พฤษภาคม 02, 2024, 08:21:44 PM

กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 10
31
ข่าวฟุตบอล / ถอนแค้น! 'หงส์' จิก 'เรือ' แตก 3-0!!!
« กระทู้ล่าสุด โดย Reporter เมื่อ มีนาคม 04, 2016, 06:16:30 PM »
   3 - 0   

       ต้องบอกว่าถอนแค้นคืนได้สำเร็จแบบงดงามเลยทีเดียวสำหรับหงส์แดง ลิเวอร์พูล ของกุนซือขวัญใจแฟนบอล เจอร์เก้น คล็อปป์ เมื่อเกมลีกนัดล่าสุดเปิดรังแอนฟิลด์ไล่ถล่มเรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ ไปซะยับเยินถึง 3-0 พร้อมๆกับการปิดโอกาสในการลุ้นคว้าแชมป์ลีกของทีมแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ไปแบบกลายๆด้วย หลังก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเพิ่งจะพ่ายแพ้ในการดวลจุดโทษเกมนัดชิงชนะเลิศศึก แคปปิตอล วันคัพ

       ทั้งนี้เกม หงส์แดง พบ เรือใบสีฟ้า ในรายการลีกถือได้ว่าเป็นหนึ่งเกมใหญ่ที่น่าสนใจมากๆ เพราะดังที่กล่าวข้างต้นประเด็นแรกทั้งสองทีมเพิ่งพบกันมาในแมทชิงชนะเลิศลีกคัพ ประเด็นที่สองเรือใบสีฟ้านั้นยังพอมีความหวังเล็กๆในการลุ้นแชมป์ลีก หากว่าพวกเราสามารถเก็บสามแต้มจากเกมนี้ได้ เช่นกันทางฝั่งของหงส์แดงเองก็ยังแอบลุ้นโควต้าฟุตบอลถ้วยยุโรปได้หากว่าคว้าชัยได้

       อย่างไรก็ตามเมื่อเกมเริ่มขึ้นเป็นเจ้าบ้านที่ทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจนและดีกว่าตลอดทั้งเกม โดยได้ประตูนำ 1-0 จาก อดัม ลัลลาน่า นาทีที่ 34 จากนั้นอีกเพียง 7 นาทีถัดมา เจมส์ มิลเนอร์ อดีตแข้งเรือใบเองก็มาบวกสกอร์ที่สองให้หนีห่างไปก่อนจบครึ่งแรกเป็น 2-0 ครึ่งเวลาหลัง โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ มาฝังประตูปิดท้ายให้เป็น 3-0

       สำหรับสถิติต่างๆที่เกิดขึ้นในเกมนี้ ในส่วนของเปอร์เซ็นต์การครองบอลสูสีกัน เจ้าบ้านทำได้ดีกว่าเล็กน้อยที่ 51%-49% แต่การสร้างสรรค์โอกาสการทำประตูนั้นเหนือกกว่ามาก โดยสร้างโอกาสยิงทั้งเข้ากรอบและไม่เข้ากรอบรวมกัน 10 ครั้ง ขณะที่ทีมเยือนทำได้เพียง 4 ครั้ง

       แต่ความหนักของเกมการเล่นนอกเกม เกมนี้ต้องยกให้เป็นหนึ่งเกมที่ดูใสสะอาดที่สุด เพราะมีใบเหลืองเกิดขึ้นเพียงแค่ใบเดียวเท่านั้น โดยเป็นของ เฆซุส นาบาส ตัวรุกของทีมเยือนซึ่งได้รับไปในนาทีที่ 68 อันดับในตารางคะแนนหลังเกมการแข่งขันลิเวอร์พูลขยับจากอันดับ 11 ขึ้นรั้งอันดับ 8 มี 41 แต้มตามหลังทีมอันดับ 5 อย่างแมนฯยูไนเต็ดอยู่ 6 แต้ม
32

