ธันวาคม 05, 2024, 02:29:35 AM

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - Reporter

หน้า: [1] 2 3 ... 68
1

       น่าจะคิดเห็นไม่ต่างไปจากหลายๆคนสำหรับทัศนะการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ของทางด้าน แฟร้งค์ แลมพาร์ด (Frank Lampard) อดีตกองกลางระดับตำนานของสิงห์บลูส์ เชลซี และทีมชาติอังกฤษ ซึ่งฟันธงว่าทีมเรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ ของกุนซือ โจเซป กวาร์ดิโอล่า ที่กำลังนำโด่งเป็นจ่าฝูงในตารางคะแนนอยู่เวลานี้ จะสามารถซิวแชมป์ไปครองได้ด้วยการนำแบบม้วนเดียวจบไปเลย หลังฟอร์มในช่วงนี้ร้อนแรงสุดๆ ทั้งเกมรับที่เหนียวแน่นยากที่คู่แข่งจะเจาประตูได้ และเกมรุกที่เด็ดขาดสุดๆ ถล่มประตูทีมอื่นเป็นว่าเล่น
       
ทั้งนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในฤดูกาลนี้ทำผลงานในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลได้ร้อนแรงตามที่คาดการณ์กันเอาไว้ หลังได้ใช้งบก้อนโตในการเสริมทัพปรับทีมไปขนานใหญ่เมื่อช่วงตลาดหน้าร้อนที่ผ่านมา

โดยกุนซือชาวสแปนิชพาลูกทีมโกยแต้มไปได้ถึง 31 แต้มจาก 11 เกมแรก แบ่งเป็นชัยชนะ 10 เกม และเสมอ 1 เกม ทิ้งห่างทีมอันดับสองอย่าง แมนฯยูไนเต็ด ไปแล้วถึง 8 แต้ม ขณะที่ผลต่างประตูได้เสียก็บวกไปแล้วถึง 31 ประตู มากกว่าทีมที่มีผลต่างประตูได้เสียดีเป็นอันดับสองอย่างปีศาจแดงถึง 13 ประตู

และจากผลงานดังกล่าวนี้เองทำให้บรรดากูรูลูกหนังมองว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ทัพเศรษฐีเรือใบจะได้ฉลองแชมป์ฤดูกาลนี้ด้วยผลงานแบบนำม้วนเดียวจบ เช่นเดียวกันกับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด อดีตตำนานนักเตะทีมชาติอังกฤษที่มองว่า ยากที่จะมีทีมไหนไล่ตามอดีตต้นสังกัดได้ทันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณากันจากผลงาน และฟอร์มการเล่นเวลานี้ที่ยากจะหาทีมไหนมาต่อกรได้จริงๆ

"ผมคิดว่าไม่น่าจะมีทีมไหนไล่พวกเขาทัน หลายคนอาจเปรียบเทียบกับเมื่อสองปีก่อนที่พวกเขาเริ่มต้นได้ดีแต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้แชมป์ แต่สำหรับในปีนี้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก และพวกเขาเล่นในสไตล์ที่น่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ เหมือนเราจะรู้สึกดีกันหมดที่ได้ดูซิตี้เล่นในเวลานี้"

Image Credit: lev radin / Shutterstock.com

2

       ไม่รู้ว่างานนี้ตั้งใจจะเอาไว้ข่มขวัญคู่ต่อสู้เวลาเป็นทีมเยือนหรือเปล่านะ สำหรับทางด้านของทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งล่าสุดได้มีการเปิดตัวชุดแข่งขันในส่วนของชุดเยือนสำหรับการใช้แข่งขันซีซั่นหน้า หรือซีซั่น 2016-2017 ออกมาเป็นสีแดงสดคล้ายกับสีของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่คู่แข่งร่วมลีก

       อย่างไรก็ตาม เลสเตอร์ ซิตี้ เคยได้ใช้สีแดงเป็นสีชุดเยือนของพวกเขามาก่อนแล้วครั้งนึง เมื่อตอนเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดซีซั่นแรก ก่อนที่จะมาเปลี่ยนเป็นสีดำในซีซั่นถัดมาที่พวกเขาสร้างเซอร์ไพร์สคว้าแชมป์ไปครองได้

       สำหรับชุดเยือนใหม่สีแดงของทีมจิ้กจอกที่เพิ่งมีการเปิดตัวกันไปนี้ ยังคงคอนเซ็ปการออกแบบเหมือนกับชุดเมื่อซีซั่น 2014-2015 แต่ได้มีการปรับเปลี่ยนบางส่วน เช่น ลูกเล่นลวดลายบนตัวเสื้อเพื่อให้ดูทันสมัยขึ้น

       ส่วนการวางจำหน่ายให้กับแฟนบอลได้หาซื้อไปเป็นเจ้าของนั้นก็แน่นอนว่าแฟนบอลที่อังกฤษจะหาซื้อได้เป็นที่แรก โดยมีการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่ช็อปของสนามคิงพาวเวอร์สเตเดี้ยมไปแล้วด้วย สนนราคาก็ 50 ปอนด์ หรือตีเป็นเงินบาทไทยก็เกือบๆ 2,500 บาท

       แต่กระนั้นที่ไทยก็มีโอกาสสูงเหมือนกันที่แฟนบอลของจิ้กจอกบ้านเราจะได้ซื้อหาชุดเยือนใหม่ของทีมในเร็วๆนี้ เพราะอย่างที่ทราบกันว่าเจ้าของทีมเลสเตอร์เป็นชาวไทย ซึ่งก็คือคุณวิชัย และคุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา และก็ได้ให้ความสำคัญกับการสร้างฐานแฟนบอลของทีมในประเทศไทยด้วย ดังนั้นการนำชุดแข่งขันลิขสิทธิ์แท้จากสโมสรเข้ามาวางจำหน่ายจึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอยู่แล้ว

