"ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริดถึงกับปาดเหงื่อกว่าจะชนะเรอัล บาญาโดลิดในบ้านตัวเองด้วยสกอร์ 4-3 คริสติอาโน่ โรนัลโด้โหม่งสองประตูช่วยให้"ราชันชุดขาว"เก็บชัยในลีกเป็นนัดที่ 5 ติดต่อกันพร้อมยื้อบาร์เซโลน่าให้เลื่อนฉลองแชมป์ไปอีกสัปดาห์
ฟุตบอลลาลีกา
วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม 2556
เรอัล มาดริด 4 - 3 เรอัล บาญาโดลิด
สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ลงสนามมาเล่นกันในช่วงแรกได้เพียง 8 นาทีบาญาโดลิดสร้างเซอร์ไพรซ์ออกนำก่อน 1-0 เมื่อดิ มาเรียจ่ายบอลคืนให้คาร์วัลโญ่ไม่ดีเจอออสการ์ฉกเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนแปลอดขาโลเปซเข้าสู่ก้นตาข่าย
นาทีถัดมาเรอัล มาดริดพยายามขึ้นเกมหมายทวงสกอร์คืนโดยโคเอนเตราได้จังหวะเปิดบอลจากริมเขตโทษด้านซ้ายมาให้โรนัลโด้จักรยานอากาศวืดเต็มๆก่อนเป็นดิ มาเรียที่วอลเล่ย์ด้วยอีซ้ายข้ามคาน
เกมผ่านมาถึงนาที 25 เรอัล มาดริดน่าได้ประตูตีเสมอเมื่อโรนัลโด้ผ่านบอลมาให้กาก้าหน้ากรอบเขตโทษก่อนซัดด้วยอีขวาข้างถนัดไปที่โคนเสาขวาแต่ไฆเม่ยังไม่พลาดพุ่งไปปัดบอลออกมาได้
แต่นาทีถัดมาเบนเซม่าเปิดบอลจากหน้าเขตโทษมาทางฝั่งขวาให้ดิ มาเรียลากหนีตัวประกบตัดเข้าในจนได้ง้างเท้ายิงยัดเข้าไปแฉลบปลายเท้าบาเลียนเต้เปลี่ยนทางเข้าเสียบเสาแรกให้เจ้าบ้านตีเสมอ 1-1
"ราชันชุดขาว"น่าได้ประตูแซงนำบาญาโดลิดเมื่อนาที 29 โรนัลโด้ได้ซัดฟรีคิกไปแฉลบกำแพงหลุดโคนเสาขวาไปนิดเดียว ขณะที่จังหวะเล่นลูกเตะมุมเปเป้ทะยานเข้าโขกเต็มกบาลแต่ไฆเม่ป้องกันไว้ได้
ความพยายามของ"โลส บลังโกส"มาประสบผลในนาที 32 เมื่อดิ มาเรียมีช่องได้บรรจงครอสบอลจากริมเส้นด้านขวาเข้ามาที่เสาแรกให้โรนัลโด้ขึ้นโขกสะบัดไปเสียบเสาไกลส่งเจ้าบ้านแซงนำ 2-1
แต่ความผิดพลาดในแนวรับของเจ้าบานก็ทำให้บาญาโดลิดมาตามตีเสมอ 2-2 ในอีกสามนาทีถัดมาเมื่อโอมาร์ รามอสเปิดเลียดจากทางซ้ายเข้าไปในกรอบ 6 หลาให้กูเอร์ร่าชาร์จเข้าไปไม่เหลือซาก
ก่อนพักครึ่งสองนาทีกาก้ามาเรียกฟาวล์หน้ากรอบเขตโทษให้โรนัลโด้ได้โชว์เครื่องหมายทางการค้าอย่างการหวดฟรีคิกซึ่งจังหวะนี้ก็ซัดข้ามกำแพงไปกระแทกคานอย่างจังทำให้สกอร์ยังหยุดที่ 2-2
เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของเกมยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัวจากทั้งสองฝ่ายแล้วพอถึงนาที 48 โรนัลโด้ผ่านบอลให้โมดริชได้ง้างเท้ายิงด้วยซ้ายจากแถวหัวกระโหลกไปโดนไฆเม่ป้องกันออกมาได้
แต่นาทีถัดมาเรอัล มาดริดก็มาขึ้นนำ 3-2 เมื่อดิ มาเรียลากบอลลุยเข้ากรอบเขตโทษก่อนสะกิดให้เบนเซม่าแทงออกซ้ายมาให้กาก้ากระหน่ำไปโดนไฆเม่ปัดได้แต่ด้วยความแรงทำให้บอลทะลักเข้าไป
นาที 58 กาก้าไหลบอลทะลุช่องให้เบนเซม่าฉีกหนีตัวประกบเข้่าไปกระทุ้งในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแต่ไฆเม่ยังสกัดไว้ได้แม้ต้องตามตะคลุบในจังหวะสองก็ตาม ขณะที่ทีมเยือนส่งเอาบูเอโน่ลงมาลุย
หลังจากนั้นเจ้าบ้านเปลี่ยนเอาอลอนโซและโอซิลลงมาแล้วก็เป็นมิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมนีที่เปิดลูกเตะมุมด้านซ้ายมาที่เสาแรกให้โรนัลโด้เทคตัวขึ้นโหม่งสะบัดไปที่เสาไกลเป็นประตูทิ้งห่าง 4-2
นาที 81 บูเอโน่ลากบอลมายิงหน้ากรอบเขตโทษแล้วดิเอโก้ โลเปซพยายามรับบอลแต่ดันทำซองแตกเปิดช่องให้ออสการ์ได้ตามยิงซ้ำแต่อดีตนายด่านบีญาร์เรอัลยังปรี่เข้าบล็อกไว้ได้ทัน
อีกสี่นาทีถัดมาดิเอโก้ โลเปซเกือบเจอดีอีกแล้วหลังออกมายืนนอกเส้นมากเกินเลยถูกออสการ์บรรจงซัดจากระยะ 35 หลาเข้าหากกรอบประตูยังดีที่อดีตนายด่านทีมชาติสเปนถอยไปปัดทิ้งได้ทัน
แต่แล้วดิเอโก้ โลเปซก็ต้องมาสังเวยประตูที่สามในเกมนี้จนได้ในนาที 87 เมื่อบาญาโดลิดเล่นลูกเตะมุมเข้ามาแล้วนาโช่โขกสกัดไปเข้าทางปืนซาสเตรหวดตูมเดียวที่หัวกระโหลกหายเข้าประตูเลย
จบเกมเรอัล มาดริดยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้เรอัล บาญาโดลิด 4-3 ยื้อไม่ให้บาร์เซโลน่าฉลองแชมป์ลีกได้อีกสัปดาห์ ส่วนตัวเองทิ้งห่างที่ 3 อย่างแอต.มาดริดออกไป 9 แต้มแต่เตะมากกว่า 1 นัด