       เรียกว่าแทบจะคอนเฟิร์มอนาคตกันได้แล้วสำหรับปีศาจแดงกับ โจเซ่ มูริญโญ่ อดีตนายใหญ่ทีมสิงห์บลู เพราะช่วงหลังข่าวคราวที่ออกมานั้นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆว่า การเจรจาของทั้งสองฝ่ายรุดหน้าไปไกลมากแล้ว ทั้งจากข่าวที่สื่อตีออกมาเอง และข่าวคราวที่สื่อตีพ ร้อมกับอ้างอิงคำพูดของบุคคลที่น่าเชื่อถืออย่างก่อนหน้านี้ไม่นานก็เป็นทาง เบดี้ โมรัตติ หนึ่งในผู้บริหารทีมงูใหญ่ที่กล่าวออกมาว่า มูริญโญ่ กับลังเตรียมตัวไปกุมบังเหียนทีม ปีศาจแดง

       ส่วนล่าสุดก็เป็นสื่อในเมืองแมนเชสเตอร์ที่ออกมาตีข่าวระบุว่า อดีตนายใหญ่เชลซีตกลงสัญญา และเงื่อนไขต่างๆในการทำทีมกับยอดทีม แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 20 สมัยได้แล้วที่เหลือก็แค่การรอลุ้นว่าจะได้โผล่เข้ามาเสียบแทน หลุยส์ ฟาน กัล ในระหว่างซีซั่นนี้เลยหรือเปล่า หรือต้องรอจนกว่าจะถึงช่วงซัมเมอร์คือจบซีซั่นนี้ก่อน

       ทั้งนี้ แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์ อ้างข้อมูลว่าทาง เอ็ด วู้ดเวิร์ด ซีอีโอคนดังของปีศาจแดงกับมูริญโญ่ รวมถึง จอร์จ เมนเดส นายหน้าคนดังที่ดูแลอนาคตของนายใหญ่ชาวโปรตุกีส ได้สัญญากันปากเปล่าแล้วว่าจะทำงานร่วมกัน

       ขั้นตอนที่เหลือจากนี้จึงเป็นเรื่องของปีศาจแดงเท่านั้น ที่จะต้องเคลียร์นายใหญ่ชาวดัตซ์ “หลุยส์ ฟาน กัล” ให้เสร็จสิ้นก่อน ว่าจะเอายังไง กล่าวคือจะสั่งปลดระหว่างซีซั่นนี้เลย หรือจะรอสั่งปลดเมื่อซีซั่นนี้สิ้นสุด  กระนั้นก็เป็นไปได้เช่นกันว่าผลงานช่วงหนึ่งถึงสองเกมต่อจากนี้ จะมีส่วนต่อการกำหนดอนาคตอดีตนายใหญ่ทีมชาติฮอลแลนด์ 

       ขณะที่ข่าวลืออื่นๆที่ตามมาในช่วงนี้ก็มีประเด็นการเสริมทัพหากว่ากุนซือเดอะ สเปเชี่ยลวันได้เข้าไปกุมบังเหียนทีมปีศาจแดงแล้ว โดยมีบางสื่อรายงานออกมาว่าเจ้าตัวเล็งเป้าการเสริมทัพแบบจัดหนักให้ทีมปีศาจแดงไว้ที่สองนักเตะตัวเก่งในบุนเดสลีกา อย่าง โธมัส มุลเล่อร์ ของทีมเสือใต้ และ ปิแอร์เอเมอริก โอบาเมยอง ของทีมเสือเหลือง
33

       ถือว่าทำเอา ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ รู้สึกนอยไปเลยเหมือนกัน สำหรับกระแสวิจารณ์เรื่องความทุ่มเทของเจ้าตัว ที่แฟนบอลบางส่วนกับสื่อพากันพูดว่า เจ้าตัวขาดความทุ่มเทในการลงเล่นให้หงส์แดง และดูไม่จริงใจต่อการฟื้นฟูสภาพความฟิตของร่างกายระหว่างที่บาดเจ็บ

       ทั้งนี้ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา กองหน้าทีมชาติอังกฤษรายนี้ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการรักษาอาการบาดเจ็บ และฟื้นฟูสภาพความฟิตจนลงสนามช่วยทีมหงส์แดงแบบชนิดว่านับเกมได้เลย จึงมีกระแสลือออกมาจากแฟนบอลของทีมหงส์แดงเองว่าเจ้าตัวไร้ความทุ่มเทในการลงรับใช้ทีมหงส์แดง แล้วก็อาจกำลังมองหาต้นสังกัดใหม่อยู่ด้วยก็เป็นได้

       อย่างไรก็ตามทันทีที่ สเตอร์ริดจ์ กลับคืนสนามให้ หงส์แดง ได้ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา นักเตะก็กลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาปรับจูนเลย ในเกมที่หงส์แดงบุกไล่ยำใหญ่ แอสตัน วิลล่า ไป 6-0 เจ้าตัวก็เป็นคนซัดประตูแรกให้กับทีม แต่ถึงอย่างนั้นกระแสวิจารณ์ของเจ้าตัวก็ยังไม่ได้หมดไป

       ทำให้เจ้าตัวอดรนทนไม่ไหวออกมากล่าวผ่านสื่อถึงประเด็นนี้ พร้อมกับยืนยันถึงสิ่งที่ตนเองทำให้กับหงส์แดงว่า หากคุณบอกว่านักเตะไม่อยากลงสนามไปเล่นให้กับทีม นั่นมันถือเป็นการไม่ให้เกียรตินักฟุตบอลอย่างมาก ไม่ว่ากับใครก็ตาม แน่นอนผมแปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วก็รู้สึกผิดหวังกับมันที่มีคนพูดถึงผมแบบนั้น

       แต่โลกของฟุตบอลมันก็แบบนี้แหละ ทุกคนก็พูดวิจารณ์ไปตามความเห็นของตนเอง แต่ผมบอกเลยว่าหลายสิ่งอย่างที่ผู้คนพูดเกี่ยวกับผมมันไม่ใช่ความจริง ผมไม่ได้ใส่ใจกับโลกโซเชี่ยลมากมายหรอก ทว่ามันก็อดแปลกใจไม่ได้อยู่ดีที่มีคำถามแบบนี้เกิดขึ้น ยังไงซะผมก็จะทำหน้าที่ของผมให้ดีต่อไป ผมจะมีสมาธิกับการเล่นให้ลิเวอร์พูล ใช่ที่ผ่านมามันยากลำบากทั้งการเป็นความหวังของทีม และปัญหาอาการบาดเจ็บที่รบกวน แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ตั้งใจฝากอนาคตไว้ที่หงส์แดงอีกนาน
34

       เรียกว่าเป็นอะไรที่ไม่ปลื้มเอาซะเลยสำหรับการออกมากล่าวในเชิงตำหนิรุ่นน้องทีมปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ของ มาร์ติน คีโอว์น อดีตหลังพันธุ์แกร่งระดับตำนาน ต่อกรณีที่แข้งบางส่วนของทีมรวมตัวกันถ่ายภาพฉลอง หลังเกมการแข่งขันที่ปืนใหญ่เฉือนเอาชนะทีมจิ้กจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ ไป 2-1 และโพสต์ลงบนสื่อสังคมออนไลน์เพื่อเป็นการอวดผลงาน

       สำหรับเกมดังกล่าวนั้นถือเป็นหนึ่งเกมในซีซั่นนี้ที่มีความสำคัญต่อทีมปืนโต เพราะผลจากชัยชนะทำให้พวกเขาไล่ตาม ทีมจิ้กจอกสยาม ที่รั้งจ่าฝูงอยู่เวลานี้เหลือเพียงแค่สองแต้มเท่านั้น เหล่านักเตะซึ่งนำโดย อเล็กซิส ซานเชส และ เมซุต โอซิล จึงได้จัดการแชะภาพราวกับว่าฉลองที่ได้แชมป์หลังเกมการแข่งขัน ก่อนจะโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดีย และมีแฟนๆตามมากดไลค์กันอย่างล้มหลาม

       อย่างไรก็ตาม คีโอว์น ออกมากล่าวแสดงความเห็นต่อสิ่งนี้ว่าการถ่ายรูปแล้วเอามาโพสต์หลังจากชนะ เลสเตอร์ ได้เอาจริงๆถ้าเป็นผมไม่มีเวลาทำแบบนี้หรอก ถ้าจะถ่ายรูปฉลองกับเพื่อนๆแล้วล่ะก็ ผมจะทำก็ต่อเมื่อเราคว้าแชมป์ได้แล้ว คุณก็ลองดูในภาพสิว่ามี ปีเตอร์ เช็ก อยู่ไหม? เขารู้ดีว่าการจะทำอะไรแบบนี้มันต้องหมายถึงการฉลองแชมป์ เชื่อเหอะรูปฉลองแบบนี้ของ ปีเตอร์ เช็ก มีเยอะแยะในห้องแต่งตัวของทีมเชลซี (เช็กเคยประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ร่วมกับเชลซีมาหลายรายการแล้ว)