       ส่วนข่าวคราวการเปิดตัวชุดแข่งใหม่นอกจากชุดเยือนสีแดงของเลสเตอร์แล้วก็มีชุดเหย้าของ บาร์เซโลน่า ยอดทีมแห่ง ลาลีกา สเปน ซึ่งลายเสื้อสีเสื้อยังคงเหมือนเดิมเป็นลายยาวแนวตั้งสีน้ำเงินสลับสีแดงเลือดหมู แต่ที่พิเศษ และแตกต่างไปจากทุกซีซั่นรวมถึงแตกต่างจากทุกทีมด้วยก็คือ ชุดใหม่ของพวกเขาจะไม่มีสปอนเซอร์คาดหน้าอกเสื้อ เนื่องจาก อาซูลกราน่า หมดสัญญากับสปอนเซอร์เจ้าเดิมอย่าง กาตาร์แอร์เวย์ ไปแล้วและยังไม่มีการเซ็นสัญญากับสปอนเซอร์ใหม่แต่อย่างใด

3

       ต้องบอกว่าหาเรื่องให้แฟนบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฉุนซะแล้วสำหรับทางด้านของ แกเร็ธ เบล ปีกจรวดชาวเวลส์ของราชันชุดขาว เพราะจู่ๆก็ออกมากล่าวในทำนองเปรียบเทียบ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลีกที่เจ้าตัวเคยโลดแล่นอยู่กับทีมไก่เดือยทองกับ ลาลีกา สเปน ลีกปัจจุบันที่เล่นอยู่ว่าอย่างหลังนั้นเหนือกว่า

       ทั้งนี้ดังที่ทราบกันดีว่า พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับ ลาลีกา สเปน นับเป็นสองลีกที่ดีที่สุดในโลก และเป็นสองลีกที่แฟนบอลทั่วโลกให้การติดตามชมมากที่สุด แต่ทั้งสองลีกก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันโดยที่พรีเมียร์ลีกนั้น จะขึ้นชื่อเรื่องความเร็วและความหนักของเกม ขณะที่ลาลีกามักจะถูกกล่าวขานถึงเรื่องของเทคนิคการเล่นฟุตบอล และการใช้แท็คติกของกุนซือ

       อย่างไรก็ตาม เบล ซึ่งถือว่ามีประสบการณ์ค้าแข้งทั้งสองลีกแล้วกล่าวเปรียบเทียบว่า

       "ผมว่าสิ่งสำคัญคือที่นี่เป็นฟุตบอลที่มีแท็คติกและมีเทคนิคมากกว่า ในส่วนของการผ่านบอลก็นับว่าเหนือชั้นกว่า พวกเราเล่นกันแบบอดทนต่อแท็คติกที่วางมามากกว่า ผู้จัดการทีมที่นี่จะมีแผนสำหรับการเปลี่ยนแปลงเกมส์ แก้เกมส์อยู่ตลอดแต่ที่อังกฤษไม่ใช่ ที่นั่นสู้กันด้วยพละกำลัง และการเปลี่ยนบอลจากฝั่งสู้อีกฝั่งก็รวดเร็วมาก บอลสามารถข้ามฝั่งไปมาได้ตลอด ฟุตบอลอังกฤษเกมจะเปิดอยู่ตลอดเวลา และมีการโต้กันไปมาอย่างรวดเร็ว "

       "สำหรับที่สเปนแล้วหากเป็นทีมหัวแถวเป็นเรื่องยากมากที่จะแพ้ทีมจากท้ายตารางคะแนน แต่กับที่อังกฤษทีมจากโซนท้ายตารางคะแนนน่ะ สามารถเอาชนะทีมหัวแถวได้ไม่ยากเย็นเลยล่ะ"

       แกเร็ธ เบลโชว์ ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมมากในการเล่นกับไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส ตอนอยู่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยนักเตะเคยคว้ารางวัลแข้งยอดเยี่ยมพีเอฟเอ และดาวรุ่งยอดเยี่ยมควบสองรางวัลในซีซั่นเดียวกันมาแล้วด้วยทั้งการย้ายทีมของเจ้าตัวไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ก็ถูกบันทึกค่าตัวเป็นสถิติโลกแทนที่ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในเวลานั้นด้วย

4

       น่าจะเป็นข่าวที่คึกโครมที่สุดในแวดวงฟุตบอลอังกฤษช่วงนี้แน่นอน สำหรับข่าวคราวการเปลี่ยนแปลงของทีมปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด ยอดทีมแชมป์ลีก 20 สมัย ซึ่งมีรายงานยืนยันออกมาจากหลายสื่อดังแล้วว่า สโมสรแมนฯยูไนเต็ด ได้ทำการแยกทางอย่างเป็นทางการกับกุนซือชาวดัตซ์แล้ว โดยเหลือแค่เพียงการออกแถลงการณ์ และประกาศแต่งตั้ง โจเซ่ มูริญโญ่ ขึ้นทำหน้าที่แทนเท่านั้น

       ทั้งนี้รายงานจากสื่อระบุว่านอกจากตัวของ หลุยส์ ฟาน กัล แล้ว ทีมงานของกุนซือรายนี้ก็ถูกเด้งออกพร้อมกันยกชุดด้วย เพื่อเปิดทางให้ โจเซ่ มูริญโญ่ ได้เลือกทีมงานชุดใหม่เข้ามาร่วมงานตามใจตนเอง หมายความว่าผู้ช่วยคนสำคัญอย่าง อัลเบิร์ต สตุยเฟนเบิร์ก ก็จะต้องตกงานก่อนครบสัญญาตามไปด้วย

       ส่วนในรายของ ไรอัน กิ๊กส์ นั้นแม้ว่าสโมสรต้องการให้เขาอยู่ทำงานกับทีมต่อไป แต่เจ้าตัวก็แสดงจุดยืนมาสักพักแล้วว่าหากไม่ได้ขึ้นทำหน้าที่กุมบังเหียนทีมเต็มตัวแทน หลุยส์ ฟาน กัล ก็จะขอลาสโมสรเพื่อไปรับงานกุนซือที่อื่นแทน

       อย่างไรก็ตามนอกจากนี้สื่อยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ปีศาจแดง ได้เตรียมงบไว้ให้ โจเซ่ มูริญโญ่ ใช้สำหรับการเปลี่ยนแปลงทีมในซัมเมอร์นี้ถึงกว่า 200 ล้านปอนด์ โดยที่แว่วๆมาว่าอดีตนายใหญ่สิงห์บลูได้วางตัวนักเตะหลักๆที่ต้องการดึงเข้ามาในทีมให้ได้สี่รายด้วยกัน

