พฤษภาคม 20, 2024, 09:05:55 PM

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - Reporter

หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9 10 ... 68
106

       ในที่สุดก็ทำได้สำเร็จสำหรับทัพลอสบลังกอสของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ บนเส้นทางของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อล่าสุดในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศนัดที่สองพวกเขาเป็นฝ่ายเปิดรังซานติอาโก เบร์นาบิวเชือดทีมตราหมี แอตฯมาดริด ไปได้ 1-0 กรุยทางเข้าสู่รอบต่อไปเพื่อความหวังในการลุ้นป้องกันแชมป์ โดยที่ผลรวมสองเกมก็เป็นสกอร์ 1-0 เท่ากับสกอร์ในเกมหลังนั่นเอง เนื่องจากเกมแรกทั้งสองทีมเสมอกันมาแบบไร้สกอร์ที่บิเซนเต้ กัลเดร่อน บ้านของแอตฯมาดริด

       สำหรับ 1 ประตูโทนที่เกิดขึ้นในเกมนี้ของ เรอัล มาดริด ได้มาจากเจ้าถั่วน้อย ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ “ชิชาริโต้” นาทีที่ 88 ของเกมการแข่งขัน จากการทำแอสซิสของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซุปตาร์รูปหล่อประจำทีม

       อย่างไรก็ตามแม้ว่าการกรุยทางเข้าสู่รอบรองชนะเลิศรายการนี้ครั้งนี้ได้สำเร็จของทีมราชันชุดขาว เรอัล มาดริดจะเป็นเสมือนโอกาสที่ดีสำหรับการที่พวกเขาจะลุ้นเป็นทีมแรกที่ป้องกันแชมป์รายการนี้ได้สำเร็จ แต่ในความเป็นจริง หรือปัจจัยด้านคู่แข่งในรอบรองชนะเลิศแล้วต้องบอกว่าไม่ง่ายเลยทีเดียว เพราะมีสามทีมยักษ์อย่าง บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค และยูเวนตุสอยู่ กล่าวคือไม่ว่าเรอัล มาดริดจะจับสลากพบกับทีมไหนในรอบรองชนะเลิศมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับพวกเขาที่จะผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้

       อย่างสองทีมแบบบาร์ซ่า และบาเยิร์น มิวนิคนั้นแสดงให้เห็นแล้วว่า คุณภาพคับแก้วจริงๆ จากการคว่ำคู่แข่งในรอบก่อนรองชนะเลิศไปแบบขาดลอย ส่วนยูเวนตุสเองก็อย่างที่เห็นๆกันคือแม้ว่าจะเล่นเกมรุกได้ไม่หนักหน่วงเหมือนบาร์ซ่า และบาเยิร์น มิวนิค แต่คุณภาพเกมรับของพวกเขา กับความสามารถในการเล่นแบบรู้จังหวะการเข้าทำก็เป็นสิ่งการันตีแล้วว่าบอลในลักษณะน็อกเอ้าท์แบบนี้พวกเขาก็มีดีพอที่จะสู้ได้กับทุกทีม (ยูเวนตุสบุกไปเสมออาแอส โมนาโก 0-0 ในเกมนัดที่สองของรอบ 8 ทีมสุดท้าย หลังจากเกมแรกเปิดบ้านเอาชนะมาได้ 1-0)

107

       ถ้าเป็นสักสองซีซั่นก่อนแน่นอนว่านี่ย่อมเป็นข่าวดีแน่นอน สำหรับข่าวคราวการบอกปัดข้อเสนอจากทีมอื่นของศูนย์หน้าราคาแพงอย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี แต่นาทีนี้เวลานี้คงต้องถามความเห็นแฟนบอลทีม ปีศาจแดง กันเองแล้วล่ะครับว่าตกลงเป็นเรื่องที่ดีไหม เพราะจะว่าไปก็ต้องยอมรับด้วยวัย อายุ หรือช่วงเวลาที่มันผ่านพ้นไปนับจากโรบิน ฟาน เพอร์ซีย้ายข้ามฝากมาจากอาร์เซน่อลจนถึงวันนี้มันก็ทำให้ความสามารถ หรือประสิทธิภาพของเขาลดลงจากเดิมไปไม่น้อยเหมือนกัน

        อย่างไรก็ตามรายงานข่าวจากสื่อที่ออกมาเกี่ยวอนาคตของดาวยิงซุปตาร์ฮอลแลนด์รายนี้ระบุรายละเอียดทำนองว่าช่วงที่ผ่านมามีสองบิ๊กทีมจากตุรกี ซึ่งก็คือ กาลาตาซาราย และ เฟร์เนบาเช่ ที่ติดต่อเข้ามาหากองหน้าวัยเก๋ารายนี้ พร้อมกับข้อเสนอเงินค่าเหนื่อยก้อนโตราว 220,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์โดยประมาณ แต่กองหน้ารูปหล่อรายนี้เลือกที่จะบอกปัดกลับไปแบบทันควัน เพราะมีเป้าหมายในปีหน้าที่ชัดเจนว่าต้องการที่จะอยู่ค้าแข้งกับทีมปีศาจแดงต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการลุ้นคว้าแชมป์ลีกอีกสักสมัย หลังจากที่เคยประสบความสำเร็จไปแล้วครั้งนึงในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เมื่อซีซั่นแรกที่เจ้าตัวย้ายมาจากอาร์เซน่อล แต่ทั้งนั้นทั้งนี้แม้ว่าข่าวจะออกมาลักษณะนี้ (ข่าวจากเดอะซัน)

       แต่ทั้งนั้นทั้งนี้แม้ว่าสื่อจะตีข่าวออกมาดังกล่าว อนาคตของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ในถิ่นโอลแทรฟฟอร์ดก็ไม่ถือว่าชัวร์ซะทีเดียวว่านักเตะจะได้อยู่กับทีมต่อไปในซีซั่นหน้าแน่ๆ เพราะจากฟอร์มการเล่นของนักเตะที่ดูถดถอยลงไปพอสมควรในซีซั่นนี้ ประกอบกับปัญหาอาการบาดเจ็บด้วยก็ทำให้มีข่าวแว่วๆออกมาก่อนแล้วเหมือนกันว่าบางทีกุนซือหลุยส์ ฟาน กัล นายใหญ่เพื่อนร่วมชาติของนักเตะอาจเลือกที่จะตัดนักเตะออกจากแผนการทำทีมในซีซั่นหน้าจนนำมาสู่การโละนักเตะพ้นออกจากทีมไปด้วย