       อาร์เซน่อล ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของซีซั่นนี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งทีมเต็งแชมป์ลำดับต้นๆ หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นเต็งหนึ่งเลยด้วยซ้ำ เพราะสื่อหลายสำนักมองว่าเวลานี้พวกเขาเหนือกว่าทีมอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ ที่นำจ่าฝูงอยู่ ทั้งมีแต้มเหนือกว่า แมนฯซิตี้ ที่มีขุมกำลังที่ยอดเยี่ยมอีก ผลงานในช่วงท้ายซีซั่นและแนวโน้มการยืนระยะที่น่าจะดีกว่า ทีมเลสเตอร์ จึงอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทัพปืนใหญ่เข้าวินคว้าแชมป์ไปในที่สุด

35

       เรียกว่าลือกันไปได้เรื่อยจริงๆสำหรับข่าวคราวเกี่ยวกับตลาดซื้อขายนักเตะ โดยล่าสุดก็เป็นสื่อดังในอังกฤษอย่าง เดลี่ เมล ที่ออกมาตีข่าวว่าปีศาจแดง ยอดทีมแห่ง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เตรียมที่จะทุบคลังเงินของทีมแล้วนำเงินกว่า 70 ล้านปอนด์ไปสู่ขอ โอบาเมยอง หัวหอกกาบองทีมเสือเหลือง ดอร์ทมุนด์ แห่งบุนเดสลีกาที่โชว์ฟอร์มยิงระเบิดเทิดเทิงในซีซั่นนี้
 
       ทั้งนี้ตามรายงานจากสื่อระบุว่า ปีศาจแดง จะต้องสู้กับอีกสองทีมใหญ่ของยุโรป อย่าง อาร์เซน่อล คู่แข่งร่วมพรีเมียร์ลีก และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทีมมหาเศรษฐีแห่ง ลีกเอิง ฝรั่งเศส เพื่อแย่งชิงตัวกองหน้าทีมชาติกาบองรายนี้ เพราะสองทีมหลังนี้ถือว่าเล็งเป้าการเสริมทัพมาที่นักเตะอยู่ก่อนแล้ว

       โดยในรายของ อาร์เซน่อล ตามการกล่าวอ้างจากสื่อระบุว่าเคยได้ยื่นข้อเสนอไปหาทีมดอร์ทมุนด์แล้วด้วย ที่จำนวน 44 ล้านปอนด์ แต่ดีลไม่ประสบความสำเร็จ

       สำหรับ ปิแอร์ โอเมอริก โอบาเมยอง ในซีซั่นนี้ถือว่ามีฟอร์มการเล่นที่ฮอตมากและจะว่าไปก็มีลุ้นที่จะทำสถิติพังประตูสูงสุดในหนึ่งซีซั่นของทาง แกรด มุลเลอร์ ตามที่เจ้าตัวเคยได้ออกมากล่าวเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนด้วย จากเหตุนี้จึงทำให้บรรดาทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปโฟกัสเป้าหมายการเสริมทัพปรับทีมในแดนหน้ามาที่เจ้าตัว

       ส่วนเรื่องความเป็นไปได้ที่ แมนฯยูไนเต็ด จะประสบความสำเร็จกับดีลนั้น ต้องถือว่ามีความเป็นไปได้มากทีเดียวหากว่ายื่นข้อเสนอเป็นจำนวนเงินสูงถึง 70 ล้านปอนด์ตามที่สื่อรายงานออกมาจริง เพราะที่ผ่านมาทีมอย่าง ดอร์ทมุนด์ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาก็พร้อมปล่อยนักเตะดาวดังออกจากทีมทุกราย หากว่าตัวนักเตะอยากย้ายออก และได้รับเงินค่าตัวที่สูงพอ แต่ทั้งนั้นทั้งนี้นอกจาก โอบาเมยอง แล้วแมนฯยูไนเต็ดก็เคยได้ตกเป็นข่าวกับนักเตะกองหน้าและตัวรุกรายอื่นๆอีกหลายรายด้วยกัน
36