       ประกอบไปด้วยในรายของ จอห์น สโตนส์ ปราการหลังของเอฟเวอร์ตันซึ่งเจ้าตัวตามจีบนักเตะตั้งแต่ตอนคุมทีมเชลซีแล้ว

       ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้ากาบองของทีมเสือเหลือง ดอร์ทมุนด์ ยักษ์ใหญ่ในบุนเดสลีกา

       ฮาเมส โรดริเกซ มิดฟิลด์โคลอมเบียของ เรอัล มาดริด ที่ก็เพิ่งตกเป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ไม่นาน และ

       มาร์กินญอส กองหลังเชิงสูงชาวบราซิเลี่ยน

       สรุปสถานการณ์ของปีศาจแดงเวลานี้ก็แน่นอนชัดเจนร้อยเปอร์เซ็นแล้วว่า แฟนบอลเร้ดอาร์มี่ จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอันน่าตื่นตาตื่นใจขนานใหญ่ของทีมแล้ว

5

       งานนี้ไม่รู้ว่าทางด้านของ หลุยส์ ฟาน กัล ลืมคำพูดตัวเองในช่วงต้นซีซั่นหรือว่ายังไง จู่ๆถึงได้ออกมาพูดจาแบบชนิดที่ทำเอาแฟนบอลเร้ดอาร์มี่ถึงกับฉุนเลย เมื่อเจ้าตัวบอกกับสื่อว่าเป้าหมายการคว้าแชมป์ลีกในซีซั่นนี้ของปีศาจแดงนั้นไม่ใช่สิ่งที่สโมสรและแฟนบอลควรคิดตั้งแต่ต้นแล้ว ทั้งๆที่ช่วงต้นซีซั่นเจ้าตัวอย่างโวลั่นอยู่พักนึงเลยว่าทีมของตนเองนั้นเล่นเพื่อแชมป์

        ทั้งนี้ดังที่ทราบปีศาจแดงทุ่มทุนปรับทีมมากในยุคของกุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล โดยที่ผลตอบแทนที่ได้รับในซีซั่นนี้ดูจะไม่คุ้มค่าเอาเสียเลยเมื่อทีมหมดลุ้นแชมป์ไปตั้งนานแล้ว และปัจจุบันก็ยังสุ่มเสี่ยงต่อการพลาดจบอันดับสี่เพื่อตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นหน้าเพราะต้องพยายามเก็บชัยชนะในนัดสุดท้ายของฤดูกาลให้ได้แถมยังต้องภาวนาให้ทาง แมนฯซิตี้ แพ้อีกด้วย

       อย่างไรก็ตามจากผลงานที่ไม่ถูกใจสื่อและไม่สบอารมรณ์แฟนบอลดังกล่าวนี้ หลุยส์ ฟาน กัล กลับออกมากล่าวทำนองแก้ต่างให้ตนเองว่าความจริงศักยภาพทีม และสภาพทีมในปัจจุบันก็ไม่ว่าแย่อะไรเลยกับผลงานที่ออกมาในซีซั่นนี้ อดีตนายใหญ่ทีมชาติฮอลแลนด์อธิบายว่า

        "ซีซั่นนี้เรายังมีลุ้นคว้า แชมป์เอฟเอคัพ อยู่ แล้วคุณดูสิว่าในซีซั่นนี้มีกี่ทีมที่ได้ลุ้นแชมป์ (ในช่วงท้ายซีซั่นมีเพียง ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส กับ เลสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้นที่ขับเคี่ยวกัน) เป้าหมายของเราแค่การได้ตั๋วไป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ถ้าหากเราพลาดจบที่สี่นั่นแหละคือเราไม่สามารถทำได้ตามเป้า"

       "มีไม่กี่ทีมหรอกนะที่ผลงานดีแบบเรา เรากำลังลุ้นคว้าแชมป์เอฟเอคัพ ขณะที่ก็ยังได้ลุ้นจบท็อปโฟร์ถึงนัดสุดท้ายเลยแม้ทางปฏิบัติจะยากแต่มันก็ยังพอเป็นไปได้ ใช่พวกคุณไม่ผิดที่บอกว่าทีมของเราต้องลุ้นแชมป์แต่พูดก็พูดเถอะนั่นมันไม่ใช่เป้าหมายที่เหมาะสมของเราเวลานี้"

6

       ต้องบอกว่าเข้าตำราว่าถ้าไม่ชมชาติเดียวกันเองก็ไม่รู้จะให้ไปชมใครที่ไหนเลยงานนี้สำหรับการออกมากล่าวซูฮก เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์เฟร้นแมนของทีม เลสเตอร์ ซิตี้ จาก อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่มาดเจ๊ทีมปืนโตอาร์เซน่อล

       ทั้งนี้ ก็องเต้ มิดฟิลด์พันธ์บู๊ของทีม จิ้กจอกสยาม ถือเป็นหนึ่งในแข้งที่ทำผลงานได้โดดเด่นมากในซีซั่นนี้ เฉกเช่นในรายของ เจมี่ วาร์ดี้ และ ริยาด มาห์เรซ ที่ซิวรางวัลแข้งยอดเยี่ยมพีเอฟเอไปครอง

       ทั้งๆที่เจ้าตัวนั้นย้ายเข้าทีมมาแบบที่แฟนบอลส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามมาก่อนด้วยซ้ำ โดยนักเตะถูกซื้อเข้ารังคิงพาวเวอร์ด้วยค่าตัวเพียง 5.8 ล้านปอนด์เท่านั้น แต่จากฟอร์มและผลงานของนักเตะในซีซั่นนี้ที่สามารถคว้าแชมป์ร่วมกับทีมจิ้กจอกได้ ทำให้เป็นที่คาดกันว่านักเตะน่าจะมีค่าตัวพุ่งไปเกิน 15 ล้านปอนด์เป็นอย่างน้อยแล้ว

        จากเหตุนี้ทำให้ อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่เพื่อนร่วมชาติฝรั่งเศสของนักเตะ ไม่พลาดที่จะออกมากล่าวชื่นชมยกย่อง โดยเวนเกอร์กล่าวผ่านสื่อว่า "ผมคิดว่าเขาเป็นนักเตะที่จะได้เป็นส่วนนึงในทีมชาติฝรั่งเศสชุดลุยศึกยูโรในซัมเมอร์นี้ สำหรับผมนี่คือหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในแห่งปีของพรีเมียร์ลีก อังกฤษผลงานของเขามันยอดเยี่ยมและโดดเด่นไม่แพ้ใครเลย"