108

       ต้องบอกว่ามีอารมณ์แอบงงเล็กๆเหมือนกันสำหรับทางด้านของ หลุยส์ เอ็นริเก้ เทรนเนอร์ของทีมอาซูกราน่า บาร์เซโลน่า ต่อกรณีฟอร์มการเล่นของ หลุยส์ ซัวเรซ กับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ในทีมบาร์เซโลน่าเมื่อปี 2009 โดยเอ็นริเก้กล่าวกับสื่อว่าผมไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไมซัวเรซถึงทำผลงานได้ดีกว่าซลาตันในการเล่นให้บาร์ซ่า ซัวเรซยอดเยี่ยมมาก เขามีความมุ่งมั่น มีเป้าหมายที่ชัดเจน เป้าหมายของเขาในวันที่ก้าวเข้ามาในทีมวันแรกจนถึงตอนนี้ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และนั่นมันทำให้ผมสามารถยกย่องฟอร์มการเล่น ทัศคติในการเล่นของเขาได้เลยล่ะ

        การดึงนักเตะระดับท็อปเข้ามาในทีม เราจะต้องเจอปัญหา เจอคำถามมากมาย กับจำนวนเงินที่ลงทุนไป นักเตะจะปรับตัวได้ไหม? จะสามารถปรับการใช้ชีวิตให้เข้ากับที่อยู่ใหม่ของเขาได้ไหม แต่ในรายของ ซัวเรซ ชัดเจนมากว่าเขาทำมันได้อย่างรวดเร็ว แต่กับบางรายอาจต้องใช้เวลาในการปรับจูนกันพอสมควรเลย

       ทั้งนี้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าตัวหลักของทีมปารีสแซงต์แชร์กแมงเคยได้ค้าแข้งให้กับทีมบาร์เซโลน่าเมื่อปี 2009 โดยเจ้าตัวย้ายมาจากทีม อินเตอร์ มิลาน แต่ไม่ประสบความสำเร็จในการค้าแข้งที่คัมป์นูจนต้องย้ายออกจาทีมทันทีปีถัดมา และกลับไปอยู่ใน กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี อีกครั้งกับทีม เอซี มิลาน

       อย่างไรก็ตามแม้ว่า หลุยส์ เอ็นริเก้ จะได้ออกมากล่าวแสดงความเห็นในเชิงแปลกใจต่อกรณีของซัวเรซ และอิบราฮิโมวิช แต่ทว่าครั้งนึง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ก็เคยได้ออกมากล่าวถึงสาเหตุของความล้มเหลวของเขาที่คัมป์นูแล้วว่าหลักๆมาจากความขัดแย้งระหว่างตัวเขากับกุนซือ โจเซ่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (อิบราฯกล่าวจวกเป๊ป กวาร์ดิโอล่าว่าไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย ไม่ยอมที่จะเปิดอกคุยกับเขาตรงๆ แต่เลือกวิธีที่จะไม่พูดคุยกับเขาจนสถานการณ์บีบบังคับให้เขาต้องเก็บข้าวของออกจากถิ่นคัมป์นู)

109

       ไม่พลาดที่จะออกมาแสดงความคิดเห็นต่อกรณีตำแหน่งเก้าอี้กุนซือของทีมเรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ เหมือนกันครับ สำหรับทางด้านของ พอล สโคลส์ อดีตกองกลางระดับตำนานของทีมปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด แต่การออกมาแสดงความเห็นของเจ้าตัวต้องบอกว่าเป็นอะไรที่เรียกความสนใจได้ไม่น้อยเหมือนกันครับ เพราะท่ามกลางกระแสส่วนใหญ่ โดยเฉพาะบรรดาสื่อในต่างประเทศต่างพากันมองว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือหนวดงามที่เพิ่งประกาศอำลาทีมเสือเหลือง ดอร์ทมุนด์ หลังจากจบซีซั่นนี้จะเป็นเต็งหนึ่งที่จะเข้ามารับงานในถิ่น เอติฮัต สเตเดี้ยม

        แต่พอล สโคลส์กลับมองว่าในความจริงจะไม่เป็นเช่นนั้น หากแต่จะเป็น โจเซ่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ทีมเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค คนปัจจุบันที่จะรับช่วงต่อคุมทีมเรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้หลังจากที่สัญญาของเขากับทีมยักษ์ใหญ่แห่งบุนเดสลีกา เยอรมันหมดลงในซัมเมอร์ถัดไป หรือหลังจากจบซีซั่นหน้านั่นเอง ทั้งนี้ผลงานในซีซั่นของมานูเอล เปเยกรี่กับทีมเรือใบสีฟ้าถือได้ว่าไม่ค่อนจะสู้ดี โดยล่าสุดเจ้าตัวพาทีมหล่นมารั้งอันดับที่สี่ของตารางคะแนน มีแต้มนำหน้าทีมอันดับหน้าอย่างลิเวอร์พูลอยู่เพียงแค่สี่แต้มเท่านั้น ด้วยเหตุจึงมีข่าวคราวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงตัวกุนซือของทีมเรือบสีฟ้าออกมาในช่วงนี้อย่างหนาหู ประกอบกับการที่เจอร์เก้น คล็อปป์เองก็ประกาศอำลาทีมเสือเหลือง ดอร์ทมุนด์ตามกล่าวข้างต้นด้วย