       ต้องบอกว่ากลายเป็นสามสัญลักษณ์สำคัญที่จะขาดไม่ได้ของทีมม้าลาย ยูเวนตุส ยุคนี้ไปแล้วสำหรับ เปาโล ดีบาลา หัวหอกอาร์เจนไตน์ พอล ป็อกบา มิดฟิลด์เฟร้นแมน และ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลียกรี กุนซือคนเก่ง เพราะแม้ว่าตลาดช่วงหลังจะมีข่าวออกมาตลอดว่า หลายทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปให้ความสนใจในตัวพวกเขา แต่ล่าสุดสโมสรเจ้าม้าลายก็ออกมาแถลงยืนยันแล้วว่าสามบุคคลสำคัญของม้าลายยุคนี้จะไม่ย้ายไปไหน และจะอยู่ร่วมกันทำงานในยูเวนตุสไปอีกนานแน่นอน

       ทั้งนี้อย่างที่ทราบกันว่า พอล ป็อกบา นั้นเป็นหนึ่งมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดคนนึงในยุคนี้โดยพิสูจน์ผลงาน และประสบความสำเร็จร่วมกับยูเว่อย่างยิ่งใหญ่มาแล้วในซีซั่นที่แล้ว เช่นเดียวกันก็ตกเป็นข่าวได้รับความสนใจจากบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปตลอด  เรียกว่าเป็นข่าวในทุกครั้งของตลาดซื้อขายนักเตะหลายรอบหลังเลย

       ขณะที่ อัลเลียกรี กุนซือของทีมก็พิสูจน์ฝีมือให้โลกฟุตบอลได้ประจักษ์แล้วเช่นกันว่าเขาก็คือหนึ่งในกุนซือฝีมือเจ๋งที่สุดในโลก โดยพาทีมม้าลายประสบความสำเร็จได้ทั้งในเวทีลีก และเวทีฟุตบอลยุโรป (เข้าชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นที่แล้ว)

       ขณะที่ เปาโล ดีบาลา หัวหอกอาร์เจนไตน์ที่เพิ่งย้ายเข้าทีมมาในซีซั่นนี้ก็โชว์ฟอร์มยิงประตูได้ยอดเยี่ยม จนกลายเป็นกองหน้าตัวหลักของทีมไปเรียบร้อย พร้อมๆกับก้าวขึ้นแท่นเป็นหนึ่งกองหน้าเนื้อหอม ที่ทีมใหญ่ทั่วยุโรปต่างจับตามองอยู่เหมือนกัน

       อย่างไรก็ตาม มาร็อตต้า ซึ่งเป็นผู้จัดการทั่วไปของเจ้าม้าลายกล่าวว่า ยูเวสตุส เป็นทีมที่สามารถปฏิเสธการขายนักเตะอย่าง ดีบาลา ได้อยู่แล้ว เขาพัฒนาขึ้นมากเมื่อมาอยู่กับเรา และแน่นอนเขาคือนักเตะที่ดีของเราแล้วล่ะ มันเหมือนกับกรณีของ ป็อกบา พวกเขาคือนักเตะคนสำคัญของเรา เรามีจุดเป้าหมายในการเป็นที่หนึ่งของอิตาลี และประกาศศักดาในเวทียุโรปด้วยดังนั้นเราต้องเก็บพวกเขาไว้ เช่นกันกับ อัลเลียกรี เขาจะอยู่ทำงานที่นี่ไปอีกหลายปี การหาโค้ชเก่งๆน่ะมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะ
37

       ต้องบอกว่าอาจเป็นเงื่อนไขสุดท้ายและท้ายสุดที่จะชี้ชะตาอนาคตของ หลุยส์ ฟาน กัล กับทีม ปีศาจแดง แล้วก็เป็นได้ สำหรับประเด็นที่สื่อในสเปนตีออกมาล่าสุด ซึ่งระบุว่า หลุยส์ ฟาน กัล นั้นไม่ต้องการที่จะอำลาทีมปีศาจแดงในช่วงระหว่างซีซั่น หากแต่จะยินยอมลาออกจากตำแหน่งแต่โดยดีก็ต่อเมื่อ จบซีซั่นแล้วไม่สามารถพาทีมติดอยู่หนึ่งในสี่อันดับแรก ชวดการได้โควตาฟุตบอลถ้วยยุโรปใบใหญ่ “ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