      "แน่นอนผมชื่นชอบเขาแต่ก็คงจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้หรอก เพราะเขายังมีสัญญาอยู่กับเลสเตอร์ ถ้าหากเลสเตอร์อยากจะขายเขาแล้วล่ะก็จะต้องมีคนรอรับซื้อมากแน่นอน"

       ช่วงที่ผ่านมา ก็องเต้ ก็เริ่มตกเป็นข่าวได้รับความสนใจจากหลายทีมใหญ่ในยุโรปบ้างแล้ว เช่นเดียวกับที่แข้งเนื้อหอมรายอื่นๆของเลสเตอร์ทั้ง วาร์ดี้, มาห์เรซ แต่ก็ยังไม่มีทีมไหนที่ออกมาแสดงตัวชัดเจนว่าต้องการซื้อนักเตะไปเสริมทัพ


7

       ต้องบอกว่ายังคงเป็นอะไรที่ต้องติดตามลุ้นกันต่อไปสำหรับอนาคตของทางด้าน มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ ปราการหลังพันธ์แกร่งของทีมเสือเหลือง ดอร์ทมุนด์ เพราะแม้ว่าก่อนหน้านี้ต้นสังกัดของนักเตะจะออกมาแถลง ในทำนองเคลียร์ประเด็นให้แฟนบอลของทีมได้หายค้างคาใจว่า แข้งรายนี้ต้องการย้ายซบทีมคู่ปรับอย่างเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค กระทั่งสร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอลของทีมอย่างมาก

       แต่ล่าสุดตัวนักเตะก็ออกมากล่าวยืนยันแล้วว่า ตนเองยังไม่ได้ตกลงปลงใจที่จะย้ายไปอยู่กับเสือใต้ตามที่สโมสรแถลงออกมาแต่อย่างใด โดยชี้ว่าสิ่งที่สโมสรทำนั่นแหละเป็นเหตุให้แฟนบอลเข้าใจผิด

       ทั้งนี้ช่วงที่ผ่านมากระแสโจมตี มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ ในด้านลบจากแฟนบอลของทีมเสือเหลืองเอง มีออกมามากหลังจากมีการแถลงจาก ดอร์ทมุนด์ ว่านักเตะต้องการย้ายซบทีมคู่ปรับเสือใต้ พร้อมกับมีการออกมากล่าวในเชิงเผยว่าเป็นนักเตะเอง ที่ติดต่อข้อเสนอตัวกับเสือใต้จากอดีตประธานสโมสรเสือใต้ ก่อนที่ภายหลังจะมีการออกมากล่าวแย้งพร้อมกับชี้แจงความจริงจากทางสโมสรเสือใต้ว่าเป็นพวกเขาเองที่ติดต่อไปพูดคุยกับทางนักเตะก่อน ไม่ใช่ตัวนักเตะที่เป็นฝ่ายเริ่มการเจรจาก่อน

       อย่างไรก็ตามล่าสุดดังที่กล่าวมาข้างต้น เป็นตัวนักเตะเองบ้างที่ออกมาชี้แจงด้วยการโพสต์คลิปวีดีโอสั้นๆ ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ “อินสตาแกรม” ว่าตนเองยังไม่ได้ตัดสินใจอนาคตในซัมเมอร์นี้ และยังไม่ได้ตกลงที่จะย้ายซบทีมเสือใต้ ดังเช่นที่สโมสรดอร์ทมุนด์ออกมาแถลงการณ์มาแต่อย่างใด

        สำหรับเสือเหลือง ดอร์ทมุนด์ ในช่วงหลายปีหลังพวกเขามีนักเตะหลายรายที่ทำผลงานได้โดดเด่น จนก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะชั้นนำของยุโรป แต่เมื่อถึงจุดนึงแล้วนักเตะกลับเลือกย้ายซบทีมคู่ปรับตลอดกาลอย่างเสือใต้ อาทิเช่นในรายของ มาริโอ เกิทเซ่, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เป็นต้น ซึ่งสร้างความไม่พอใจอย่างมากให้กับแฟนบอลของทีมเสือเหลือง พอ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ ถูกจุดประเด็นการย้ายซบเสือใต้ในซัมเมอร์นี้ขึ้นมาจึงเกิดกระแสโจมตีนักเตะออกมามากมาย

8

       ต้องบอกว่าใกล้กลับคืนสนามให้แฟนบอล เดอะกันเนอร์ส หายคิดถึงเต็มทีแล้วสำหรับทางด้านของ ซานติ กาซอร์ล่า เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งชาวสแปนิชของทีมปืนโต อาร์เซน่อล เมื่อล่าสุดนักเตะได้ลงเล่นในเกมยู 21 ให้กับทีมเพื่อเป็นการเรียกสภาพความฟิตไปในตัวด้วยแล้ว โดยเป็นเกมที่อาร์เซน่อล U21 เอาชนะแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส U21 ไปแบบเฉียดฉิว 2-1

       ทั้งนี้ กาซอร์ล่า ซึ่งนับเป็นหนึ่งกำลังของทีมปืนโตนับตั้งแต่ย้ายมาจาก ลาลีกา สเปน เมื่อราว 3-4 ปีก่อนในซีซั่นนี้โชคร้ายได้รับบาดเจ็บหนัก  ทำให้ต้องพักรักษาตัวไปนานหลายเดือน และล่าสุดก็ใกล้จะได้คืนสนามแล้วเมื่อสามารถลงเล่นให้กับทีมชุด U21 ตามกล่าวได้แล้ว โดยที่นักเตะก็โชว์ฟอร์มได้ดีซะด้วยสามารถทำได้หนึ่งแอสซิส

        อย่างไรก็ตามนักเตะได้ออกมากล่าวเปิดใจเปิดความรู้สึก หลังจากหายหน้าไปนานจากอาการบาดเจ็บ ก่อนที่จะได้คืนสนามให้กับทีมปืนโตชุดใหญ่ในเร็ววันนี้ว่า