       ทีมเรือใบสีฟ้า กับ เจอร์เก้น คล็อปป์ เลยถูกเชื่อมโยงด้วยกัน อย่างไรก็สโคลส์กล่าวถึงเรื่องนี้ว่าก็แน่นอนนะสำหรับคุณภาพของเจอร์เก้น คล็อปป์ เค้าจะประสบความสำเร็จในอังกฤษได้แน่ แต่ประเด็นคือจะเป็นกับทีมไหนเท่านั้นเอง เพราะที่ผมทราบมาคือเป๊ปจะหมดสัญญากับเสือใต้หลังจากซีซั่นหน้าจบลง และเขาจะมาทำงานร่วมกับเรือใบสีฟ้า แล้วมันก็ดูจะเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่เอาเรื่องเหมือนกันนะกับการที่เป๊ปจะนำพาซิตี้ให้เป็นเจ้ายุโรป


110

       ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียวสำหรับเป้าหมายของทางด้าน เคิร์ท ซูม่า ปราการหลังดาวรุ่งพุ่งแรงของทีมสิงห์บลู เชลซี และทีมชาติฝรั่งเศส เมื่อล่าสุดมีสื่ออกมาตีข่าวในทำนองตัวนักเตะนั้นตั้งเป้าที่จะคว้ารางวัลอันทรงเกียรติอย่างบัลลงดอร์มาครองให้ได้สักสมัย เพราะรางวัลนี้ถือเป็นความหวังสูงสุดอย่างนึงในการเล่นฟุตบอลของตัวเขาเลย ทั้งนี้ซีซั่นปัจจุบันเคิร์ท ซูม่าถือได้ว่าเป็นหนึ่งในนักเตะดาวรุ่งของยุโรปที่ก้าวขึ้นมาโดดเด่นมากๆ

       โดยโชว์การเล่นเกมรับที่เหนียวแน่น และนิ่งเกินวัยให้กับทีมสิงห์บลู เชลซีแบบชนิดที่ทำเอาแฟนบอลของทีมประทับใจกันล้นหลามเลยทีเดียว แฟนบอลบางกลุ่มถึงขนาดเรียกร้องให้ดันขึ้นมาเป็นปราการหลังตัวจริงของทีมแบบถาวรเลยด้วยซ้ำไป อย่างไรก็ตามล่าสุดนักเตะได้ออกมากล่าวให้สัมภาษณ์ต่อสื่อเกี่ยวกับอาชีพนักฟุตบอลของตัวเองว่า สำหรับรางวัลบัลลงดอร์แล้ว นั่นถือเป็นความฝันของผมเลย (อยากที่จะได้มันจริงๆ) ส่วนประเด็นการยกย่องเจ้าตัวเปรียบเทียบกับอดีตตำนานนักเตะกองหลังของฝรั่งเศส และของทีมสิงห์บลู เชลซีอย่าง มาร์เซล เดอไซญี่ ตามที่มีกระแสออกมาทำนองว่านักเตะรายนี้จะได้เป็นนิวเดอไซญี่นั้น ซูม่ากล่าวว่ามันเป็นช่วงที่เร็วเกินไปหากจะพูดแบบนั้น ตนดีใจ รู้สึกดีที่ได้รับการเปรียบเทียบกับนักเตะแบบ เดอไซญี่ แต่ในความเป็นจริงแล้วตนยังคงต้องพัฒนาอีกหลายอย่างกว่าที่จะเทียบชั้นได้จริงๆ

       สำหรับ มาร์เซล เดอไซญี่ นั้นถือได้ว่าเป็นนักเตะกองหลังผิวสีระดับตำนานของทีมสิงห์บลู เชลซี โดยตลอดอาชีพค้าแข้งกับทีมเชลซีเดอไซญี่ฝากผลงานกาเล่นเกมรับที่น่าจดจำให้กับทีมไว้มากมาย เรียกว่าเป็นหัวใจในแดนรับของทีมเลยก็ว่าได้ มากไปกว่านั้นนักเตะยังเปนเสมือนคีย์แมนสำคัญของทีมเชลซียุคในฐานะของกัปตันทีมอีกด้วย (เดอไซญี่ได้เคยออกมากล่าวชื่นชมเคิร์ท ซูม่าทำนองว่าในอนาคตจะเก่งกว่าตัวเขาแน่นอน)

111

       เรียกว่าส่อแววซ้ำรอยเดิมอีกแล้วครับ สำหรับทีมนักบุญ เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมฟอร์มดีแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อักฤษ ของกุนซือ โรนัลด์ คูมันน์ เพราะล่าสุด กุนซือรายนี้ได้ออกมากล่าวยอมรับด้วยตนเองแบบตรงไปตรงมาว่าคงจะเป็นการยากไม่น้อยเลยที่จะทำการรั้งตัวบรรดาดาวดังของทีมเอาไว้กับทีมต่อไป หากว่านักเตะได้รับความสนใจจากสโมสรอื่นๆจริงๆ

       ทั้งนี้เมื่อซัมเมอร์ที่แล้วทีมนักบุญต้องเสียบรรดาแข้งดาวดังออกจากทีมไปมากมาย  อันเป็นผลพวงมาจากการฟอร์มการเล่นได้โดดเด่นของบรรดาแข้งเหล่านั้นในซีซั่นที่ผ่านมา กระทั่งทำให้ทีมยักษ์ใหญ่ร่วมลีกแสดงความสนใจที่จะดึงนักเตะไปร่วมทีมอย่างจริงเหมือนอย่างสถานการณ์ที่กำลังจะเป็นไปในปัจจุบันนี้ โดยตัวอย่างนักเตะชื่อดังที่ทีมนักบุญไม่สามารถรั้งตัวไว้ได้เมื่อตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมาก็มีอาทิเช่น เดยัน ลอฟเรน ที่ย้ายไปร่วมทีม ลิเวอร์พูล ริคกี้ แลมเบิร์ต, อดัม ลัลลาน่า ที่ย้ายไปร่วมทีมลิเวอร์พูลเช่นเดียวกัน ลุค ชอว์ ที่ย้ายไปร่วมทีมแมนฯยูไนเต็ด คาลัม แชมเบอร์ ที่ย้ายไปร่วมทีมอาร์เซน่อล

       อย่างไรก็ตาม คูมันน์ ได้กล่าวถึงสถานการณ์ที่กำลังจะซ้ำรอยเดิมนี้ให้สื่อได้ฟังว่ามันคงจะเป็นเรื่องยากมากนะ ถ้าหากว่ามีสโมสรสนใจในตัวของชไนเดอร์แลงจริงๆ เราคงไม่อาจรั้งเขาไว้ได้หรอก เพราะเรื่องแบบนี้มันต้องขึ้นอยู่กับตัวนักเตะ แต่จะว่าไปตอนนี้ชไนเดอร์แลงก็ยังดูมีความสุขดีกับเรา เขายังโอเคดีกับการลงเล่นให้ทีมนักบุญ ส่วนกรณีของนาธาเนียล ไคลน์ก็เช่นกัน เราอยากที่จะเก็บเขาไว้กับทีมต่อไปอยู่แล้ว แต่ก็รู้ดีว่ามันไม่ง่าย ถ้าหากมีสโมสรไหนสนใจเขาจริงๆ แต่เราก็จะลองพยายามทำดูทุกทางเพื่อให้เขาอยู่กับทีมต่อไป แต่ข้อเสนอแบบเป็นทางการจากสโมสรไหนๆก็ยังไม่ได้มีเข้ามาในตอนนี้

112

       เรียกว่าไม่มีความจำเป็นเลยครับงานนี้สำหรับสองซุปตาร์แห่งโลกลูกหนังยุคปัจจุบันอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ของทีมบาร์เซโลน่า และเรอัล มาดริด ตามลำดับ เพราะจากการเลือกทีมยอดเยี่ยมตลอดกาล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ของอดีตซุปตาร์เท้าหนักชาวบราซิเลี่ยน “โรแบร์โต้ คาร์ลอส” ไร้เงาของสองดาวเตะดังกล่าว ทั้งที่ในหลายปีหลังมานี้ทั้งคู่ครองความยิ่งใหญ่ในโลกลูกหนังมาโดยตลอด รางวัลบัลลงดอร์ ซึ่งนับเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่สุดในอาชีพนักฟุตบอล ก็ถูกทั้งคู่ผูกขาดมานานหลายปีแล้วเช่นกัน

        ทั้งนี้ 11 ผู้เล่นที่ โรแบร์โต้ คาร์ลอส อดีตแบ็กซ้ายเท้าหนักของทีมราชันชุดขาว เรอัล มาดริด และทีมชาติบราซิลได้เลือกเข้ามาอยู่ในทีมยอดเยี่ยม UCL ตลอดกลายในใจตนเองในตำแหน่งผู้รักษาประตูเป็น อีเกร์ กาซิยาส ของทีมเรอัล มาดริด แผงกองหลังสี่รายประกอบด้วย มาร์กอส คาร์ฟู, ฟาบิโอ คันนาวาโร่, เปาโล มันดินี่ (อดีตตำนานนักเตะมิลาน) และตัวเขาเอง แผงกองกลาง มีกองกลางตัวรับอย่าง โคล้ด มาเกเลเล่ อดีตผู้เล่นของเรอัล มาดริด และเชลซี คลาเรนซ์ เซดอฟ อดีตผู้เล่นของเอซี มิลาน ซีเนอดีน ซีดาน อดีตตำนานนักเตะของรอัล มาดริด (เคยร่วมงานกับเขาด้วยเช่นกัน) เกมรุปสามรายประกอบไปด้วย หลุยส์ ฟีโก้ อดีตดาวยิงของเรอัล มาดริด และบาร์เซโลน่า โรนัลดินโญ่ และ โรนัลโด้ อดีตดาวดังของทีมชาติบราซิล

       อย่างไรก็ตามในส่วนของการใส่ชื่อตัวเองเข้าเป็นหนึ่งในทีมยอดเยี่ยมในใจดังกล่าวที่ไม่ค่อยจะเป็นสิ่งที่คนอื่นทำกัน หรือว่ากันง่ายๆก็คือเวลานักเตะดังๆเลือกทีมยอดเยี่ยมในดวงใจตัวเองไม่ว่าจะรายการไหน พวกเขามักจะไม่เลือกใส่ชื่อตัวเองเข้าเป็นส่วนนึงของทีมด้วย แต่คาร์ลอสเลือกที่จะใส่ชื่อตัวเองเข้าไปด้วยนั้น เขาได้ให้เหตุผลกับสื่อว่าเป็นเพราะตัวเขาเองเป็นนักเตะในแนวรับที่สามารถยิงลูกฟริคิกได้ดี เป็นประโยชน์ต่อการแข่งขันในทีมกับบรรดาผู้เล่นแนวรุกที่มีหน้าที่ในการยิงฟรีคิกอยู่แล้วนั่นเอง


113

       เรียกว่าต้องอุทานด้วยคำว่า “พูดเป็นเล่น” เลยครับงานนี้สำหรับการออกมากล่าวในเชิงอวย ราฮีม สเตอร์ลิง ตัวรุกดาวรุ่งพุ่งแรงของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล จากอดีตสุดยอดกองหน้าของอังกฤษอย่าง ไมเคิ่ล โอเว่น เพราะอดีตแข้งหงส์แดง และผีแดงรายนี้ถึงขนาดสเตอร์ลิงไปกล่าวเปรียบเทียบกับทางด้านของ เมซุต โอซิล ยอดเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเยอรมันของทีมปืนโต อาร์เซน่อล และบอกว่าเป็นฝ่ายแรกที่ดีกว่าเลยทีเดียว

       ทั้งนี้โอเว่นกล่าวกับสื่อหลังถูกยิงคำถามให้แสดงความคิดเห็นทำนองว่าจะมีความเป็นไปได้ไหมที่ทางอาร์เซน่อลจะซื้อ ราฮีม สเตอร์ลิง ไปจากลิเวอร์พูลว่ามีนะ ผมคิดว่าอาร์เซน่อลคงจะพยายามหาทางดึงสเตอร์ลิงไป เพราะสเตอร์ลิงดีกว่านักเตะอย่าง โอซิล และ แดนนี เวลเบค ก็อาจจะด้วยเช่นกัน

       อย่างไรก็ตามกับสิ่งที่โอเว่นกล่าวออกมานั้น เจ้าตัวได้กล่าวเผยต่อไปอีกด้วยว่าทราบดีอยู่เหมือนกันว่ามันอาจจะเป็นประเด็น สำหรับการเปรียบเทียบโอซิล กับสเตอร์ลิง โดยบางมันอาจถูกขึ้นหน้าหนึ่งในข่าวเลยก็ได้ แต่กระนั้นก็ยังยืนยันว่าในความคิดของเขาสเตอร์ลิงดีกว่าจริงๆ สรุปในทัศนะของโอเว่นต่อกรณีการย้ายทีมของสเตอร์ลิง หรือข่าวเชื่อมโยงระหว่างสเตอร์ลิง กับอาร์เซน่อลที่ออกมาก่อนหน้านี้ในช่วงราว 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างชัดเจนว่าตัวเขามองว่าดีลมีโอกาสเกิดขึ้นจริง

       เพราะอาร์เซน่อลน่าจะทราบดีแบบที่เขาทราบว่าสเตอร์ลิงมีดีกว่าที่นักเตะแกนหลังในแนวรุกที่สองรายที่พวกเขามีอยู่ตอนนี้ ซึ่งก็คือเมซุต โอซิล กับแดนนี่ เวลเบค หรือว่ากันง่ายๆก็คือการได้สเตอร์ลิงเข้าไปในทีมน่าจะไปเป็นส่วนเติมเต็มแนวรุกของทีมร่วมกับนักเตะอย่างอเล็กซิส ซานเซซ ซานติ กาซอร์ล่า และโอลิวิเย่ ชิรูด์ มากกว่าที่จะเป็นโอซิล หรือเวลเบคแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ (สเตอร์ลิงตกเป็นข่าวว่าได้บอกปัดการต่อสัญญาใหม่กับลิเวอร์พูล)


114

       งานนี้ต้องขนาดนามว่าเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งนักเบอร์หนึ่งตัวจริงจากทางด้านของ ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แล้วล่ะครับสำหรับทางด้านของ เนย์มาร์ หอกพรสวรรค์ทีมชาติบราซิลของทีมอาซูกราน่า บาร์เซโลน่า เพราะล่าสุดอดีตบรมกุนซือปีศาจแดง “เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” ได้ออกมากล่าวเชิงอวยแข้งรายนี้เองเลยว่าน่าจะเป็นแข้งหนึ่งเดียวที่พอจะมีกำลังในการลุ้นขึ้นเทียบชั้นสองนักเตะท็อปของโลกดังกล่าว

       ทั้งนี้ เซอร์ อเล็กซ์ กล่าวกับสื่อวิทยุอย่างซิริอัส เอ็กซ์เอ็มว่าในโลกฟุตบอลมันมีเพียงแค่สโมสรอย่างบาเยิร์น มิวนิคในเยอรมัน, บาร์ซ่า-มาดริดในสเปน และยูไนเต็ดในอังกฤษเท่านั้น ที่สามารถสร้างนักเตะระดับที่ดีที่สุดของโลกแบบที่โรนัลโด้ และเมสซี่เป็นอยู่ในขณะนี้ได้ แต่ตอนนี้มันน่าหนักใจนะว่าจะมีใครขึ้นไปเทียบชั้นเขาทั้งสองคนได้หรือไม่ มีคนพูดยกย่องเนย์มาร์มาก ความสามารถของเขาเป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณะ นั่นแหละทำให้เขามีโอกาส แต่ตนก็คิดว่าเขาน่าจะยังต้องปรับตัวต่างๆอีกหน่อยเพื่อให้ตัวเองสมบูรณ์แบบขึ้น คนชมเขาเยอะมากนะ ตนก็เคยได้ฟังแอนแดร์สันชื่นชมเขาให้ฟังเป็นการใหญ่เลย ตนจึงหวังนะว่าเขานี่แหละที่จะก้าวขึ้นมาเทียบชั้นทั้งโรนัลโด้ กับเมสซี่

       ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับแข้งระดับโลกก็มีทางด้านของ อาบาโร่ อาเบลัว แบ็กของทีมราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ที่ได้ออกมากล่าวในเชิงยกย่อง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมทีมของเขา โดยเขากล่าวผ่านสื่อว่าบางทีผมก็รู้สึกว่าคนส่วนใหญ่ไม่ยุติธรรมต่อโรนัลโด้สักเท่าไหร่นะ โรนัลโด้เป็นแข้งอาชีพที่สุดยอดจริงๆ เขามีสิทธิ์ที่จะไม่พอใจกับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต่อเขา ความเป็นมืออาชีพของเขามาสะท้อนทุกสิ่งอย่างที่เป็นเขา เขามาถึงสนามซ้อมคนแรกเสมอ และเดินทางกลับเป็นคนสุดท้าย ประวัติศาสตร์ของมาดริดมามาจากเขา เช่นกันกับ สตานฟานโน่ และผมก็คิดว่ามันยากเหลือเกินนะที่มาดริดจะหาคนมาทดแทนสองคนนี้


115

      เรียกว่าชัดเจนตรงไปตรงมาครับสำหรับแนวคิด หรือมุมมองที่ทางด้านของกุนซือ โจเซ่ มูริญโญ่ นายใหญ่ทีมสิงห์บลู เชลซี มองนักเตะ เมื่อล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมากล่าวกึ่งๆแนะ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ว่าควรที่จะขายนักเตะอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิง ออกไปซะ หากว่านักเตะไม่ใจที่จะเล่นให้กับทีมต่อไปตามข่าวที่ได้มีการพูดถึงอยู่นี่ ทั้งนี้ช่วงที่ผ่านมาตลอดหลายสัปดาห์หลังราฮีม สเตอร์ลิงได้ตกเป็นข่าวว่าปฏิเสธการต่อสัญญาฉบับใหม่กับหงส์แดง และอาจที่จะตัดสินใจย้ายทีมในตลาดนักเตะซัมเมอร์ที่กำลังจะมาถึง พร้อมๆกับตกเป็นข่าวได้รับความสนใจจาก อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือทีมปืนโต อาร์เซน่อล คู่แข่งร่วม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