       ทั้งนี้อย่างที่ทราบกันว่าช่วงที่ผ่านมา หลุยส์ ฟาน กัล กับ แมนฯยูไนเต็ด ตกเป็นประเด็นให้พูดถึงกันบนหน้าหนังสือพิมพ์ตลอดโดยที่มี โจเซ่ มูริญโญ่ อดีตกุนซือเชลซีถูกเชื่อมโยงเข้าตลอดเช่นกันว่า จะได้มานั่งกุมบังเหียนทีมปีศาจแดงแทนที่ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆอย่างเป็นรูปธรรม

       เรียกว่ามีการลือกันมาหลายเกมแล้วว่านั่นจะเป็นเกมสุดท้ายที่ หลุยส์ ฟาน กัล จะได้คุมทีมแต่ที่สุดแล้วก็เป็นเพียงแค่ข่าวลือจริงๆเท่านั้น

       อย่างไรก็ตาม ฟิชาเฆส สื่อดังของสเปนออกมาตีข่าวว่าบางทีเงื่อนไขสุดท้ายของ หลุยส์ ฟาน กัล กับทีมปีศาจแดงอาจเป็นผลงานหลังจบซีซั่นนี้ว่ายอดทีมแห่งโอลแทรฟฟอร์ดจะได้ตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หรือเปล่า กล่าวคือหากได้ไปก็มีสิทธิ์ที่ หลุยส์ ฟาน กัล จะยังได้ทำงานต่อไปจนครบสัญญาระยะเวลา 3 ปี แต่หากว่าไม่แม้ปีศาจแดงจะไม่สั่งปลดเจ้าตัวก็พร้อมลาออกจากตำแหน่งทันที

       สื่อรายนี้ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะ หลุยส์ ฟาน กัล นั้นยังมั่นใจในแนวทางการทำงานของตนเองและต้องการที่จะสานต่องานของตนเองให้จบ จึงไม่ยินดีที่จะออกจากตำแหน่งช่วงกลางคันแบบนี้

       แต่ทั้งทั้งนี้ก็มีบางกระแสข่าวที่ตีข่าวออกมาสวนทางกับทาง ฟิชาเฆส โดยระบุว่าทาง ปีศาจแดง กับ โจเซ่ มูริญโญ่ ได้ตกลงเงื่อนไขสัญญากันเรียบร้อย ซึ่งหมายถึงแค่รอเวลาที่เหมาะสมในการประกาศแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเท่านั้นเอง
38

       ถึงกับต้องเปลี่ยนโฟกัสกันเป็นการด่วนเลยทีเดียว สำหรับทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่อกหักจากดีลของ อเล็ก เตเซร่า ดาวดังของ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค ที่โอเคซบทีมในลีกจีนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

       เมื่อล่าสุดมีสื่อรายงานออกมาว่าเวลานี้พวกเขาได้มุ่งเป้าความสนใจไปที่ อันโตนิโอ กันเดรว่า ตัวรุกทีมชาติอิตาลีของทีมอินทรีฟ้าขาว ลาซิโอ ทีมดังแห่ง ลาลีกา สเปน

       สำหรับ กันเดรร่า นั้นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในนักเตะตัวรุกคนสำคัญของทาง ลาซิโอ ฉะนั้นแน่นอนว่าเบื้องต้นทางลาซิโอไม่ต้องการเสียนักเตะออกจากทีมอยู่แล้ว แต่กระนั้นก็มีการคาดการณ์กันว่าหากหงส์แดงสนใจนักเตะจริง การจบดีลไม่น่าจะยุ่งยากเหมือนกับดีลของเตเซร่า

       โดยขอเพียงพวกเขาพร้อมจ่ายในจำนวนพอๆกับที่ยื่นข้อเสนอขอซื้อเตเซร่าให้กับชัคตาร์ฯ (25 ล้านปอนด์) ก็เพียงพอที่จะทำให้ทางลาซิโอพิจารณาข้อเสนออย่างจริงจังแล้ว

