พฤศจิกายน 23, 2024, 08:37:58 AM

ผู้เขียน หัวข้อ: เหงื่อแตกพลัก~!! "ซิตี้" เอื่อยยันเจ๊า "หงส์ขาว" สุดจืด 0-0  (อ่าน 2992 ครั้ง)

888Bullets

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2127
    • ดูรายละเอียด
คงเพราะไร้แรงจูงใจกันทั้งสองฝ่ายเลยทำให้เกมมันไม่ค่อยจะตื่นเต้นตื่นตาสักเท่าไหร่สำหรับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่บุกไปเสมอกับสวอนซี 0-0 ลงเล่น 35 เกมเก็บไป 74 คะแนน ส่วนลูกทีมเลาดรุ๊ปมีเพิ่มเป็น 43 คะแนน



พรีเมียร์ ลีก
วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม 2556
สวอนซี ซิตี้ 0 - 0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
สนาม ลิเบอร์ตี้ สเตเดี๊ยม

              ออกสตาร์ทเกมมาสูสีน่าดูเลยสำหรับคู่นี้เพราะทั้งสองทีมมีจังหวะเกมรุกที่รวดเร็วและทรงประสิทธิภาพ แต่วัดกันจริงๆแมนฯซิตี้ย่อมเหนือกว่า พวกเขาเลยได้บุกมากกว่าอยู่สักหน่อย เพียงแต่ยังไม่จะแจ้งมากเท่าไหร่ในช่วง 15 นาทีแรก

นาทีที่ 18 ไม่รู้ว่าพลาดไปได้ยังไงเหมือนกันสำหรับจังหวะนี้ของมิชู เพราะเขาน่าจะทำประตูให้กับทีมได้ จากจังหวะที่เร้าท์เล็ดจ์พาบอลขึ้นด้านข้าง ก่อนตัดเข้าในแล้วตักต่อไปในเขตโทษน้ำหนักเป๊ะให้มิชูวิ่งลอยตัวเข้ามาแปได้แล้วแท้ๆ แต่เหมือนจังหวะจะผิดกันอยู่นิดหนึง กลายเป็นยิงด้วยซ้ายบอลแป้กปลิ้นออกหลังไปอย่างน่าเสียดายสุดๆ

เข้าสู่ครึ่งชั่วโมง ดูท่าทางจะเล่นได้ยากเหมือนกันสำหรับแมนฯซิตี้ เพราะแม้ว่าจะพยายามปั้นเกมให้ได้ตามที่ตัวเองต้องการ แต่ก็ยังไม่สามารถตั้งหลักเพื่อหาจังหวะยิงแบบเหมาะเหม๋งได้เลยสักครั้ง

นาทีที่ 35 ถ้าโดนเต็มกว่านี้อีกหน่อยล่ะมีเฮแน่นอน สำหรับจังหวะนี้ของนาสรี่ซึ่งเขาสอดตัวเข้าไปในเขตโทษ โฉบตวัดลูกตักเปิดบอลเข้าในกรอบของเพื่อนที่ข้ามหัวกองหลังมาได้แล้ว แต่เหมือนจะโดนไม่เต็ม บอลเลยไม่ได้เปลี่ยนทิศสักเท่าไหร่ เข้ามือฟอร์มเต็มๆ

อีก 3 นาทีต่อมา ก่ะลุ้นเอาจุดโทษเลยสำหรับจังหวะนี้ของสวอนซี ที่มิชูแตะบอลที่เพื่อนยกมาให้จนทะลุเข้าเขตโทษได้แล้ว แต่โดนนาสตาซิสวิ่งเข้ามาบล็อกเอาไว้จนล้มคว่ำไปทั้งคู่ แต่ถึงอย่างนั้นผู้ตัดสินก็ไม่ได้ว่าอะไร

นาทีที่ 43 เป็นอีกจังหวะที่น่าจะได้ของแมนฯซิตี้ เพราะซิลบาได้บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษ แม้ว่าจังหวะแรกจะตะกุกตะกักเหมือนจับยาว แต่เขาก็ตามเข้าถึงบอลและมีโอกาสได้หวดยิงถึงจะแบบเร่งๆ แต่ก็ดันไปติดบล็อกของฟอร์มที่พุ่งออกมากันเอาไว้สุดชีวิต

               เปิดฉากช่วงครึ่งหลังมา "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีการเปลี่ยนเอายาย่า ตูเร่ออกไป ก่อนจะส่งหัวหอกอย่างเชโก้ลงสนามยืนคู่ลุ้นประตูกับอเกวโร่ไปเลย

นาทีที่ 55 ลากจนตัวเองหัวหมุนเองเลยมั้งสำหรับอเกวโร่จังหวะนี้ที่เขาล็อกบอลหลบกองหลังของสวอนซี 3 คนวนไปวนมา เพื่อที่จะหาช่องยิงจากนอกกรอบให้ได้ สุดท้ายไม่ถึงฝั่งฝัน เลยกลายเป็นไปทำฟาวล์เขาเสียอีก

นาทีที่ 61 ถ้าให้ก็ดูจะง่ายไปนิดสำหรับจังหวะนี้ที่เชโก้ตลึงบอลอยู่นอกกรอบก่อนที่จะตัดสินใจแตะกระชากเข้าในเขตโทษทันที ซึ่งชิโก้เข้าไปบังทางเอาไว้ แต่เหมือนหอกบอสเนี่ยนจะลากๆตัวเข้าไปโดนอยู่สักหน่อยก่อนล้มลง ผู้ตัดสินก็เลยผายมือบอกไม่ใช่จุดโทษสำหรับช็อตนี้

นาทีที่ 69 น่าจะมาจากอาการบาดเจ็บในตอนที่พยายามจะวิ่งไล่กวดบอลที่เพื่อนตักขึ้นหน้าให้แล้วเกิดกล้ามเนื้อกระตุกขึ้นมาเลยทำให้สวอนซีต้องเปลี่ยนเอามิชูออกไปและส่งมัวร์ลงไปเล่นแทน

อีกหนึ่งนาทีต่อมา เชโก้ขอลองยิงไกลดูบ้างเพราะตั้งแต่เขาลงมายังไม่ได้โอกาสสักเท่าไหร่ แต่เหมือนจะเร่งไปนิดเลยช้อนใต้บอลส่งพุ่งข้ามคานออกไปไกลพอควรเลย

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ความอันตรายในเกมนี้นอกจากจังหวะของซิลบาแล้วที่เหลือก็ไม่ได้มีอะไรเลย ดูทรงแล้วเสมอกันทั้งสองฝ่ายคงจะพอใจเพราะเร่งยังไงก็ไม่ขึ้นด้วยกันทั้งคู่

จบ 90 นาทีของเกมที่เล่นเอาเหงื่อกันลงไปด้วยสกอร์เสมอ 0-0 ของทั้งสองทีม ทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้มีเพิ่มเป็น 72 คะแนน ส่วนสวอนซีมีเพิ่มเป็น 43 คะแนนในตารางพรีเมียร์ ลีก

www.888scoreonline.net นำเสนอ ผลฟุตบอล อัพเดทรวดเร็วทันใจ