       ล่าสุด มูริญโญ่ นายใหญ่ของสิงห์บลูจึงได้ออกมากล่าวแสดงความเห็นต่อกรณีนี้ว่าผมไม่ชอบเลยกับบรรดานักเตะที่ไม่มีใจจะเล่นให้กับทีม นักเตะทุกคนมีค่าตัว มีมูลค่าในตัวเองอยู่แล้ว ไม่สำคัญนะว่านักเตะคนนั้นจะเป็นใคร ขอยกตัวอย่างนะ ถ้ามีใครถามผมว่านักเตะแบบ อาซาร์ คุณจะอยากขายออกจากทีมไหม? คำตอบคือไม่แน่นอน ผมไม่อยากขายอาซาร์อยู่แล้ว แต่ถ้าวันนึงอาซาร์เดินมาบอกผมว่าอยากย้ายออกจากเชลซี ไม่ต้องการทำงานร่วมกับผมแล้ว เมื่อนั่นแหละ เราจะตีมูลค่าของเขาออกมาเป็นราคาซื้อขายแน่ แต่มันก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้นะกับปรัชญาของสโมสร หรือกุนซือแต่ละคนที่อาจจะต้องการเก็บผู้เล่นที่ดีที่สุดเอาไว้กับทีม

       ต่อให้พวกเขาจะได้รับมากมายแค่ไหนก็ตาม แล้วผมก็ไม่ได้บอกว่ามันแย่กว่าปรัชญาของผมหรอกนะ เพียงแต่สิ่งที่พูดไปมันเป็นตัวตนของผมเองก็เท่านั้น ทั้งนี้ที่ผ่านมามูริญโญ่เคยแสดงให้เห็นถึงเรื่องดังกล่าวแล้วว่าเขาทำจริงในการกลับมาคุมทีมเชลซีคำรบสองด้วยการขายทางด้านของ ดาวิด ลุยส์ กองหลังบราซิเลี่ยนของทีมไปให้กับ เปแอสเช ด้วยค่าตัวสูงถึง 50 ล้านปอนด์


116

       ต้องบอกว่าไม่เสียทีที่รับช่วงต่อหงส์แดงซิวตัว โลอิก เรมี่ มาจากคิวพีอาร์จริงๆครับ สำหรับทีมสิงห์บลู เชลซี และกุนซือ โจเซ่ มูริญโญ่ เพราะแม้ว่าในซีซั่นนี้นักเตะจะได้รับบทบาทเป็นเพียงแค่พระรอง แต่ยามใดที่ได้รับโอกาสให้ลงสนามนักเตะก็สามารถทำผลงานให้กับทีมได้ตามที่คาดหวังกันเอาไว้ ทั้งในส่วนของสปิริตนักเตะนั้นก็มีเต็มเปี่ยม เรียกว่าไม่เกี่ยงเลยว่าจะต้องเป็นตัวจริงให้กับทีม และล่าสุดทางด้านของ โจเซ่ มูริญโญ่ ก็ได้ออกมากล่าวซุฮกถึงความยอดเยี่ยมดังกล่าวของนักเตะว่า

       เขาเป็นคนหนุ่มที่ยอดเยี่ยมเสมอ เขาคือส่วนสำคัญในการช่วยเราคว้าชัยในสองเกมหลัง การฝึกซ้อมของเขามันดีมากนะ และการรักษาสภาพความฟิตของร่างกายก็ดีมากเช่นกัน เขาพร้อมที่จะช่วยเราเสมอไม่ว่าจะลงเล่นให้กับทีมกี่นาทีก็ตาม จะเป็นตัวจริง หรือสำรองก็ไม่เกี่ยง ตนจึงพึงพอใจในตัวเขาจริงๆ เช่นเดียวกับที่ทุกคนพอใจเขานั่นแหละ ประตูที่เขาทำได้มันเป็นการยิงประตูง่ายๆนะ การเข้าไปซ้ำลูกจากการที่ประตูเซฟบอลพลาด เซฟบอลไม่อยู่ หรือการรับลูกจ่ายเลียดมากับพื้นแล้วยิง แต่ผมชอบ ผมชื่นชอบกองหน้าที่ทำประตูได้จากลูกง่ายๆแบบนี้แหละ ฉะนั้นผมจึงแฮปปี้มากกับการเล่นของเขา

       ทั้งนี้เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาเรมี่เกือบจะได้ย้ายซบหงส์แดง ลิเวอร์พูล ยอดทีมแห่งเมอร์ซี่ไซด์แล้ว แต่ในขั้นตอนสุดท้าย นักเตะไม่ผ่านการตรวจร่างกายกับแพทย์ประจำสโมสรหงส์แดง ทำให้ดีลล่มลงในที่สุด และก็เป็นทางด้านเชลซีที่เข้าไปรับช่วงต่อดีลนี้ เซ็นต์สัญญาคว้านักเตะมาเสริมทีมในที่สุด กระนั้นในส่วนของโอกาสการลงเล่นก็อย่างที่ได้กล่าวข้างต้น นักเตะไม่ค่อยได้รับโอกาสจากเชลซีในการลงสนามเลย เนื่องจากเชลซีมีกองหน้าอย่าง ดีเอโก้ คอสต้า เป็นตัวหลักอยู่แล้ว แต่ในช่วงหลังนี้คอสต้าได้รับบาดเจ็บ นักเตะจึงได้รับโอกาสแล้วเขาก็ไม่ทำให้มูริญโญ่ผิดหวังตามกล่าว

117

       เรียกได้ว่าเป็นการคอนเฟิร์มการอยู่ยาวกับทีมปืนโต อาร์เซน่อล แน่นอนครับ สำหรับการออกมากล่าวเปิดใจครั้งล่าสุดผ่านสื่อของทางด้านของ ซานติ กาซอร์ลา มิดฟิลด์ร่างเล็กแต่สกิลสูงชาวสแปนิช เพราะนักเตะยืนยันชัดเจนครับว่าในใจของเขาไม่เคยคิดเรื่องอื่นใดนอกเสียจากการทำหน้าที่ให้กับอาร์เซน่อลอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งนี้กาซอร์ลากล่าวยืนยันเรื่องของลือเกี่ยวกับการที่ทีมในบ้านเกิดแสดงความสนใจอยากจะดึงตัวเขากลับไปเล่นในลาลีกา สเปนว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่จริงเอาซะเลย