       ทั้งนี้การเสริมทัพผู้เล่นตัวรุกถือเป็นเป้าหมายการปรับทีมหลักๆของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ตอนนี้เนื่องจากเจ้าตัวมองว่าปัญหาใหญ่ของทีมตอนนี้ไม่ได้อยู่ในตัวกองหน้า หากแต่อยู่ที่การสร้างสรรค์เกมของผู้เล่นแนวรุก และการที่ผู้เล่นมิดฟิลด์ตัวรุกหลายรายที่มีอยู่ตอนนี้ไม่สามารถจบ สกอร์ แทนกองหน้าได้ดีพอ

       นักเตะอย่าง ฟิลิปเป้ คูติญโญ่ เองที่เคยมีจุดแข็งเรื่องการยิงไกล ปัจจุบันก็ฟอร์มหลุดลงไปเยอะ มีจังหวะสับไกยิงหลายครั้งในหลายเกมแต่ก็พลาดเป้าไปตลอด ที่ดูจะพอพึ่งพาได้และใช้งานได้หลากหลายตรงตามความต้องการของคล็อปป์ ก็เห็นจะมีแต่ โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ ที่ถูกซื้อเข้ามาเมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว โดยสามารถใช้เล่นได้ทั้งมิดฟิลด์ตัวรุกและกองหน้าตัวเป้า แต่ก็แน่นอนว่าจะให้ทั้งทีมฝากความหวังในเกมรุกไว้ที่เขาคนเดียวก็คงจะไม่ได้
39

       เรียกว่าออกปากเตือนกันไว้ก่อนเลยงานนี้ สำหรับทางด้านของ 'กุส ฮิดดิ้งก์' กุนซือขัดตาทัพของสิงห์บลูที่ได้ออกมากล่าวแสดงความเห็นถึงกรณีที่ แมนฯซิตี้ ดึงเอา โจเซป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ทีมเสือใต้เข้ามาทำงานแทนที่ของ มานูเอล เปเยกรินี่ ในซีซั่นหน้า

       ทั้งนี้ก็อย่างที่ทราบกันดี เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คือกุนซือยุคปัจจุบันที่ประสบความสำเร็จสูงสุดคนนึง ดังนั้นการเซ็นต์สัญญากับแมนฯซิตี้ ทีมที่มีเงินถุงเงินถังไว้สำหรับช้อปปิ้งนักเตะพร้อมกับมีสุดยอดโปรเจคที่ต้องการก้าวเป็นทีมชั้นนำของยุโรป จึงทำให้หลายคนรู้สึกฮือฮากับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของทีมเรือใบสีฟ้า และมองว่ามันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่จะนำพาซิตี้ไปสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่

       อย่างไรก็ตาม กุส ฮิดดิ้งก์ กุนซือชั่วคราวของเชลซี อีกหนึ่งทีมเงินถังแห่ง พรีเมียร์ลีก ที่เต็มไปด้วยนักเตะระดับโลกออกมากล่าวเตือนเพื่อนร่วมอาชีพรุ่นน้องรายนี้ว่า การทำงานในพรีเมียร์ลีกนั้นจะไม่ง่ายเหมือนกับการทำงานในบุนเดสลีกา และลาลีกาที่เคยผ่านมาแน่นอน เพราะที่นี่มีการแข่งขันที่เข้มข้นกว่าสองลีกดังกล่าวมากนัก

       ฮิดดิ้งกล่าวอธิบายกับสื่อว่าใช่นี่มันคือลีกที่ยอดเยี่ยมเลยล่ะ มันน่าสนใจมากๆสำหรับผู้จัดการทีมรุ่นใหม่ พวกเขาจะได้สัมผัสความแตกต่างที่ไม่เคยเจอจากลีกอื่น ก่อนหน้านี้เขา (เป๊ป) ทำงานกับทีมที่ยิ่งใหญ่ครองความสำเร็จมาอย่างยาวนาน ทว่าในพรีเมียร์ลีกตอนนี้ไม่มีแบบนั้นนะ