       "ผมรู้สึกแฮปปี้มากทีเดียวที่กลับมาได้แล้ว หลังจากต้องผ่านช่วงเวลาที่ยาวนานถึง 5 เดือน แน่นอนว่าผมจะต้องกลับมาทำงานหนักร่วมกับเพื่อนร่วมทีมทุกคนในทีมชุดใหญ่ แล้วก็หวังว่าจะได้ลงเล่นในสองเกมสุดท้ายของซีซั่นนี้ พูดกันตรงๆผมอยากที่จะลงช่วยทีมในเกมพบแมนฯซิตี้ สุดสัปดาห์นี้เลยล่ะ แต่นั่นก็เป็นหน้าที่ของผู้จัดการทีมที่จะตัดสินใจเรื่องนี้"

        "ส่วนหน้าที่ของผมก็คือพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้ลงเล่น สองเกมสุดท้ายมันเป็นเกมที่สำคัญมากๆของเรา เราต้องคว้าชัยให้ได้เพื่อการจบเป็นหนึ่งในสี่อันดับแรก และจะว่าไปเราก็มีโอกาสที่จะจบอันดับรองจ่าฝูงได้ด้วยซึ่งมันก็เป็นหน้าที่ของเราที่เราจะต้องสู้อย่างเต็มที่ ถ้าเราชนะในสองเกมสุดท้ายได้มันก็มีโอกาสเป็นไปได้นะ ตอนนี้ผมมีความกระหายที่จะช่วยเพื่อนๆมากเลย"

       สำหรับโปรแกรมในสองเกมสุดท้ายศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ของทีมปืนโตจะเป็นการบุกเยือน แมนฯซิตี้ สุดสัปดาห์นี้ต่อด้วยการเปิดเอมิเรตสเตเดี้ยมต้อนรับ แอสตัน วิลล่า เป็นเกมส่งท้ายซีซั่น


9

       ต้องบอกว่ายังคงเป็นเรื่องราวให้แฟนบอลได้ลุ้นได้ติดตามท่ามกลางความสับสนมึนงงกันต่อไป ว่าผลจะออกมาอย่างไรกันแน่ สำหรับประเด็นอนาคตกุนซือทีมปีศาจแดงในซีซั่นหน้า เพราะหลังจากมีการตีข่าวแย้งกันไปมาจากสื่อดังในอังกฤษเองว่า ปีศาจแดงได้ทำการคอนเฟิร์มสัญญากับทาง มูริญโญ่ แล้วหรือยัง

       ล่าสุดก็มีข้อมูลเพิ่มความงงมาอีกหนึ่งชุดเมื่อเป็นทาง หลุยส์ ฟาน กัล นายใหญ่ชาวดัตซ์ ที่ออกมากล่าวในทำนองแสดงความมั่นใจว่าน่าจะได้ทำงานต่อไปจนครบสัญญาสามปี โดยอ้างเหตุผลว่าเป็นเพราะสโมสรเองนั่นแหละที่ยื่นสัญญาระยะเวลาสามปีให้ ฉะนั้นย่อมต้องการให้ตนเองทำงานที่นี่เป็นเวลาสามปีแน่นอน

       ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ราวหนึ่งเดือนเจ้าตัวเพิ่งจะออกมากล่าวแบบตัดพ้อว่า ไม่รู้อนาคตตัวเองในซีซั่นนี้แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าปีศาจแดงได้แอบพูดคุยกับ โจเซ่ มูริญโญ่ ไว้หรือเปล่า

       ฟาน กัล กล่าวว่า "พวกเขาทราบดีว่านี่คืองานยากมากๆและนั่นแหละที่เป็นเหตุผลให้พวกเขาเลือกจ้างผมมาทำงาน เราได้พูดคุยกันตั้งแต่ต้นแล้วเรื่องระยะเวลาแล้วสุดท้ายก็ตกลงกันได้ที่ 3 ปี ซึ่งมันไม่ใช่ความตั้งใจตั้งแต่แรกของผม ผมต้องการแค่ 2 ปี แต่พวกเขาเองนั่นแหละต้องการให้ผมทำงานที่นี่เป็นเวลาสามปี ดังนั้นซีซั่นหน้าผมก็จะยังอยู่ที่นี่ต่อไปแน่นอน"

       ส่วนประเด็นข่าวคราวความเคลื่อนไหวอื่นๆของ สโมสรปีศาจแดง ช่วงนี้ ก็มีข่าวที่เรียกว่าไม่ค่อยจะสู้ดีนักของทาง ไรอัน กิ๊กส์ ผู้ช่วยกุนซือออกมา โดยเป็นสื่อดังอย่างเดอะซันที่รายงานข่าวปัญหาครอบครัวของอดีตปีกพ่อมดรายนี้ว่า เจ้าตัวถูกภรรยาขอแยกทางหลังจากที่จับได้ว่า เจ้าตัวไปมีความสัมพันธ์แบบลับๆกับพนักงานสาวเสิร์ฟในภัตาคารของตนเอง

       ตามรายงานข่าวจากสื่อระบุว่าทาง ไรอัน กิ๊กส์ นั้นแอบมีความสัมพันธ์กับพนักงานสาวเสิร์ฟรายนี้มีสักพักแล้ว และพยายามปกปิดไม่ให้สเตซี่ย์ ผู้เป็นภรรยาทราบ

10

       งานนี้ทำเอา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และราชันชุดขาวต้องมีรู้สึกชั่งใจบ้างแน่นอนเมื่อ นูโน่ คัมโปส อดีตแพทย์ประจำทีมชาติโปรตุเกสออกมากล่าวแบบกึ่งเตือนกึ่งฟันธงว่า ดาวเตะรูปหล่อรายนี้ที่กำลังรักษา และฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อโคนขานั้น จะไม่สามารถฟิตกลับมาสมบูรณ์ทันลงเล่นเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศนัดที่สอง ที่ทาง เรอัล มาดริด จะพบกับ แมนฯซิตี้ แน่นอน และก็ไม่ควรฝืนตัวเองลงเล่นด้วย เพราะนั่นอาจทำให้นักเตะพลาดลงช่วยทีมชาติในทัวร์นาเม้นท์ยูโรรอบสุดท้ายช่วงซัมเมอร์นี้

       ทั้งนี้ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปรารถนาที่จะลงช่วยต้นสังกัดในเกมรอบรองชนะเลิศนัดที่สองอย่างมาก จนถึงขั้นมีการเร่งการรักษาอาการบาดเจ็บด้วยวิธีการฉีดสเตมเซลล์เข้าไปบริเวณที่บาดเจ็บ ซึ่งภายหลังการรักษามีการคาดการณ์กันว่าน่าจะทำให้นักเตะหายกลับมาฟิตราว 80% ในเกมที่ เรอัล มาดริด จะพบ แมนฯซิตี้ นัดที่สองตามกล่าว

       อย่างไรก็ตามดังเกริ่นข้าวต้น นูโน่ คัมโปส หนึ่งในอดีตทีมแพทย์ของทัพฝอยทองออกปากกล่าวเตือนว่า นั่นเป็นสิ่งที่ดาวเตะหน้าหล่อไม่ควรทำอย่างยิ่ง นูโน่ กล่าวอธิบายผ่านสื่อเรคคอร์ดว่า

       "จากอาการบาดเจ็บของนักเตะเราได้วิเคราะห์เป็นช่วงเวลาการรักษาออกมาได้ดังนี้ นักเตะต้องพักรักษารวมระยะเวลาประมาณ 18-21 วัน โดยจะแบ่งแยกย่อยเป็นสองช่วง ช่วง 12-14 วันแรกจะเป็นการรักษาตามปกติ"

       "ส่วนอีกราว 5-7 วันที่เหลือจะเป็นเรื่องของการฟื้นฟูสภาพกล้ามเนื้อ ถ้าเรานับกันตามเวลาผมว่าเขายังพักน้อยไป เกมกับซิตี้เขาไม่สมควรลงเล่น ถ้าเขาเลือกจะฝืนลงเล่นผลกระทบที่ตามมาคือกล้ามเนื้อบริเวณนั้นของเขาอาจฉีกขาด นั่นมันเสี่ยงที่เขาจะชวดไปเล่นยูโรกับทีมชาติมากเลยนะ"

       สำหรับเกม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศเลกสองเรอัล มาดริดจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของแมนฯซิตี้ในวันพุธที่ 4 เมษายน นี้

11

       ว่ากันเป็นภาษาบ้านๆก็ต้องบอกว่ามันแน่อยู่แล้วงานนี้ ที่ทางด้านของจิ้กจอกสยามจะต้องพบเจอกับความยากลำบากในการรั้งตัวนักเตะคนสำคัญ ที่เป็นหนึ่งในคีย์แมนในการพาทีมลุ้นคว้าแชมป์ลีกซีซั่นนี้อย่าง ริยาด มาห์เรซ ให้อยู่กับทีมต่อไป เพราะจากฟอร์มอันยอดเยี่ยมโดดเด่นของนักเตะในซีซั่นนี้ ซึ่งถึงขนาดปาดหน้าแข้งดาวดังประจำพรีเมียร์ลีกคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมพีเอฟเอไปครองนั้น ทำให้หลายสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรป กำลังเตรียมกางแผนยื่นข้อเสนอทาบทามนักเตะแบบเป็นเรื่องเป็นราวกันแล้ว

       ทั้งนี้ ร็อบเบน ปีกตัวเก่งของทีม บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งเคยผ่านประสบการณ์ได้รับการตามจีบจากหลาสโมสรใหญ่พร้อมกันมาก่อนแล้วเมื่อสมัยโชว์ฟอร์มพีค และอายุอานามพอๆกับวัยของ ริยาด มาห์เรซ นั้นกล่าวถึงสถานการณ์ของตัวรุกของทีมจิ้กจอกสยามแบบคาดการณ์ในซัมเมอร์นี้ว่า

       "จากที่ผมเห็นกับตาตัวเอง รวมถึงได้ยินได้ฟังจากคนอื่นมามันก็ชัดเจนมากๆว่า เขาคือนักเตะที่เก่งมากทีเดียว เขาคือนักเตะที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ในการเล่นฟุตบอล จะว่าไปนี่มันอาจเป็นเรื่องที่เป็นผลเสียต่อพวกเขาเองก็ได้นะ เพราะในขณะที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย ผลงานของสโมสรก็ดีมันก็กำลังมีหลายสโมสรที่จะแย่งตัวเขาไป ผลงานของเขามันโดดเด่นมากๆแต่สไตล์ของทีมที่เน้นการเล่นเป็นทีมมันก็เอื้อประโยชน์กับเขาทุกอย่างมันดี ทว่ามันจะเป็นงานยากแน่ที่จะรั้งตัวเขาไว้"

       อย่างไรก็ตามแม้ว่าทาง อาร์เยน ร็อบเบน จะกล่าวออกมาแบบมั่นอกมั่นใจว่าการรั้งตัวนักเตะต่อไปของทางเลสเตอร์ในซัมเมอร์นี้ จะเป็นเรื่องยากลำบากแต่ก็ไม่ถือว่าแฟนบอลทีมจิ้กจอกสยามจะหมดหวังได้เห็นนักเตะค้าแข้งต่อไปในถิ่น คิงพาวเวอร์ สเตเดี้ยม ซีซั่นหน้าซะทีเดียวเพราะเมื่อเร็วๆนี้นักเตะก็เพิ่งจะออกมากล่าวปฏิเสธโอกาสที่จะย้ายไปเล่นกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยักษ์ใหญ่ในลีกเอิงฝรั่งเศสทั้งยังได้ยืนยันว่าชื่นชอบฟุตบอลอังกฤษ และมีความสุขดีกับการเล่นให้ทีมจิ้กจอก

12

       นอกจากจะต้องสู้กันในภาคสนามแข่งกันคว้าแต้มให้ได้มากที่สุดเพื่อการเป็นแชมป์ลีกแล้ว ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส และ เลสเตอร์ ซิตี้ ก็ยังต้องสู้กันด้วยสงครามจิตวิทยาอีกงานนี้ เมื่อเป็นทางด้านของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ นายใหญ่ไฟแรงของทีมไก่เดือยทองที่ออกมาพูดจาโยนความกดดันเข้าใส่ทีม จิ้กจอกสยาม หลังจากที่ เจมี่ วาร์ดี้ หัวหอกคนสำคัญของจิ้กจอกต้องโดนแบนจากการโดนใบเหลืองสองใบเป็นใบแดง และจากกรณีแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมไปต่อว่าผู้ตัดสินหลังเหตุการณ์ดังกล่าว

       ทั้งนี้อย่างที่ทราบกันไปหลังเกม เลสเตอร์ เจ๊ากับ เวสต์แฮม เจมี่ วาร์ดี้ ถูกเอฟเอตั้งข้อหาแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมจากการเข้าไปสบถใส่ผู้ตัดสิน ซึ่งนั่นจะทำให้เจ้าตัวโดนแบนเพิ่มอีกเกม

       โดยที่ความเคลื่อนไหวล่าสุด ทีมจิ้กจอกสยาม ได้ตอบรับข้อกล่าวหาของนักเตะแล้ว ไม่มีการอุทธรณ์ใดๆ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือทีมไก่เดือยทองคู่แข่งหนึ่งเดียวของ เลสเตอร์ ในการลุ้นแย่งแชมป์ซีซั่นนี้ซึ่งมีคะแนนตามหลังอยู่เพียงห้าคะแนน ขณะที่เกมการแข่งขันของทั้งสองทีมในซีซั่นนี้ก็เหลืออีกทีมละ 4 เกมเท่านั้น กล่าวไซโคถึงสถานการณ์นี้ว่า

       "นี่คือเหตุการณ์ที่จะเป็นผลกระทบในด้านลบอย่างมากต่อ เลสเตอร์ เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนี้ วาร์ดี้ คือหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของลีก มันแน่นอนล่ะว่าเลสเตอร์ยังมีผู้เล่นเก่งๆอีกหลายคน ที่พวกเขาสามารถเล่นในสไตล์เดียวกันกับวาร์ดี้ได้ และสามารถส่งลงสนามไปแทนได้ แต่ก็นั่นแหละผมว่าวาร์ดี้คือกองหน้าคนนึงที่เก่งที่สุดในลีกของเรา"

       อย่างไรก็ตามแม้ว่า โปเช็ตติโน่ จะโยนจิตวิทยากดดันใส่ทีมของ รานิเอรี่ เต็มๆแต่ก่อนหน้านี้กุนซือชาวอิตาเลี่ยนก็เพิ่งจะได้ออกมากล่าวในเชิงรักษาขวัญกำลังใจของทีมเช่นกันว่า ทีมของเขานั้นพร้อมที่จะสู้กันต่อเสมอแม้ว่าจะไร้ วาร์ดี้ ในเกมหนึ่งถึงสองเกมต่อจากนี้ก็ตาม

13

       ต้องบอกว่าทำให้บรรดาเดอะค็อปต้องลุ้นเหนื่อยเหมือนกันงานนี้ สำหรับการออกมากล่าวเผยเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของ ดีว็อค โอริกี้ จาก เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ของทีมซึ่งเป็นไปทำนองรู้สึกเป็นห่วงว่าอาการของนักเตะจะหนักหนาหรือเปล่า แม้ว่าในเบื้องต้นจะมีการยืนยันแล้วว่า กระดูกข้อเท้านักเตะไม่ได้หักแต่อย่างใดก็ตาม

       ทั้งนี้อาการบาดเจ็บที่บริเวณข้อเท้าของ โอริกี้ เกิดขึ้นในเกมลีกนัดล่าสุดที่ทางหงส์แดงเปิดแอนฟิลด์ไล่ยำ เอฟเวอร์ตัน ไป 4-0

       โดยกองหน้าตัวเก่งทีมชาติเบลเยี่ยมเป็นผู้ซัลโวประตูนำ 1-0 ให้กับหงส์แดงในครึ่งเวลาแรก แต่ในระหว่างเกมการแข่งขันครึ่งเวลาหลังนักเตะมาโดนทำฟาล์วหนักใส่จาก ฟูเนส โมลี่ กองหลังทีมเยือนกระทั่งต้องถูกเปลี่ยนออกสนาม และเป็น แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ที่ลงไปเล่นแทน

       อย่างไรก็ตามจังหวะการทำฟาล์วรุนแรงใส่ที่ข้อเท้า โอริกี้ นั้นส่งผลให้ ฟูเนส โมลี่ ถูกผู้ตัดสินควักใบแดงไล่ออกจากสนามไปด้วย

       คล็อปป์กล่าวถึงอาการบาดเจ็บของนักเตะหลังเกมว่า "แน่นอนผมรู้สึกแฮปปี้กับชัยชนะที่ได้ แต่การบาดเจ็บของโอริกี้มันก็บั่นทอนความสุขของผมลงไปเช่นกัน ผมคงจะพูดวิจารณ์อะไรมากมายไม่ได้เกี่ยวกับจังหวะ (จังหวะที่ฟูเนส โมลี่เสียบเข้าใส่โอริกี้) แต่หลายคนบอกว่ามันเป็นสิ่งที่น่าเกลียดมาก ข้อเท้าของโอริกี้ไม่ได้หักแต่มันเป็นลักษณะของอาการบิดเราจะต้องรอดูอาการนักเตะกันอีกที"

       "ตอนนี้เขาต้องใช้ไม่เท้าช่วยในการเดิน ทว่าสีหน้าของเขาก็ยังดูมีความสุขอยู่ แต่ก็นั่นแหละมันน่าเป็นห่วง และเราต้องรอการเช็คอาการว่ามันจะหนักหนาแค่ไหน"

       โอริกี้ ในช่วงหลังถือได้ว่ากลายเป็นกองหน้าตัวเลือกแรกของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไปแล้วโดยนักเตะมักจะถูกเรียกใช้งานก่อน แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ด้วยซ้ำหากว่าทั้งคู่ฟิตสมบูรณ์พร้อมกัน ดังนั้นการต้องมาบาดเจ็บไปในช่วงที่ฟอร์มกำลังเข้าฟักแบบนี้จึงถือเป็นเรื่องน่าเสียดายกับทั้งทีมและตัวนักเตะอย่างยิ่ง

14

       ต้องบอกว่าอาจจะเดือดร้อนทีมราชันชุดขาวในช่วงโค้งท้ายของซีซั่นนี้ได้เหมือนกัน สำหรับอาการบาดเจ็บของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่บริเวณโคนขาซึ่งเกิดขึ้นในเกมลีกนัดล่าสุดที่ เรอัล มาดริด ไล่อัด บียาร์เรอัล ไป 3-0

       ทั้งนี้ศึก ลาลีกา สเปน ในช่วงไม่กี่เกมหลังของซีซั่นนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับราชันชุดขาว เพราะอาซูกราน่า บาร์เซโลน่า ที่เหมือนจะนำโด่งและคว้าแชมป์ในซีซั่นนี้ได้แบบสบายๆ กลับฟอร์มออกทะเลพลาดทำแต้มหกหล่นในหลายเกมที่ผ่านมา

       กระทั่งทำตอนนี้ราชันชุดขาวลดช่องว่างระหว่างคะแนนได้เหลือเพียงแค่ 1 คะแนนแล้วเท่านั้น เรียกว่ามีโอกาสดีมากๆเลยที่จะเบียดแซงคว้าแชมป์ได้ จากการเร่งฟอร์มในช่วงไม่กี่เกมสุดท้าย ดังนั้นหากว่าต้องมาเสีย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงคนสำคัญที่ฟอร์มกำลังเข้าฝักไปในช่วงเวลาแบบนี้ จึงถือเป็นเรื่องเสียหายหนักแน่นอน

       สำหรับอาการบาดเจ็บของ โรนัลโด้ ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นเกิดขึ้นในช่วงท้ายเกมที่ทาง เรอัล มาดริด พบกับ บียาร์เรอัล โดยทันทีที่นักเตะแสดงอาการว่าเจ็บบริเวณโคนขา ซีเนอดีน ซีดาน กุนซือทัพลอสบลังกอสก็ตัดสินใจเปลี่ยนตัวนักเตะออกจากสนามในทันที ด้วยเกรงว่าอาการบาดเจ็บของนักเตะนั้นจะรุนแรง

       อย่างไรก็ตามถึงตอนนี้ก็ยังคงต้องรอเช็คอาการนักเตะอย่างละเอียดอีกที จึงจะทราบผลว่าระดับความรุนแรงของอาการบาดเจ็บที่โคนขาของ โรนัลโด้ นั้นมากน้อยแค่ไหน โดยซีดานกล่าวเผยกับสื่อถึงประเด็นนี้ว่า

       "คริสเตียโน่ รู้สึกได้ถึงอาการบาดเจ็บบางอย่างแต่ผมเองไม่คิดว่ามันจะมีอะไรรุนแรงหรอกนะ ผมบางทีเขาอาจวิตกเกินไป ใช่ ผมหวังว่าอาการของนักเตะจะไม่รุนแรง แต่อย่างไรเราก็จะมีการเช็คอาการของเขาในวันพรุ่งนี้ โดยธรรมชาติแล้วผู้เล่นอย่างเขาก็ควรที่จะได้พักบ้างไม่ใช่ลงเล่นเต็มเกมอยู่ตลอด แต่ความต้องการของเขามันสวนทางกันตัวเขาต้องการลงเล่นอย่างต่อเนื่อง นั่นแหละอาจเป็นสาเหตุ"

15

       ได้ลุ้นกันสนุกจริงๆเลยงานนี้สำหรับการขับเคี่ยวแย่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ของสองทีมอย่างไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส และจิ้กจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ เพราะหลังจากผ่านเกมการแข่งขันนัดที่ 34 ของทั้งสองทีมไปแล้วตอนนี้ไก่เดือยทอง รองจ่าฝูงสามารถลดช่องว่างคะแนนได้เหลือเพียงแค่ห้าคะแนนเท่านั้น หลังก่อนหน้านี้ตามหลังอยู่เจ็ดคะแนนจากผลงานในเกมบุกทุบช่างปั้นหม้อ สโต๊ค ซิตี้ คาถิ่นบริทาเนีย สเตเดี้ยมยับเยินถึง 4-0

       ทั้งนี้เกมนัดที่ 34 ทีม จิ้กจอกสยาม ลงคิกออฟไปก่อนหน้าไก่เดือยทองแล้ว และทำได้เพียงแค่เสมอกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ดไป 2-2 เก็บเพิ่มได้แต้มเดียว ทำให้ในก่อนเกมที่บริทาเนียในนัดมันเดย์ไนท์ ทีมเยือนไก่เดือยทองมีกำลังใจมากทีเดียวที่จะคว้าสามคะแนนเพื่อลดช่องว่างแต้มที่ตามหลังลง

       และผลที่ออกมาก็เป็นดังคาดไก่เดือยทองอาศัยกำลังใจที่มากล้นก่อนเกมไล่ต้อนเจ้าบ้านไปเละเทะ โดยได้ประตูออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่ 9 จาก แฮรี่ เคน กองหน้าฟอร์มฮอตโดยการทำแฮสซิสของ มุตซ่า เดมเบเล่ ครึ่งเวลาหลังนาทีที่ 67 เดเล่ อาลี บวกสกอร์ที่สองให้หนีห่างเป็น 2-0 จากนั้นอีกเพียงสี่นาทีถัดมา แฮรี่ เคน ก็มาบวกสกอร์ที่สองของตนเองในเกมนี้และกลายเป็นสกอร์ส่งทีมเยือนนำห่างเป็น 3-0 ก่อนที่จะเป็น เดเล่ อาลี อีกครั้งที่มาบวกสกอร์ที่สองของตนเองเช่นกันในนาทีที่ 82 กลายเป็นประตูนำ 4-0 และเป็นสกอร์ปิดเกมไปในที่สุด

       สำหรับอันดับในตารางคะแนนหลังเกมการแข่งขันก็ดังที่กล่าวไปแล้ว สเปอร์ส นั้นจี้ เลสเตอร์ เหลือห่างแค่ห้าแต้มแล้วขณะที่เหลือเกมการแข่งขันอีกเพียงสี่เกม ด้านช่างปั้นหม้อ สโต๊ค ซิตี้ ถือว่าไม่มีอะไรเสียหายนักพวกเขารั้งอยู่อันดับเก้าของตารางคะแนนมี 47 แต้มรอดพ้นการตกชั้นแน่นอนแล้ว ขณะเดียวกันเรื่องจะลุ้นพื้นที่ฟุตบอลถ้วยยุโรปก็เป็นเรื่องยากที่ดูจะไกลเกินไปแล้วเช่นกัน

หน้า: [1] 2 3 ... 68