       ตนไม่เคยได้รับข้อเสนอจากสโมสรไหนตามที่สื่อพูดกันออกมา ฉะนั้นแน่นอนว่ามันก็เป็นแค่ข่าว แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่ได้ทำให้ตนเองเป็นกังวลอะไรนะ แม้ว่าจะมีข้อเสนอเข้ามาจริง หรือไม่จริง เพราะสิ่งที่ตนคิดอยู่อย่างเดียวก็คืออาร์เซน่อล ตนต้องการที่จะทำผลงานกับอาร์เซน่อลให้ดีที่สุดก็เท่านั้น กาลเวลาจะเป็นสิ่งพิสูจน์เอง ตนเคยได้บอกกับทุกคนไปแล้วว่าตนเองชื่นชอบอาร์เซน่อล และรักที่จะเล่นให้อาร์เซน่อลมากแค่ไหน มันจะเป็นอย่างนั้น ตนหวังที่จะอยู่ที่นี่ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มันอาจนานจนถึงวันที่ตนไม่มีค่ากับสโมสรแล้ว แต่วันนี้มันยังไม่ใช่ ตนยังคงมีค่ากับสโมสรอยู่

       นอกจากนี้กาซอร์ลาก็ยังได้กล่าวเล่าไปถึงความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตในลอนดอนของตัวเขา และครอบครัวอีกด้วยว่าตนอาศัยอยู่ในย่านแฮมสตีด ซึ่งมันใช้เวลาเดินทางไปยังศูนย์กลางของลอนดอน  เพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้น เช่นเดียวกันกับการเดินทางไปสนามซ้อม ในแต่ละวันจึงผ่านไปอย่างสะดวกสบายมากสำหรับเรื่องของการเดินทาง โดยเฉพาะการไปส่งลูกไปโรงเรียน ทั้งยังมีความสงบมากด้วย ส่วนการใช้ชีวิตของลูกๆตนก็ดีทีเดียว เนื่องจากพวกเขาพูดภาษาอังกฤษ ซึ่งนับเป็นสิ่งสำคัญมากได้อย่างรวดเร็ว ตนเอง และภรรยาก็เช่นกัน


118

       งานนี้ต้องบอกว่าทำเอาแฟนบอลอย่างเราๆท่านๆงงกันไปเลยทีเดียว สำหรับทางด้านของ รอสส์ บาร์คลี่ย์ ดาวเตะคนสำคัญของทีมทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน เพราะจู่ๆนักเตะก็ออกมาประกาศลั่นว่าโดยธรรมชาติแล้วเขาไม่ใช่นักเตะในตำแหน่งกองกลางแบบที่ได้รับบทบาทอยู่ในขณะนี้ หากแต่เป็นนักเตะกองหน้าโดยแท้เลย

       ทั้งนี้ รอสส์ บาร์คลี่ย์ ที่กล่าวขึ้นมา โดดเด่นกับทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินในช่วงสองซีซั่นหลังจนติดทีมชาติอังกฤษภายใต้การนำทีมของ รอย ฮ็อดจ์สัน ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วได้กล่าวผ่านสื่อถึงลักษณะการเล่น และความเป็นธรรมชาติของตัวเองว่า ตนคือนักเตะในตำแหน่งกองหน้า ตนสร้างสรรค์ผลกระทบให้ทีมได้มากมาย แต่ตนชอบที่จะเคลื่อนที่แบบอิสระ วิ่งไปที่ไหนก็ได้แบบไม่ถูกจำกัดเรื่องขอบเขต เพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม สร้างสรรค์โอกาสให้พวกเขาได้ยิงประตู สำหรับผลงานของทีมในช่วงที่ผ่านมามันอาจะไม่ได้ดีสักเท่าไหร่ แต่ตนมั่นใจว่าพวกเรากำลังก้าวไปสู่จุดที่ดี และสุดท้ายเราก็จะได้รับสิ่งดีๆ ตนไม่ได้กดดันอะไรนะกับสิ่งที่กำลังเป็นไป เพราะตนรู้ดีว่ามีศักยภาพแค่ไหน ทำอะไรให้กับทีมได้บ้าง เพียงแต่มันก็อาจจะมีบางโมเม้นท์บ้างที่รู้สึกกดดันตัวเองเมื่อรู้ว่าสามารถที่จะทำอะไรได้ดีกว่านี้ แต่ทำมันได้ไม่เต็มที่ ฉะนั้นในทุกวันนี้ตนจึงโฟกัสในแบบวันต่อวัน ตั้งใจทำทุกอย่างในแต่ละวันให้ดีที่สุด พยายามทำในสิ่งที่ถูกต้องในสนามฝึกซ้อม แล้วจากนั้นก็หวังที่จะทำมันให้ได้แบบเดียวกันเมื่ออยู่ในสนามแข่งขันจริง

        สำหรับ รอสส์ บาร์คลี่ย์ ถือได้ว่าเป็นนักเตะดาวรุ่งอายุน้อยของอังกฤษที่ได้รับความสนใจจากบรรดาทีมยักษ์ใหญ่มากที่สุดคนนึงในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะหลายรอบหลัง แต่ที่สุดแล้วนักเตะก็เลือกที่จะหักอกบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ทั้งหลายต่อสัญญากับต้นสังกัดทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ออกไปอีก

119

       เล่นออกมาเปิดเผยเหตุผลกันแบบตรงไปตรงมาแบบนี้ก็คงต้องบอกกันตรงๆล่ะครับว่าลึกๆแล้วทางด้านของ แพทริค ไคลเวิร์ต อดีตกองหน้าระดับตำนานของอัศวินสีส้ม ฮอลแลนด์ ก็คงยังอยากที่จะร่วมงานกับกุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล ในฐานะของผู้ช่วยอย่างแน่นอน โดยไคลเวิร์ต ซึ่งรับหน้าที่ผู้ช่วยโค้ชของหลุยส์ ฟาน กัลในช่วงฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล และสามารถเป็นส่วนสำคัญในการช่วยทำให้ทีมชาติฮอลแลนด์คว้าอันดับที่สามมาครองได้นั้น