       ที่นี่ไม่มีทีมไหนเป็นทีมเต็ง ที่ลาลีกา สเปนก็มีแค่ บาร์ซ่า กับ มาดริด ที่เยอรมันก็แน่นอน บาเยิร์น มิวนิค เขาคือกุนซือที่ประสบการณ์หรือฝีมือไม่จัดว่าใหม่เลยแต่กำลังจะได้เจอกับสิ่งที่แปลกใหม่

       นอกจากนี้ในเวลาเดียวกันอิดดิ้งก์ก็ยังได้กล่าวถึง มานูเอล เปเยกรินี่ กุนซือคนปัจจุบันของแมนฯซิตี้ที่อาจได้มาเป็นกุนซือคนใหม่ของเชลซีในซีซั่นหน้าอีกด้วยว่า เป็นหนึ่งในกุนซือที่ตนชื่นชอบฝีมือและคิดว่ามีคุณสมบัติเพียบพร้อมทุกอย่าง
40

       เรียกได้ว่าเป็นการประกาศศักดาความเป็นดาวยิงแห่ง บุนเดสลีกา เลยงานนี้ สำหรับทางด้านของ ปิแอร์ โอเมอริก โอบาเมยอง หัวหอกกาบองของทีมเสือเหลือง ดอร์ทมุนด์ เพราะเจ้าตัวได้ออกมากล่าวผ่านสื่อแบบเป็นนัยๆว่าต้องการยิงให้ได้อย่างน้อยอีกสัก 20 ประตูเพื่อทาบสถิติการทำประตูสูงสุดในลีกต่อหนึ่งซีซั่นเดิม ซึ่ง แกรด มุลเลอร์ อดีตตำนานนักเตะของเยอรมันทำเอาไว้

       ทั้งนี้ โอบาเมยอง ถือได้ว่าเป็นกองหน้าคนนึงที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในซีซั่นนี้ โดยซัลโวประตูในบุนเดสลีกาไปแล้ว 20 ประตูจากการลงเล่น 19 เกม เฉลี่ยแล้วซัดมากกว่าหนึ่งประตูต่อหนึ่งเกมด้วยซ้ำ ตอนนี้หลายคนจึงเริ่มพูดถึงการทำลายสถิติ แกรด มุลเลอร์ ของเจ้าตัวแล้ว

       อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นงานยากเหมือนกัน เมื่อดูจากจำนวนประตูเมยองต้องยิงเพิ่มอีกอย่างน้อย 20 ประตู แต่เจ้าตัวกล่าวถึงเรื่องนี้ว่าคุณว่าผมต้องการอีก 20 ประตูเพื่อทาบสถิติของ แกรด มุลเลอร์ น่ะหรอ? ใช่แล้วล่ะมันอาจดูเป็นเรื่องยากไปหน่อยแต่ในโลกของฟุตบอลคุณไม่มีทางรู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต จริงๆตอนนี้ผมก็ทำผลงานได้ตามเป้าของผมแล้วล่ะ แต่ผมยังมีแรงกระตุ้นที่จะทำผลงานต่ออีกเพราะผมได้พูดบางสิ่งกับกุนซือไว้ซึ่งผมยังเอาชนะคำพูดนั้นไม่ได้

       สำหรับ ปิแอร์ โอเมอริก โอบาเมยอง ในการลงเล่นให้ ดอร์ทมุนด์ ช่วงหลังนั้นถือว่าเป็นตัวแทนที่ยอดเยี่ยมมากๆของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าทีมชาติโปแลนด์ที่เลือกย้ายซบทีมคู่แข่งเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ไปเมื่อสองซีซั่นก่อนหน้า

       ดังนั้นก็แน่นอนเช่นกันว่า ณ ตอนนี้เจ้าตัวก็ได้กลายเป็นแข้งเนื้อหอมที่หลายทีมใหญ่กำลังจับตามอง เหมือนกับเมื่อตอนที่ เลวานดอฟสกี้ เป็นตัวหลักให้กับ ดอร์ทมุนด์ แล้ว แต่จะเป็น บาเยิร์น ด้วยหรือเปล่าที่หวังตัดกำลังคู่แข่งด้วยวิธีเดิมๆก็คงต้องตามดูกันในช่วงซัมเมอร์
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 10