์ได้ลากบอลออกมาส่องไกลระยะ 30 หลาอีกครั้งแต่ก็กดไม่ลงทำให้บอลเหินข้ามคานออกไปไม่มีลุ้นอะไรเลย
"หงส์แดง"ยังบุกต่อเนื่องซัวเรซครองบอลอยูในกรอบเขตโทษแล้วไหลย้อนกลับมาให้เฮนเดอร์สันวิ่งเข้ามายิงแต่บอลติดเท้าไปหน่อยทำให้บังคับไม่ได้บอลเลยไม่ตรงกรอบ
แต่แล้วช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 7 "หม่อมเหยิน"พุ่งโหม่งบอลเปิดยาวจากสเตอร์ริดจ์ผ่านเช็กเข้าไปทำให้"หงส์แดง"ตามตีเสมอได้แบบเหลือเชื่อ