       กล่าวผ่านสื่อถึงเหตุผลของการชวดไปรับงานกับ หลุยส์ ฟาน กัล ต่อที่ปีศาจแดงว่าเป็นเพราะมาจากสองเหตุผลหลักๆด้วยกัน เหตุผลแรกก็คือการที่หลุยส์ ฟาน กัลต้องการให้ ไรอัน กิ๊กส์ ตำนานนักเตะของทีมปีศาจแดงเป็นผู้ช่วยของเขาที่ยูไนเต็ดมากกว่า เนื่องจากว่าไรอัน กิ๊กส์เป็นคนที่มีข้อมูลเกี่ยวกับทีมปีศาจแดงมาก และน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของเขามากกว่า ประการที่สองมันถึงเวลาอันเหมาะสมแล้วที่ตัวเขาเอง (ไคลเวิร์ต) จะต้องสร้างความแตกต่างใหม่ๆในอาชีพ ซึ่งก็คือการก้าวขึ้นมารับงานโค้ชแบบเต็มตัว ในฐานะโค้ชจริงๆไม่ใช่ผู้ช่วยของคนอื่น ทั้งนี้ในส่วนเหตุผลประกาสที่สองนี้ไคลเวิร์ตเล่าเสริมว่าเป็นหลุยส์ ฟาน กัลเองนั่นแหละที่กล่าวแนะตัวเขาเองว่ามันควรจะถึงเวลาแล้วจริงๆที่ตัวเขาจะต้องรับงานกุนซือเต็มตัว แล้วหลังจากนั้นก็มีหลายทีมเลยทีเดียวที่ติดต่อตนเองให้เข้าไปรับงาน

       แต่ทว่าด้วยความที่ตนเป็นคนที่ค่อนข้างอ่อนไหวต่อเรื่องของการรับผิดชอบต่อผลงานตัวเองในเวลาที่คิดว่ายังไม่พร้อม และอาจทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอจึงเลือกที่จะไม่รับงาน (สำหรับแพทริก ไคลเวิร์ตนั้นนอกจากจะเคยร่วมงานกับกุนซือ หลุยส์ ฟาน กัลในฐานะของผู้ช่วยแล้ว ในสมัยเป็นนักเตะเจ้าตัวก็เคยได้ร่วมงานกับกุนซือรายนี้มาไม่น้อยเหมือนกัน ทั้งสมัยที่เล่นให้กับ อาแจ็กซ์ อัมเตอร์ดัมส์ ทีมดังในลีกฮอลแลนด์ และสมัยเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่แห่งลาลีกา สเปน)

120

       ต้องบอกว่าเป็นกุนซือที่ชัดเจนมากเลยทีเดียวว่าให้ความสำคัญต่อทีมมากกว่าการจำเพาะเจาะจงที่ตัวผู้เล่นรายใด รายนึงเท่านั้นสำหรับทางด้านของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล เพราะแม้ว่าในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สัปดาห์ล่าสุดที่ทีมหงส์แดงพบกับหงส์ขาว สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมตัวจริงเสียงจริงของทีม และจะว่าไปเป็นนักเตะขวัญใจเดอะค็อปเบอร์หนึ่งด้วยจะหายเจ็บกลับมา และฟิตปั้งพร้อมลงสนามเต็มที่แล้ว

       แต่ทางเบรนแดน ร็อดเจอร์สก็เลือกที่จะดร็อป เจ้าตัวเป็นเพียงสำรองเท่านั้น โดยหลังเกมการแข่งขันนายใหญ่ชาวไอร์แลนด์เหนือได้ออกมากล่าวตอบคำถามไขข้อข้องใจกับสื่อถึงเหตุผลในการตัดสินใจดร็อปเจอร์ราร์ดว่า ทีมจะต้องมาก่อนผู้เล่นเสมอ ในช่วงที่ผ่านหลายสัปดาห์ทีมของเราทำผลงานได้ดี ดังนั้นผมจึงไม่ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงทีมมากนัก (หากจะต้องส่งเจอร์ราร์ดกลับมาลงเป็นตัวจริงทันที นั่นย่อมหมายถึงการเปลี่ยนแปลงทีมในแดนกลางจะเกิดขึ้น) อีกอย่างสตีเว่นเองไม่ได้ลงสนามมาร่วมๆเดือนนึง แน่นอนมันเป็นเวลาที่นานนะ ฉะนั้นมันเสี่ยงไปหากจะส่งเขาลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมนี้ทันที

       อย่างไรก็ตามเบรนแดน ร็อดเจอร์สยังได้กล่าวในเชิงชื่นชมเจอร์ราร์ดต่อไปด้วยสำหรับช่วงเวลาที่เขาได้ส่งลงสนามในครึ่งเวลาหลัง เขาทำหน้าที่ของเขาได้ดีมากๆ  การลงสนามไปของเขา มันทำให้เกมของเราดูดีขึ้น เกมเรานิ่งขึ้น เขาเป็นผู้นำที่สำคัญมากที่สุดของเรา ส่วนประเด็นอื่นของ หงส์แดง ในเกมโค่น หงส์ขาว นอกจากคำกล่าวของเบรนแดน ร็อดเจอร์สต่อกรณีของเจอร์ราร์ดแล้วก็มีทางด้านของ โจ อัลเลน กองกลางของทีม ซึ่งเป็นอดีตนักเตะหงส์ขาวได้กล่าวแสดงความเห็นออกมาทำนองว่าทีมหงส์แดงของตนเองนั้นโชคดีนิดๆที่ไม่ตกเป็นฝ่ายตามหลังก่อนในครึ่งเวลาแรก และสามารถกลับลงมาทำผลงานกันได้อย่างยอดเยี่ยมในครึ่งเวลาหลัง

หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9 10 ... 68