"ลิโอเนล เมสซี่" ซูเปอร์สตาร์ฟ้าขาวซัดเบิ้ลคนเดียว 2 ประตู นำพาทัพ "บาร์เซโลน่า" ถลุง "สปาร์ตัก มอสโก" 3-0 พร้อมการันตีตั๋วผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมแบบสบายๆ
(http://www.uppices.com/images/95740802590715474519.jpg)
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มจี
วันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน 2555
สปาร์ตัก มอสโก 0-3 บาร์เซโลน่า
สนาม โอลิมปิสกี้ สเตเดี้ยม
เปิดฉากเริ่มเกมขึ้นมาช่วง 10 นาทีแรกเป็นทางฝั่งของทีมเยือน "บาซ่าร์" ได้ต่อบอลทำเกมเข้าใส่เจ้าถิ่นที่ลงไปตั้งรับกันลึกในแดนตัวเองอย่างแน่นอหนาทำให้ขุนพล "บาร์ซ่า" ยังไม่มีโอกาสหลุดเข้าไปหาจังหวะยิงงามๆเลย
"ต่างดาว"ได้ส่องจังๆครั้งแรกในจังหวะที่ซาบี เอร์นานเดซตักบอลจากตรงกลางสนามเข้ามาในกรอบเขตโทษให้เปโดรสอดเข้ามาพักอกหนึ่งจังหวะก่อนอัดด้วยซ้ายเต็มๆแต่อันเดรีย ดายคานยังออกมาปิดมุมปัดเอาไว้ได้ในนาทีที่ 12
ผ่านมาถึงนาทีที่ 16 บาร์เซโลน่าได้ประตูขึ้นนำจนได้ในจังหวะที่ลุยเข้าไปติดกองหลังของสปาร์ตักตรงหัวกะโหลกก่อนเขี่ยมาให้ดานี่ อัลเวสที่รออยู่ปากเขตโทษด้านขวาได้สับด้วยขวาบอลพุ่งเลียดเข้าโคนเสาไกลไปอย่างสวยงาม
สปาร์ตักได้จังหวะสวนกลับเร็วบ้างเมื่อเอ็มมานูเอล อีเมนิเก้หลุดไปบริเวณริมเส้นด้านซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางบอลเลยหัวของอารีที่รออยู่ตรงเสาแรกแต่ยังมามาเร็ค ซูชี่ที่เติมขึ้นมาได้ยิงจังหวะเดียวตรงจุดโทษแต่บอลลอยโด่งข้ามคานออกไปในนาทีที่ 22
นาทีที่ 27 ลิโอเนล เมสซี่มาเบิกประตูแรกของตัวเองได้สำเร็จในจังหวะที่อันเดรส อิเนียสต้าลากเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนล็อคกลับมายิงไปติดเซฟของดายคานบอลกระเด้งออกมาหน้ากรอบเขตโทษซึ่งดาวเตะอาร์เจนไตน์วิ่งเข้ามาซ้ำเป็นคนแรกบอลพุ่งเข้าประตูไป
ก่อนหมดครึ่งแรก 6 นาทีสกอร์ขยับขึ้นมาเป็น 3-0 จนได้ในจังหวะที่เมสซี่รับบอลจากการจ่ายทะลุช่องของเชสก์ ฟาเบรกาสเข้าไปค่อยๆลากผ่านดายคานก่อนแปด้วยซ้ายเข้าประตูโล่งๆไปนับเป็นประตูที่ 5 จากการลงสนาม 5 นัดของเขาในรายการนี้
กลับลงมาเล่นกันต่อในช่วงหลังได้เพียงไม่กี่นาที "เชสก์ ฟาเบรกาส" เลี้ยงหลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนบรรจงแปหวังให้บอลเข้าไปทางเสาไกลแต่ดายคานยังล้มตัวเซฟเอาไว้ได้หวุดหวิด
เกมครึ่งหลังผ่านไปกว่า 20 นาที"ต่างดาว"ดูเหมือนจะครองบอลพยายามปิดเกมไปเรื่อยๆ ด้านเจ้าถิ่นก็ไม่สามารถทำอะไรได้ถนัดมากนักมาถึงตรงนี้ยังยิงตรงกรอบให้บัลเดสได้ออกแรงเซฟไม่ได้เลย
น. 67 วิคตอร์ บัลเดสลงไปนอนกลิ้งเกลือกอยู่กับพื้นในจังหวะที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นอุบัติเหตุเมื่อเวลลิตันที่พยายามวิ่งไปกดดันบัลเดสล้มหน้าคะมำไปทับใส่ขาของนายด่านสเปนทำให้เกมต้องหยุดลงชั่วขณะ
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายเมสซี่มีโอกาสลุ้นทำแฮตทริคในจังหวะฟรีคิกบริเวณริมเส้นด้านขวาแต่สตาร์ทีมชาติอาร์เจนติน่ายิงไปติดดายกันที่ทุบบอลทิ้งออกมาได้ตรงกลางประตู
"ต่างดาว"พยายามทำชิ่งไปมาเพื่อฆ่าเวลาให้หมดไปตามสไตล์ทีมนำก่อนที่จะกระชาก 3 แต้มสำคัญมาครองได้อย่างง่ายดายพร้อมคว้าสิทธิ์ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว