เมษายน 27, 2024, 08:35:50 PM

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - SportsNews

หน้า: 1 2 [3] 4 5
31
นอริช ซิตี้ - แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 17 พฤศจิกายน 2555
เวลา : 00:30 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 3



เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

นอริช ซิตี้ :
นกขมิ้นเหลืองอ่อน จากการคุมทีมของกุนซือ คริส ฮิวจ์ตัน ออกไปทำผลงานได้แค่เสมอ เร้ดดิ้ง 0-0 ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุด ก่อนกลับมาเปิดรัง แคร์โรว์ โร้ด รับการมาเยือนของจ่าฝูง แมนฯ ยูไนเต็ด สำหรับเกมใหญ่วันเสาร์นี้ ข่าวร้ายของ นอริช คือยังขาดกองหลัง รัสเซลล์ มาร์ติน ที่มีอาการเจ็บบริเวณหลัง ขณะที่กองกลาง อเล็กซ์ เทตเตย์ ที่ต้องขอถอนตัวจากทีมชุดที่อุ่นเครื่องกับ ฮังการี เพราะเจ็บหลังเล็กน้อย น่าไหวกลับมาช่วยทีมได้ ส่วน แฮร์รี่ คีน ดาวยิงดาวรุ่งที่ยืมมาจาก สเปอร์ส คาดว่าคงกลับมาช่วยทีมช่วงคริสต์มาส หลังจากไปผ่าเท้ามา โดย ฮิวจ์ตัน คงตัดสินใจยึดทีมที่ทำได้ดีในพักหลังต่อไป นำทีมโดยดาวยิงกัปตันทีมจอมโขก แกรนท์ โฮลท์
   
แมนฯ ยูไนเต็ด :
 
ปีศาจแดง ของสุดยอดกุนซือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หวังคลองบัลลังก์จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกต่อ หลังจากที่นัดก่อนออกไปเฉือด แอสตัน วิลล่า แบบสุดมันส์ 3-2 ในการมาเยือน แคร์โรว์ โร้ด วันเสาร์นี้ ยังไม่แน่ว่าจ่าฝูงจะมีดาวรุ่ง เวย์น รูนี่ย์ กับ จอนนี่ อีแวนส์ ให้ใช้งานหรือไม่ โดย รูนี่ย์ ดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าจากนัดที่ชนะ วิลล่า ขณะที่ อีแวนส์ กองหลังไอร์แลนด์เหนือ ก็มีอาการเจ็บที่โคนขาหนีบจนพลาดเกมดังกล่าว

หากทั้งคู่ไม่ไหวจริงๆ เฟอร์กูสัน ก็เตรียมหาทางออกไว้แล้ว โดยในโควตาของ รูน น่าตกเป็นของ ฮาเวียร์ ชิชาริโต้ เอร์นานเดซ ที่จะเปลี่ยนตัวลงมาพาบู๊ระห่ำกับ วิลล่า ส่วนในตำแหน่งกองหลัง  คริส สมอลลิ่ง พร้อมลุยต่อ ส่วนดาวยิงตัวเก่ง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ได้รับการคาดหมายว่า จะพร้อมประจำการณ์ในแนวรุก หลังจากที่ต้องพลาดเกมอุ่นเครื่องของ ฮอลแลนด์ ที่พบเยอรมัน เมื่อกลางสัปดาห์

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

นอริช ซิตี้ :
(4-4-1-1) : จอห์น รัดดี้ - สตีเว่น วิทเทเกอร์, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, เซบาสเตียง บาสซง, ฆาเบียร์ การ์ริโด้ - โรเบิร์ต สน็อดกราสส์, แบร็ดลี่ย์ จอห์นสัน, อเล็กซานเดอร์ เทตเตย์, เควิน พิลคิงตัน - เวส ฮูลาแฮน - แกรนท์ โฮลท์
   
แมนฯ ยูไนเต็ด :
(4-4-1-1) : ดาบิด เด เคอา - ราฟาเอล ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอนนี่ อีแวนส์ (คริส สมอลลิ่ง), ปาทริซ เอวร่า - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, แอชลี่ย์ ยัง - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ - เวย์น รูนี่ย์ (ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ)

วิจารณ์เกมการแข่งขัน
 
นอริช ทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยไร้ความพ่ายแพ้มาห้าเกมแล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่เกมรุกที่ยิงได้น้อย ผิดกับ ปีศาจแดง ที่อาจทำให้แฟนๆ หวาดเสียวกับเกมรับ แต่เรื่องเกมรุกไม่น่าต้องห่วงอะไร โดยเฉพาะที่ต้องมาเล่นในนัดเยือน พวกเขายิงสองประตูหรือมากกว่าได้ตลอด ยกเว้นนัดเดียว แรงจูงใจในการยึดบัลลังก์จ่าฝูง รวมถึงความร้อนแรง น่าจะทำให้เด็กๆของ เฟอร์กูสัน คว้าชัยได้อีกนัด แม้ต้องทำเอาแฟนๆ ลุ้นจนตัวโก่งก็ตาม

32
ผลบอล กระชับมิตรทีมชาติ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2555

ไทย     5 - 0     ภูฏาน
สวีเดน     4 - 2     อังกฤษ
เนเธอร์แลนด์     0 - 0     เยอรมัน
อิตาลี     1 - 2     ฝรั่งเศส
โมร็อกโก     0 - 1     โตโก
ยูเออี     2 - 1     เอสโตเนีย
มาเลเซีย     1 - 1     ฮ่องกง
ปานามา     1 - 5     สเปน
ตุรกี     1 - 1     เดนมาร์ก
โปแลนด์     1 - 3     อุรุกวัย
ไอร์แลนด์     0 - 1     กรีซ
แอลเบเนีย     0 - 0     แคเมอรูน
กาบอง     2 - 2     โปรตุเกส
ออสเตรีย     0 - 3     ไอวอรี่ โคสต์
ลักเซมเบิร์ก     1 - 2     สกอตแลนด์
ชิลี     1 - 3     เซอร์เบีย
โรมาเนีย     2 - 1     เบลเยียม
แอฟริกาใต้     0 - 1     แซมเบีย
ลิกเตนสไตน์     0 - 1     มอลต้า
ฮังการี     0 - 2     นอร์เวย์
ตูนีเซีย     1 - 2     สวิตเซอร์แลนด์
แอลจีเรีย     0 - 1     บอสเนียฯ
อาร์เมเนีย     4 - 2     ลิทัวเนีย
มาซิโดเนีย     3 - 2     สโลวีเนีย
อันดอร์ร่า     0 - 2     ไอซ์แลนด์
ไซปรัส     0 - 3     ฟินแลนด์
อิสราเอล     1 - 2     เบลารุส
ซาอุดิอาระเบีย     0 - 0     อาร์เจนตินา
เช็ก     3 - 0     สโลวาเกีย
บัลแกเรีย     0 - 1     ยูเครน
รัสเซีย     2 - 2     สหรัฐอเมริกา
จอร์เจีย     0 - 0     อียิปต์
จีน     1 - 1     นิวซีแลนด์
เกาหลีใต้     1 - 2     ออสเตรเลีย

33
เนเธอร์แลนด์ - เยอรมัน (กระชับมิตรทีมชาติ)
วันที่ : 14 พฤศจิกายน 2555
เวลา : 02:30 น.



เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

เนเธอร์แลนด์ :
หลุยส์ ฟาน กาล เทรนเนอร์ดัตช์ ระดมแข้งเทพทั้งหลายมาติดทีมหนนี้ มีพวกดาวรุ่งและหน้าใหม่หลายราย อย่าง 2 นายทวาร เคนเน็ธ แฟร์เมียร์ และ เยรูน ซู้ท แดนกลางมี มาร์โค ฟาน กิงเคล แข้งวัย 19 ของ วิเทสส์ รายของ บาส ดอสท์ กองหน้าที่ฟอร์มกำลังฮอทสุดๆกับโวล์ฟสบวร์ก ก็มีชื่อติดทีมหนแรกเช่นกัน

ตัวประสบการณ์เทพทั้งหลายอย่าง เวสลี่ย์ สไนเดอร์, เควิน สโตรทมันน์, เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล และดาวยิง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ของแมนฯ ยูไนเต็ด ล่าสุดถอนตัวไปแล้ว กำลังหลักที่เหลืออยู่ตอนนี้ มีเล่นในเยอรมันอยู่หลายราย ทั้ง ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, อิบราอิม อเฟลลาย, อาร์เยน ร็อบเบน, คลาส แยน ฮุนเตลาร์, บาส ดอสท์ เองและ เอลเยโร่ เอเลีย ที่กลับมาติดทีมชาติอีกครั้ง หลังทำผลงานกับ เบรเมน ได้โดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา
   
เยอรมัน :
โยอัคคิม เลิฟ กุนซือทีมชาติเยอรมัน เกมคืนนี้เรียกนักเตะมาติดทีม แต่ก็ต้องขาดตัวหลักๆหลายรายที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องถอนตัว และไม่โดนเรียกมาติดไล่ตั้งแต่ เยโรม บัวเต็ง, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, โทนี่ โครส, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, ซามี่ เคดิร่า, มิโรสลาฟ โคลเซ่ และ คาเคา

ไม่เพียงเท่านั้น เมซุต โอซิล และ มิโรสลาฟ โคลเซ่ เป็นสองรายล่าสุดที่ถอนตัวออกไป โดยได้เรียกตัว เลวิส โฮลท์บี้ ขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่แทน ขณะที่ เซบาสเตียน ยุงก์ แบ็กแฟรงค์เฟิร์ต กับ โรมัน นอยชเตดเทอร์ กองกลางดาวรุ่งชาลเก้ เป็น 2 รายที่โดนเรียกติดทีมเป็นหนแรก ข่าวดีสำหรับ เรเน่ อ๊าดเลอร์ อดีตมือ 1 ทีมชาติที่ฟอร์มดีกับฮัมบูร์ก จนได้กลับมาคืนสู่ทีมเป็นหนแรกในรอบ 2 ปี เกมนี้ขาดกองหน้าธรรมชาติ คาดว่าอาจต้องดัน ลูคัส โพดอลสกี้ หรือ มาร์โค รอยส์ ไปยืนหน้าเป้า

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เนเธอร์แลนด์ :
ฮอลแลนด์ (4-2-1-3): ทิม ครูล - ริคาร์โด้ ฟาน ไรน์, จอนนี่ ไฮติงก้า, รอน ฟลาร์, บรูโน่ มาร์ตินส? อินดี้ - ไนเจล เดอ ย็อง, เออร์บี้ เอมมานูเอลสัน - ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท - อาร์เยน ร็อบเบน, คลาส แยน ฮุนเตลาร์, อิบราฮิม อเฟลลาย
    
เยอรมัน :
เยอรมัน (4-2-3-1) : เรเน่ อ๊าดเลอร์ - เบเนดิกท์ เฮอเวเดส, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, มัทส์ ฮุมเมิลส์, ฟิลิปป์ ลาห์ม - ลาร์ส เบนเดอร์, อิลคาย กุนโดกัน - โธมัส มุลเลอร์, มาริโอ เกิทเซ่อ, มาร์โค รอยส์  -  ลูคัส โพดอลสกี้

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

เกมนี้มองดูรูปเกมแล้วค่อนข้างสูสี เพราะทั้งสองทีมต่างเรียกนักเตะใหม่ๆ เข้ามาลองทีมกันทั้งนั้น ต่างขาดผู้เล่นกำลังหลักไปบ้าง อย่างไรก็ตาม ทีมดัตช์เล่นในบ้าน และดูเหมือนว่านักเตะของพวกเขา จะเหลือตัวหลักๆอยู่มากกว่า ทีมอินทรีเหล็ก เองไม่มีกองหน้าตัวเป้าธรมชาติด้วย น่าจะบู๊จนเหนื่อยในเกมนี้  น่าลุ้น ฮอลแลนด์ เฉือนชนะดีกว่า


 

34
ไทย - ภูฏาน (กระชับมิตรทีมชาติ)
วันที่ : 14 พฤศจิกายน 2555
เวลา : 18:00 น.



เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

ไทย :
ทีมชาติไทยเพิ่งจะจบเกมอุ่นเครื่องอย่างสวยงาม ด้วยการเฉือดแชมป์เก่าอย่าง มาเลเซีย 2-0 ดูจากรูปแบบการเล่นถือว่าทรงบอล เริ่มพัฒนาดีขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะจังหวะการขึ้นเกมบุกลีลาการเล่น ค่อนข้างหลากหลายทีเดียว แม้เกมนี้ ''วินนี่'' วินฟรีด เชเฟอร์ จะออกมาประกาศชัดเจนว่า จะเปิดโอกาสให้กับผู้เล่น ที่ไม่ได้ลงสนามนัดแรกลงเล่นแบบเต็มสูบ เพราะเกรดบอลของคู่แข่ง ฝีมือค่อนข้างห่าง
   
ภูฏาน :
ฮิโรอากิ มัตสุยาม่า กุนซือแดนปลาดิบ ออกมาประกาศขุนพล 16 แข้ง ที่จะบุกมาอุ่นเครื่องกับไทยแล้ว โดยแนวรุกเกมนี้เขาเตรียมวาง บิเรน ทำเกมรุกร่วมกับ นิม่า ซานกาย และใช้ห้องเครื่องอย่าง จามหยาง เทนซิน, เดวาส ,ธินลี่ย์ ดอร์จิ และจิกมี่ ชูลตริม คอยปั้นเกมแดนกลาง ส่วนแนวรับมี เปม่า, จิกมี่ เทนซิน และเปม่า รินเช่น ยืนเกมรับ

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ไทย :
ไทย (4-4-2) : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ; เจษฏากร เหมแดง, ชลทิตย์ จันทคาม, นิเวส ศิริวงค์, อนุชา กิจพงษ์ศรี ; พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ชนาธิป สรงกระสินธ์, อรรถพงศ์ หนูพรหม, อาทิตย์ สุนทรพิธ ; สุรชาติ สารีพิมพ์, ธนา ชะนะบุตร
เทรนเนอร์ : วินฟรีด เชเฟอร์ (เยอรมัน)
   
ภูฏาน :
ภูฏาน (3-5-2) : แฮรี่ กูรุง ; เปม่า, จิกมี่ เทนซิน, เปม่า รินเช่น ; จามหยาง เทนซิน, เดวาส , คาร์ม่า เชดรุ๊ป, ธินลี่ย์ ดอร์จิ, จิกมี่ ชูลตริม ; บิเรน, นิม่า ซานกาย
เทรนเนอร์ : ฮิโรอากิ มัตสุยาม่า (ญี่ปุ่น)

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

ศักยภาพและลีลาการเล่นของนักเตะไทย เหนือชั้นกว่าแข้งภูฏาน หลายชั้นนัก และเกมนี้ไม่ว่า วินนี่ จะตัดสินใจส่งใครลงสนามก็ระดับตัวจริงไทยลีกทั้งสิ้น อีกทั้งจะเปิดเกมบุกเข้าใส่แบบเต็มพิกัดอย่างแน่นอน เพื่อหวังเรียกความมั่นใจและเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ มองเหลี่ยมไหนก็เหนือกว่า อาคันตุกะบานเบอะ ซึ่งถ้ายิงไม่ถึงครึ่งโหลถือว่าล้มเหลว งานนี้ต่อไทยเต็มที่เลย
 

35
เชลซี - ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 11 พฤศจิกายน 2555
เวลา : 23:00 น.
ถ่ายทอดสด : ช่อง 3



เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

เชลซี :
สิงโตน้ำเงินคราม ของกุนซือ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ หวังเรียกความเชื่อมั่นคืนกลับมาจากแฟนๆให้ได้ หลังต้องเสียบัลลังก์จ่าฝูงไปในสัปดาห์ก่อน เพราะทำได้แค่เสมอ สวอนซี 1-1 ก่อนจะเชือด ชัคเตอร์ 3-2 ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์
ความพร้อมก่อนบิ๊กแมตช์ซูเปอร์ซันเดย์อาทิตย์นี้ ข่าวร้ายคือ เชลซี ยังต้องอดใช้งานดาวรุ่ง แอชลี่ย์ โคล ต่อไป หลังจากที่แบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า จนพลาดเกมยุโรปเมื่อกลางสัปดาห์มาแล้ว โดย ดิ มัตเตโอ หวังให้เจ้าตัวฟิตกลับมาได้ในเกมเยือน เวสต์บรอมวิช

จอห์น เทอร์รี่ กองหลังกัปตันทีม ก็พร้อมแล้วที่จะกลับมาประจำการในแนวรับอีกครั้ง หลังจากที่พ้นโทษแบนกลับมา และไม่ได้มีส่วนร่วมกับเพื่อนๆ ในเกมกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด มิดฟิลด์จอมเก๋ายังชวดในคืนนี้ด้วย ดิ มัตเตโอ หวังคว้าชัยเพื่อเพิ่มโอกาส ในการลุ้นกลับมาทวงตำแหน่งแชมป์ต่อไป โดยพร้อมจัดสตาร์ดังลงสนามพร้อมหน้าพร้อมตา ทั้ง ฆวน มาต้า, ออสการ์, เอแด็น อาซาร์ และ เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าที่พร้อมฉะทีมเก่า
   
ลิเวอร์พูล :
หงส์แดง ภายใต้การดูแลของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ต้องการกู้หน้ากลับมา หลังจากที่ทำได้แค่เสมอ นิวคาสเซิ่ล 1-1 ในพรีเมียร์ลีก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนออกไปโดน อันจิ เฉือด 1-0 ใน ยูโรปา ลีก เกล็น จอห์นสัน ฟูลแบ็กทีมชาติอังกฤษ ฟิตเต็มที่เตรียมกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง ในการเยือนทีมเก่าของตัวเอง หลังหายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าแล้ว

ขณะที่มือกาว โฆเซ่ เรน่า โชว์พัฒนาการที่ดีให้เห็นว่า อาการเจ็บบริเวณเดียวกันดีขึ้นมาก และยังไม่ถูกปิดโอกาสในการลงเล่นเสียทีเดียว แม้เป้าหมายที่ดูมีความเป็นไปได้มากกว่า น่าเป็นเกมกับ วีแกน สัปดาห์หน้าก็ตาม ร็อดเจอร์ส เตรียมรวบรวมดาวเตะตัวหลักคืนทีมอีกครั้ง หลังจากที่ให้พักหลายรายในเกม ยูโรปา ลีก ทั้งกัปตันทีม สตีเว่น เจอร์ราร์ด และหัวหอกตัวความหวัง หลุยส์ ซัวเรซ รวมถึงยอดดาวรุ่ง ราฮีม สเตอร์ลิง

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เชลซี :
(4-2-3-1) : ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, ไรอัน เบอร์ทรานด์ - จอห์น โอบี มิเคล, รามิเรส - ฆวน มาต้า, ออสการ์, เอแด็น อาซาร์ - เฟร์นานโด ตอร์เรส
   
ลิเวอร์พูล :
(4-2-3-1) : โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดเนียล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ - สตีเว่น เจอร์ราร์ด, โจ อัลเลน - ซูโซ่, นูริ ซาฮิน, ราฮีม สเตอร์ลิง - หลุยส์ ซัวเรซ

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

ทัพสิงห์บูลส์ ต้องการไล่ล่าหาแต้มให้ได้มากที่สุด เมื่อ แมนฯยูฯ เก็บชัยได้ในเกมวันเสาร์ที่ผ่านมา เทียบตัวผู้เล่นแล้วต้องบอกว่าเจ้าถิ่นแข็งแกร่งและพร้อมมากกว่า ขณะที่ ลิเวอร์พูล ยังมีปัญหาในแนวรับอยู่ เมื่อต้องออกนอกรัง ดูแล้วเจ้าถิ่นเดินเครื่องบดกดดันแน่ เชื่อว่าสุดท้ายแล้วความเด็ดขาดมากกว่าของ เชลซี น่าจะพาทีมคว้าชัยได้ในที่สุด

36
แมนฯ ซิตี้ - สเปอร์ส (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 11 พฤศจิกายน 2555
เวลา : 20:30 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1



เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

แมนฯ ซิตี้ :
เรือใบสีฟ้า แชมป์เก่าของกุนซือ โรแบร์โต้ มันชินี่ หวังไล่ล่าชัยเพื่อกระชากตัวเอง กลับมาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะอีกครั้ง หลังทำได้แค่เสมอกับ เวสต์แฮม ในพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุด 0-0 และยังเสมอ อาแจ็กซ์ 2-2 ในแชมเปี้ยนส์ ลีก จนโอกาสเข้ารอบต่อไปริบหรี่

สำหรับการเปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม รับ สเปอร์ส ในเกมพรีเมียร์ลีกวันอาทิตย์นี้ มีรายงานว่า สามสตาร์ดัง โจลีออน เลสค็อตต์, ไมคอน และ ดาบิด ซิลบา ต่างหวังอยากกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้ง กองหลัง เลสค็อตต์ (หลัง) และแบ็กขวา ไมคอน (เท้า) ที่เป็นตัวสำรองได้ในเกมยุโรปเมื่อมิดวีก รวมถึงเพลย์เมกเกอร์ตัวเก่ง ซิลบา (เอ็นหลังหัวเข่า) ต่างกลับมาอยู่ในการพิจารณาอีกครั้ง หลังเจ็บไปพักเล็กๆ

อย่างไรก็ดี กองหลัง ไมกาห์ ริชาร์ดส์ (หัวเข่า) และกองกลาง เจมส์ มิลเนอร์ กับ แจ็ค คอร์ก (เอ็นหลังหัวเข่าทั้งคู่) ยังอยู่บนรายชื่อนักเตะบาดเจ็บ มันโช่ อาจให้พวกที่เพิ่งฟิตกลับมา เริ่มต้นด้วยการนั่งสำรองไปก่อน แต่สตาร์ดังรายอื่นๆ ต่างพร้อมลุยทั้ง คาร์ลอส เตเวซ, เซร์คิโอ อเกวโร่, ซามีร์ นาสรี่, ยาย่า ตูเร่ และ แว็งซ็องต์ ก็องปานี กัปตันทีม

สเปอร์ส :
ไก่เดือยทอง จากการทำงานของกุนซือหนุ่ม อันเดร วิลลาช-โบอาช กู้หน้ากลับคืนจากการโดน วีแกน บุกหั่น 1-0 ในพรีเมียร์ลีก ก่อนที่จะเปิดบ้านซัด มาริบอร์ 3-1 ในยูโรปา ลีก วิลลาช-โบอาช ออกมาเผยว่า ยังมีโอกาสที่ ซานโดร กองกลางตัวรับทีมชาติบราซิล จะฟิตพร้อมกลับมาปักหลักกลางสนามได้ ในการเยือนรังแชมป์เก่า

ขณะเดียวกัน เอวีบี ยังต้องตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่า จะยึด อูโก้ โยริส ให้เป็นนายทวารมือหนึ่งต่อ หรือเรียกตัวจอมเก๋า แบรด ฟรีเดล กลับมา รวมถึงเรื่อง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ จะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในเกมลีกครั้งแรก ในการดวลทีมเก่าหรือไม่
แต่สำหรับ มูสซ่า เดมเบเล่ (สะโพก), สกอตต์ พาร์เกอร์ (เอ็นร้อยหวาย), เบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้ และ ยูเนส กาบุล (หัวเข่าทั้งคู่) ต่างยังไม่พร้อม วิลลาช โบอาช จะจัดทัพชุดเก่งลงลุย นำโดย เจอร์เมน เดโฟ กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ที่เพิ่งระเบิดแฮตทริกใส่ มาริบอร์

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

แมนฯ ซิตี้ :
(4-2-3-1) : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, มาติย่า นาสตาซิช, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ - แกเร็ธ แบร์รี่, ฆาบี การ์เซีย - ซามีร์ นาสรี่, ยาย่า ตูเร่, คาร์ลอส เตเวซ - เซร์คิโอ อเกวโร่
   
สเปอร์ส :
(4-2-3-1) : แบรด ฟรีเดล - ไคล์ วอล์คเกอร์, วิลเลี่ยม กัลลาส, สตีเว่น คอลเกอร์, แยน แฟร์ต็องเก้น - ซานโดร, ทอม ฮัดเดิลสตัน - อารอน เลนน่อน, คลินท์ เดมพ์ซี่ย์, แกเร็ธ เบล - เจอร์เมน เดโฟ

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

แมนฯ ซิตี้ ต้องกลับมาเน้นเพื่อโชว์ผลงานเต็มที หลังคู่ปรับ แมนฯ ยูฯ สะสมแต้มหนีห่างไป 5 คะแนนแล้ว เกมนี้ดูข่มกว่า สเปอร์ส ผู้มาเยือนค่อนข้างเยอะ แต่อย่าลืมว่าช่วงหลังลูกทีมของ มันชินี่ ผลงานไม่ดีนัก ยิงได้ไม่ค่อยเยอะและยิงไม่ขาด ขณะที่ ทีมไก่เดือยทอง ก็ยังมีทีเด็ดในแนวรุกอยู่ เชื่อว่าเจ้าถิ่นถ้าชนะ แฟนๆคงต้องลุ้นจนตัวโก่ง หรือผลอาจออกเสมอได้เลย

37
แอสตัน วิลล่า - แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 10 พฤศจิกายน 2555
เวลา : 00:30 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 3


เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

แอสตัน วิลล่า :
สิงห์ผงาด ของกุนซือสกอตติช พอล แลมเบิร์ต หยุดสถิติไม่ชนะใครเลยในพรีเมียร์ลีกไว้ที่ห้านัด ด้วยการแก้ตัวบุกไปเฉือด ซันเดอร์แลนด์ 1-0 ในนัดที่แล้ว ความพร้อมก่อนเปิด วิลล่า พาร์ค รับจ่าฝูงวันเสาร์นี้ มีข่าวดีเมื่อ กุนซือชาวสกอตติช จะได้ตัว เคริม เอล อาห์มาดี้ กองกลางตัวรับพ้นโทษแบนหนึ่งนัด กลับมาเป็นตัวเลือกให้เรียกใช้อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม เอริก ลิกฮาจ์ กองหลังอเมริกัน กลายเป็นคนติดโทษแบนสวนทางไป หลังสะสมใบเหลืองครบห้าใบในฤดูกาลนี้ตั้งแต่เกมกับ แมวดำ ส่วน โจ เบนเน็ตต์ แบ็กซ้ายอีกราย ยังไม่แน่ว่า จะหายจากอาการเจ็บหัวเข่าได้หรือไม่ ทำให้ เอ็นด้า สตีเว่นส์ ลุ้นได้ลงสนามโชว์ฝีเท้า แต่กองหน้า ดาร์เรน เบนท์ ชวดบู๊คืนนี้แน่ๆ เพราะเจ็บข้อเท้า โดยเชื่อว่า แลมเบิร์ต คงยึดทีมชุดที่ชนะ แมวดำ เป็นแกนหลักต่อไป นำทีมโดยคู่กองหน้า คริสเตียน เบนเตเก้ กับ กาเบรียล อักบอนลาฮอร์   
   
แมนฯ ยูไนเต็ด :
ปีศาจแดง ของกุนซือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หวังรักษาบัลลังก์จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกต่อไปให้ได้ หลังจากที่นัดก่อนเปิดบ้านเอาชนะ อาร์เซน่อล 2-1 ก่อนบุกไปชนะ บราก้า 3-1 จนคว้าตั๋วเข้ารอบ 16 ทีม แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อมิดวีก

อย่างไรก็ตาม ในการเยือน วิลล่า พาร์ค วันเสาร์นี้ จ่าฝูงต้องรอลุ้นว่าจะมี จอนนี่ อีแวนส์ ปราการหลังตัวเก่งให้เรียกใช้งานหรือไม่ โดยดาวเตะชาวไอร์แลนด์เหนือ มีอาการเจ็บโคนขาหนีบ และต้องรอเช็กความฟิตอีกครั้ง ซึ่งหากไม่ไหว คริส สมอลลิ่ง ที่เพิ่งฟิตเตรียมลงเล่นนัดที่สองในรอบสี่วัน

ส่วน หลุยส์ นานี่ (เอ็นหลังหัวเข่า) ตามไปสมทบร่วมกันเจ็บ ชินจิ คางาวะ, ฟิล โจนส์ และ เนมานย่า วิดิช (หัวเข่าทั้งหมด) ในห้องพยาบาล นอกเหนือจากนั้น ถือว่า เฟอร์กูสัน มีทัพใหญ่แข้งเทพหลายตัวให้เลือกใช้งาน บรรดาตัวหลักที่ได้พักเป็นสำรองในเกมยุโรปกลางสัปดาห์ พร้อมกลับสู่ทีมช่วยกันบู๊อีกครั้ง ทั้ง ราฟาเอล ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, แอชลี่ย์ ยัง และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่เตรียมผนึกกำลังกับ เวย์น รูนี่ย์ เช่นเดิม 

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

แอสตัน วิลล่า :
(4-1-3-2) : แบรด กูซาน - แม็ทธิว ลอว์ตัน, รอน ฟลาร์, เคียแรน คล้าร์ก, โจ เบนเน็ตต์ (เอ็นดา สตีเว่นส์) - คาริม เอล อาห์มาดี้ - อันเดรียส ไวมันน์, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, แบร์รี่ แบนแนน - กาเบรียล อักบอนลาฮอร์, คริสติย็อง เบนเตเก้
   
แมนฯ ยูไนเต็ด :
(4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - ราฟาเอล ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอนนี่ อีแวนส์ (คริส สมอลลิ่ง), ปาทริซ เอวร่า - ไมเคิ่ล คาร์ริค, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, เวย์น รูนี่ย์, แอชลี่ย์ ยัง - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังร้อนแรงมั่นใจ และโชว์ผลงานได้สุดยอด แพ้นอกบ้านแค่นัดเดียวในลีกฤดูกาลนี้ นอกจากนี้ สถิติที่วิลล่า พาร์ค ยังแจ่มสุดๆ เมื่อไม่แพ้เลยใน 16 นัด หลังรวมทุกรายการ ส่วนเจ้าบ้าน มีปัญหาชัดเจนที่เกมรุก ที่ยิงได้แค่เก้าลูกจาก 10 นัดในลีก ผิดกับ ปีศาจแดง ที่มีแข้งดาวรุ่งมากมาย รวมทั้ง ฟาน เพอร์ซี่ ซึ่งกำลังฟอร์มฮอตสุดๆ เกมรับของทีมอาจเปราะบาง ทว่าเกมรุกร้ายกาจน่ากลัวไม่น้อยทีเดียว คืนนี้ไม่น่าพลาดเก็บสามแต้มอย่างแน่นอน

38
อาร์เซน่อล - ฟูแล่ม (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 10 พฤศจิกายน 2555
เวลา : 22:00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1



เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

อาร์เซน่อล :
ปืนใหญ่ ของกุนซือ อาร์แซน เวนเกอร์ ในการเปิด เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ทำศึกลอนดอนดาร์บี้กับ เจ้าสัวน้อย ในคืนนี้ เขาหวังที่จะพาทีมกลับมาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะให้ได้ หลังจากที่เสียหน้าหลายนัดมาแล้ว โดยในลีกนัดล่าสุดโดน แมนฯ ยูไนเต็ด ไล่ต้อน 2-1 ก่อนออกไปทำได้แค่เสมอ ชาลเก้ 2-2 ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก

สำหรับเกมคืนนี้ ปืนใหญ่ ต้องปราศจาก แจ็ค วิลเชียร์ กองกลางตัวเก๋าอย่างแน่นอน เพราะโทษแบนจากใบแดงในเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มือกาวดาวรุ่ง วอยเชียค เชสนี่ ใกล้ฟิตหายเจ็บข้อเท้ากลับมาแล้ว แต่อย่างดีสุดคงเป็นได้แค่สำรองไปก่อน ขณะที่มิดฟิลด์ อารอน แรมซี่ย์ (โคนขาหนีบ) และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน (สะโพก) ยังต้องรอทดสอบความฟิตในนาทีสุดท้าย ส่วนปีก แชร์วินโญ่ (ข้อเท้า), แบ็กซ้าย คีแรน กิ๊บบ์ส (ต้นขา), กองกลาง อาบู ดิยาบี้ (ต้นขา) และเพลย์เมกเกอร์ชาวเช็ก โทมัส โรซิชกี้ (เอ็นหลังหัวเข่า) ต่างอยู่ระหว่างการฟื้นฟูสภาพร่างกายเพื่อคืนความฟิต ขณะที่สามประสานแนวรุกนำเข้า ต่างพร้อมลุยเช่นเดิมทั้ง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, ซานติ กาซอร์ล่า และ ลูคัส โพดอลสกี้   
   
ฟูแล่ม :
เจ้าสัวน้อย ของกุนซือดัตช์ มาร์ติน โยล ไล่บดเอาผลเสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 2-2 และเวลานี้ มีแต้มน้อยกว่า อาร์เซน่อล แค่คะแนนเดียวเท่านั้น สำหรับเกมไปเยือน ปืนใหญ่ คืนนี้ โยล กำลังรอปาฎิหาริย์ให้ มาอามาดู ดิยาร์ร่า กองกลางขาบู๊ เรียกความฟิตกลับมาช่วยทีมได้ทันเวลา กุนซือดัตช์ ได้เช็คสภาพความฟิตของอดีตดาวเตะ เรอัล มาดริด ไว้ที่ 50-50 ในการสลัดอาการเจ็บหัวเข่ากลับมาให้ได้ แต่สำหรับอาการของ ไซม่อน เดวิส มิดฟิลด์อีกราย ยังต้องรักษาอาการเจ็บสะโพก ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ กองหน้าชาวบัลแกเรีย ที่ย้ายมาจาก แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมรับหน้าที่ตัวเป้าเช่นเดิม โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง อเล็กซ์ คาคานิคลิช, ไบรอัน รุยซ์ และ เดเมี่ยน ดัฟฟ์

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

อาร์เซน่อล :
(4-2-3-1) : วีโต้ มานโนเน่ - บาการี่ ซาญ่า, แพร์ แมร์เตซัคเคอร์, โธมัส แฟร์มาเล่น, อังเดร ซานโต๊ส - มิเคล อาร์เตต้า, อารอน แรมซี่ย์ (ฟร็องซิส โกเกอแล็ง) - ธีโอ วัลค็อตต์, ซานติ กาซอร์ล่า, ลูคัส โพดอลสกี้ - โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
   
ฟูแล่ม :
(4-2-3-1) : มาร์ค ชวาร์เซอร์ - ชาช่า รีเธอร์, อารอน ฮิวจ์ส, เบรเด้ ฮันเกลันด์, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ - คริส แบร์ด, มาอามาดู ดิยาร์ร่า (สตีฟ ซิดเวลล์) - เดเมี่ยน ดัฟฟ์, ไบรอัน รุยซ์, อเล็กซานเดอร์ คาคานิคลิช - ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

เกมคืนนี้ดูแล้ว น่าจะสูสีมากกว่า เหมือนสถานการณ์บนตาราง และในฐานะดาร์บี้แมตช์ อย่างไรก็ดี ปืนใหญ่ ก็ทำผลงานได้น่าลุ้นได้ดีกว่า เมื่อได้เล่นในบ้าน ขณะที่ เจ้าสัวน้อย ยังไม่แพ้เลยในสี่เกม แต่ก็เสมอสองนัดหลัง และฟอร์มนอกบ้าน ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ ทว่ามักมีประตูเกิดขึ้นเยอะเสมอ โดยห้านัดหลังสุดมีถึง 21 เม็ด สุดท้าย ปืนใหญ่ คงใช้แดนกลางตัวเก่งที่ลื่นไหล เซตบอลเข้าทำแล้วเชือดแบบหวุดหวิด
 

39
เชลซี - ชัคเตอร์ โดเนทส์ค (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก)
วันที่ : 07 พฤศจิกายน 2555
เวลา : 02:45 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต1



เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

เชลซี :
สิงห์บลูส์ ของกุนซือชาวอิตาเลียน โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ เกมนี้ยังชวดใช้งาน แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่ยังบาดเจ็บ แถมยังต้องรอเช็กความฟิตของ ดาวิด ลุยซ์ กับ ฆวน มานูเอล มาต้า ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน แต่คาดว่าน่าหายทันช่วยทีมบุ๊คืนนี้ ขณะที่ จอห์น เทอร์รี่ ที่ติดโทษแบนในเกมลีกกลับมามีชื่ออีกครั้ง แต่ยังอาจเป็นเพียงสำรองเท่านั้น ที่เหลือไม่มีปัญหาเพิ่มเติม ออสการ์, เอแด็น อาซาร์ และมาต้า จะลงปั้นเกมสนับสนุน เฟร์นานโด ตอร์เรส ในแนวรุก
   
ชัคเตอร์ โดเนทส์ค :
มีร์เซีย ลูเชสคู กุนซือชาวโรมาเนีย ขนขุมกำลัง 20 นักเตะบินสู่ลอนดอน แต่คืนนี้ไม่มีชื่อของ โอเล็กซี่ ไก ที่ต้องพักยาว รวมถึง เซอร์เก ครีฟตอฟ ก็ไม่ถูกเรียกติดทีมมาด้วย ที่เหลือเตรียมรบเต็มที่ โดย อังเดร ปิยาตอฟ, โทมัส ฮุบช์มัน และ เฮนริค มคิทาร์ยาน ที่ได้พักมาในเกมลีกล่าสุด พร้อมกลับมาออกสตาร์ตเป็นตัวจริงทั้งหมด


รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เชลซี :
(4-2-3-1) : ปีเตอร์ เช็ก ; บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, ดาวิด ลุยซ์, แอชลี่ย์ โคล ; รามิเรส, จอห์น โอบี มิเคล ; ฆวน มาต้า, ออสการ์, เอแด็น อาซาร์ ; เฟร์นานโด ตอร์เรส
   
ชัคเตอร์ โดเนทส์ค :
(4-2-3-1) : อังเดร ปิยาตอฟ ; ดาริโย เซอร์น่า, โอเล็กซานเดอร์ คูเชอร์, ยาโรสลาฟ ราคิตสกี้, ราซวาน รัต ; แฟร์นานดินโญ่, โทมัส ฮุบช์มัน ; อเล็กซ์ เตเซยร่า, เฮนริค มคิทาร์ยาน, วิลเลี่ยน ; หลุยซ์ อาเดรียโน่


วิจารณ์เกมการแข่งขัน

เชลซี พ่ายแพ้มาในนัดก่อน ทำให้สถานการณ์ต้องเล่นแบบกดดัน ขณะที่ ชัคเตอร์ โดเนทส์ค หากนัดนี้บุกมาเก็บชัยได้ ก็จะผ่านเข้ารอบทันที แต่ดูแล้วคงไม่เสี่ยงเปิดแลกซักเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามทีมเยือนยังมีทีเด็ดสวนกลับที่อันตราย เกมนี้น่าบุกมายันแบ่งแต้มออกไปได้
 

40
บราก้า - แมนฯ ยูไนเต็ด (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก)
วันที่ : 07 พฤศจิกายน 2555
เวลา : 02:45 น.
ถ่ายทอดสด : ข่อง9



เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

บราก้า :
โชเซ่ เปเซยโร่ กุนซือใหญ่ของบราก้า นัดก่อนพาทีมออกไปพ่ายต่อ ปีศาจแดง มาแบบเฉียดฉิว 2-3 เกมนี้ได้แก้ตัวกลับมาเล่นในบ้าน แต่ข่าวร้ายจะไม่มีทั้ง เปาโล วินิซิอุส เซนเตอร์แบ็ก, อิสมายลี่ แบ็กซ้าย, เปาโล เซซาร์ กองหน้าตัวเป้า และ ฌามาล มาอามัต มิดฟิลด์ทีมชาติลิเบีย ที่บาดเจ็บทั้งหมด แต่ยังมีข่าวดีคือ ดั๊กเลา ฟูเรยร่า จะฟิตกลับมาคุมแนวรับคู่ นูโน่ โคเอลโญ่ ส่วนแข้งตัวหลักที่เหลือ พร้อมเต็มที่ลงสนามนำทีมโดย รูเบน อโมริม, อลัน โอโซริโอ และ รูเบน มิคาเอล จะเป็น 3 แนวรุกคอยปั้นเกมให้ เอแดร์ โลเปส จบสกอร์
   
แมนฯ ยูไนเต็ด :
ปีศาจแดง ของกุนซือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พาทีมไล่คว้าชัยเก็บ 9 คะแนนเต็มจาก 3 เกมแรกของรอบแบ่งกลุ่ม ข่าวร้ายของนัดนี้ยังคงไม่มี เนมานย่า วิดิช กองหลังกัปตันทีม, ชินจิ คางาวะ จอมทัพญี่ปุ่น และ ฟิล โจนส์ ที่เจ็บอยู่ก่อนแล้ว ส่วน
คริส สมอลลิ่ง แม้จะกลับลงมาซ้อมกับเพื่อนๆได้แล้ว แต่ยังไม่น่าฟิตพอจะได้เล่นในเกมนี้ จะมีการพักตัวหลักๆอย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, เวย์น รูนี่ย์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ริโอ เฟอร์ดินานด์ หรือกระทั่งนายทวาร ดาบิด เด เคอา เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวสำรองอย่าง ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ, แดนนี่ เวลเบ็ค, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ และ อันเดอร์ส ลินเดการ์ด ได้โอกาสลงสนาม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

บราก้า :
(4-2-3-1) : เบโต้ ปิมปาเรล; เลอันโดร ซาลิโน่, ดั๊กเลา ฟูเรยร่า, นูโน่ โคเอลโญ่, อูวา เอลแดร์สัน; คุสโตดิโอ คาสโตร, อูโก้ วิอาน่า; รูเบน อโมริม, อลัน โอโซริโอ, รูเบน มิคาเอล; เอแดร์ โลเปส
   
แมนฯ ยูไนเต็ด :
(4-4-2) : อันเดอร์ส ลินเดการ์ด; มาร์นิค แฟร์ไมล์, สกอตต์ วูตตัน, จอนนี่ อีแวนส์, อเล็กซานเดอร์ บุทท์เนอร์; หลุยส์ นานี่, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, อันแดร์สัน, ไรอัน กิ๊กส์; ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ, แดนนี่ เวลเบ็ค

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

บราก้า เริ่มกลับมาโชว์ฟอร์มดีอีกครั้ง เมื่อชนะในลีกมา 2 เกมติดต่อกัน แต่การต้องเจอกับทีมสุดหินอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่กำลังมั่นใจและร้อนแรงจากผลงานช่วงหลัง ดูแล้วนัดนี้น่าจะพอสูสี และจบด้วยการแบ่งแต้มกันไป

41
แมนฯ ยูไนเต็ด - อาร์เซน่อล (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 03 พฤศจิกายน 2555
เวลา : 19:45 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1



เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

แมนฯ ยูไนเต็ด :
ปีศาจแดง ของสุดยอดกุนซือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ล่าคว้าชัยจนเหลือคะแนนห่างกับจ่าฝูง เชลซี เพียงแค่แต้มเดียว หลังจากที่บุกไปชนะในพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์ที่แล้ว 3-2 ก่อนโดนชำระแค้น 5-4 หลังต่อเวลาพิเศษเกม แคปปิตอล วัน คัพ ในการกลับมาเฝ้ารัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้อนรับ อาร์เซน่อล วันเสาร์นี้ เฟอร์กูสัน ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติมจากเดิม หลังฉะกับ สิงโตน้ำเงินคราม สองนัดในรอบสัปดาห์
 
แต่ คริส สมอลลิ่ง กองหลังตัวเก่ง ยังอยู่ระหว่างเรียกความฟิตกลับคืน จากอาการกระดูกเท้าแตก แต่ก็ยังไม่พร้อมสำหรับวันเสาร์นี้ เช่นเดียวกับนักเตะที่ยังเจ็บอยู่อย่าง ฟิล โจนส์ (หัวเข่า), เนมานย่า วิดิช (หัวเข่า) และกองกลาง ชินจิ คางาวะ (หัวเข่า) เฟอร์กี้ พร้อมจัดทัพชุดใหญ่ไปเยือน เดอะ บริดจ์ โดยเรียกพวกที่ได้พักในเกมกลางสัปดาห์ คืนทีมมาบู๊อีกครั้งทั้ง ดาบิด เด เคอา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอวร่า, จอนนี่ อีแวนส์ ในแนวรับ ไมเคิ่ล คาร์ริค กับ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ จะกลับมาดูแลห้องเครื่อง โดยมี อันโตนิโอ วาเลนเซีย กับ แอชลี่ย์ ยัง ลากเลื้อยทางกราบป้อนให้กองหน้า เวย์น รูนี่ย์ กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่จะต้องเผชิญหน้าทีมเก่าครั้งแรก
   
อาร์เซน่อล :
ทางฝั่ง ปืนใหญ่ ของกุนซือชาวฝรั่งเศส อาร์แซน เวนเกอร์ โชว์ฟอร์มฮึดตีเสมอ เร้ดดิ้ง ก่อนเอาชนะแบบสุดมันส์ 7-5 ในช่วงต่อเวลาพิเศษของศึก แคปปิตอล วัน คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา การมาเยือนรัง ผีแดง นัดนี้ เวนเกอร์ ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติมเช่นกัน โดยขุมกำลังตัวเก่งที่เล่นในเกมพรีเมียร์ลีกที่เชือด คิวพีอาร์ 1-0 ช่วงสุดสัปดาห์ พร้อมเป็นตัวเลือกเช่นเดิม แจ็ค วิลเชียร์ กองกลางตัวเก่ง และ บาการี่ ซาย่า แบ็กขวาดาวรุ่งทีมชาติฝรั่งเศส ที่หายจากอาการบาดเจ็บยาวกลับมา และได้พักเมื่อมิดวีก พร้อมคืนสู่ทัพชุดแรกอีกครั้ง หลังได้พักที่ มาเดจสกี้ สเตเดี้ยม แต่ในรายของ ธีโอ วัลค็อตต์ ยังส่อแวว ต้องนั่งเป็นตัวสำรอง แม้เพิ่งระเบิดแฮตทริก เพราะลงเล่นไป 120 นาทีเต็มเมื่อมิดวีก
 
อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด แชมเบอร์เลน (สะโพก) ยังต้องรอเช็คความฟิตก่อน แต่ปีก แชร์วินโญ่ (ข้อเท้า) หมดสิทธิ์ลงสนามราวสามวีก ส่วนกองหลัง คีแรน กิ๊บบ์ส (ต้นขา), มือกาว วอยเชียจ เชสนี่ (ข้อเท้า), กองกลาง อาบู ดิยาบี้ (ต้นขา) และดาวเตะเช็ก โทมัส โรซิชกี้ (เอ็นหลังหัวเข่า) ยังชวดทั้งหมด วีโต้ มานโนเน่ มือกาวจอมเหนียวชาวอิตาเลียน จะเฝ้าเสาเป็นมือหนึ่ง ขณะที่ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ จอมพลังที่ลงมาพลิกเกมกับ เร้ดดิ้ง พร้อมออกสตาร์ตเป็นตัวจริงตั้งแต่นาทีแรก เช่นเดียวกับ ซานติ กาซอร์ล่า และ ลูคัส โพดอลสกี้

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

แมนฯ ยูไนเต็ด :
(4-4-1-1) : ดาบิด เด เคอา - ราฟาเอล ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอนนี่ อีแวนส์, ปาทริซ เอวร่า - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, แอชลี่ย์ ยัง - เวย์น รูนี่ย์ - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
   
อาร์เซน่อล :
(4-2-3-1) : วีโต้ มานโนเน่ - บาการี่ ซาย่า, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, โธมัส แฟร์มาเล่น, อันเดร ซานโต๊ส - มิเคล อาร์เตต้า, แจ็ค วิลเชียร์ - อารอน แรมซี่ย์, ซานติ กาซอร์ล่า, ลูคัส โพดอลสกี้ - โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

แมนฯ ยูไนเต็ด เรียกขุมกำลังตัวหลักๆคืนทัพ และได้เล่นในบ้านของตัวเอง เตรียมพร้อมรออัด อาร์เซน่อล ขณะที่สถิติไม่เป็นใจให้ทีมเยือนเลย เมื่อแพ้ถึงห้าจาการพบกันหกครั้งหลังในพรีเมียร์ลีก แถมสถิติใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็แพ้ถึงสี่จากห้าหนหลังที่มาเยือน และ เร้ด อาร์มี่ คงเสียประตูอีก ทว่าก็ต้องงัดเอาไม้ตาย เพื่อจะใช้ในเกมรุกทีเฉียบคมกว่า ไล่ยิงเอาชนะไปแบบหืดจับเหมือนเคย เกมนี้สูสีเดายาก คงต้องลุ้นเจ้าบ้านที่สถิติดีกว่า

42
สวอนซี - เชลซี (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 03 พฤศจิกายน 2555
เวลา : 22:00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1



เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

สวอนซี :
หงส์ขาว ของกุนซือ เดนส์ ไมเคิ่ล เลาดรู๊ป ได้กู้หน้าจากการโดน แมนฯ ซิตี้ เชือด 1-0 ในพรีเมียร์ลีก ด้วยการออกไปถล่มลิเวอร์พูล 3-1 ในศึกแคปปิตอล วัน รอบสี่ เมื่อมิดวีกที่ผ่านมา โดยเกมนี้ เลาดรู๊ป ให้โอกาสกับ ชิโก้ ฟลอเรส กองหลังตัวเก่ง ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความฟิตเต็มที่ ก่อนเกมกับ เชลซี หลังเจ็บขามาจากแอนฟิลด์ โดยหากไม่ไหวจริงๆ แกร์รี่ มังค์ หรือ อลัน เทต จะเข้ามาเสียบแทน
 
แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์ ดาวเตะชาวเวลส์ จะเป็นผู้นำทัพในฐานะกัปตันทีมต่อไป แม้เขาจะยังมีอาการเจ็บข้อเท้า ขณะที่นายถวารมือหนึ่ง มิเชล ฟอร์ม (โคนขาหนีบ), นีล เทย์เลอร์ (ข้อเท้าหัก) และ ไคล์ บาร์ทลี่ย์ (ต้นขา) ยังวืด เลาดรู๊ป เตรียมดัน มิชู กองกลางชาวสแปนิช ขึ้นไปเล่นเกมรุกเต็มตัวต่อไป ส่วน เวย์น เราท์เล็ดจ์ ก็พร้อมกลับมายึดตำแหน่งตัวจริงอีกครั้ง ทำให้ เนธาน ดายเออร์ ต้องกลับไปนั่งสำรอง
   
เชลซี :
สิงโตน้ำเงินคราม ทีมหัวตารางของกุนซือ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ หวังเรียกคะแนนกลับคืนมาจากแฟนๆ ให้ได้ หลังจากที่โดนแมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาเชือดแบบน่าเจ็บใจ 3-2 ในพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุด แม้จะแก้แค้นได้สำเร็จในถ้วยแคปปิตอล วัน คัพที่ซัด 5-4 หลังเสมอกัน 3-3 ในช่วงเวลาปกติช่วงกลางสัปดาห์ก็ตาม
 
อย่างไรก็ดี ในการเยือน ลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม วันคืนเสาร์นี้ ดิ มัตเตโอ ส่อแววชวดใช้งานสองดาวเด่นอย่าง ฆวน มาต้า และ ดาวิด ลุยซ์ หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บ จากเกมฟุตบอลถ้วยเมื่อกลางสัปดาห์ มาต้า (เอ็นหลังหัวเข่า) และ ลุยซ์ (ข้อเท้า) ลงเล่นไป 120 นาทีเต็มในนัดดังกล่าว ทำให้นัดนี้อาจต้องพัก ขณะที่ผู้เล่นตัวหลักหลายราย ที่พลาดเกมเมื่อมิดวีก เตรียมพร้อมกลับมาช่วยบู๊เต็มที่ ทั้ง แอชลี่ย์ โคล ที่หายเจ็บข้อเท้าแล้ว รวมถึง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กับ เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่พ้นโทษแบนหนึ่งนัดแล้ว แต่ทางด้าน แฟร้งค์ แลมพาร์ด (น่อง) ยังชวดช่วยเพื่อนๆคืนนี้ เช่นเดียวกับเพื่อนซี้ จอห์น เทอร์รี่ กองหลังกัปตันทีมตัวจริง ที่ต้องชดใช้โทษแบนเป็นนัดสุดท้ายจากทั้งหมดสี่เกม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

สวอนซี :
(4-1-2-3) : มิเชล ฟอร์ม - อังเคล รานเคล, ชิโก้ ฟลอเรส (แกร์รี่ มังค์), แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์, เบน เดวิส - ลีออน บริตตัน - คี ซุง-ยอง, โจนาธาน เด กุซมัน - ปาโบล เอร์นานเดซ, มิชู, เวย์น เราท์เล็ดจ์
   
เชลซี :
(4-2-3-1) : ปีเตอร์ เช็ก - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, แอชลี่ย์ โคล - จอห์น โอบี มิเคล, รามิเรส - ฆวน มาต้า (วิคเตอร์ โมเซส), ออสการ์, เอแด็น อาซาร์ - เฟร์นานโด ตอร์เรส

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

เชลซี เฉียบคมเหนือชั้นกว่า แถมสถิติก็ระบุว่าไม่เคยแพ้ให้ สวอนซี เลยตั้งแต่ปี 1981 อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ใช้พลังไปเยอะมากเมื่อมิดวีก ขณะที่เจ้าบ้านก็กำลังคึกพอตัว สิงโตน้ำเงินคราม อาจชนะได้ แต่คงไม่ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก แฟนๆอาจต้องลุ้นอยู่หลายนาทีเลยทีเดียว

43
เวสต์แฮม - แมนฯ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 03 พฤศจิกายน 2555
เวลา : 00:30 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 3


เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

เวสต์แฮม :
ขุนค้อน ของกุนซือชาวอังกฤษ แซม อัลลาร์ไดซ์ กลับมาเล่นใน อัพตัน พาร์ค อีกครั้ง หลังจากที่นัดก่อนออกไปโดน วีแกน เฉือน 2-1 อย่างไรก็ตามนัดนี้ บิ๊กแซม ยังต้องอดเรียกใช้ลูกทีมจอมเก๋าทั้งหลาย ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนอีกหลายรายในการรับแชมป์เก่าวันเสาร์นี้ กีย์ เดเมล (ไส้เลื่อน) แบ็กขวาจอมลุย หมดสิทธิ์ช่วยทีมเพราะต้องพักต่อ เช่นเดียวกับกองกลาง แม็ทธิว เทย์เลอร์ (น่อง) ที่คาดว่า ต้องใช้เวลาอีกสองสัปดาห์กว่าจะฟิต ส่วน ริคาร์โด้ วาซ เท (ไหล่) และ แจ็ค คอลลิสัน (หัวเข่า) พักยาว บิ๊กแซม คงต้องหาทางจัดทีมจากขุมกำลังที่มีอยู่ลงเพื่อลงบู๊ โดยจะเน้นการโจมตีด้วยลูกโด่ง และจะฝากความหวังไว้ที่ แอนดี้ แคร์โรลล์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษ
   
แมนฯ ซิตี้ :
แชมป์เก่า เรือใบสีฟ้า ของกุนซือ โรแบร์โต้ มันชินี่ นัดนี้หวังเก็บสามแต้มเพื่อกดดันทีมหัวตารางต่อไป หลังจากนัดก่อนเปิดรังเฉือน สวอนซี 1-0 มีข่าวดีก่อนเกม เมื่อนักเตะหลายราย ฟิตเต็มที่พร้อมกลับมาเป็นตัวเลือกให้ มันโช่ อีกครั้ง ทั้งกองกลาง ฆาบี การ์เซีย และฟูลแบ็ก ปาโบล ซาบาเลต้า ที่หายเจ็บต้นขา และเอ็นหลังหัวเข่าตามลำดับ ขณะที่ เจมส์ มิลเนอร์ พ้นโทษแบนหนึ่งนัดเรียบร้อย

อย่างไรก็ตาม กองกลางอย่าง ดาบิด ซิลบา และ แจ็ค ร็อดเวลล์ (เอ็นหลังหัวเข่าทั้งคู่) ยังไม่หายดี เช่นเดียวกับแบ็กขวา ไมค่อน (เท้า) รวมถึง ไมกาห์ ริชาร์ดส์ ที่เจ็บหัวเข่าหนัก และต้องพักเป็นเดือนเลยทีเดียว แต่เกมคืนนี้ มันโช่ เตรียมพร้อมจัดขุมกำลังชุดที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ลงสนามแน่นอน นำโดย คาร์ลอส เตเวซ กองหน้าสุดเทพที่ซัดนำชัยในนัดที่แล้ว และเป็นอดีตขวัญใจสาวก แฮมเมอร์ส และ เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน โดยมี เอดิน เชโก้ กับ มาริโอ บาโลเตลลี่ เป็นตัวทีเด็ดบนม้านั่งสำรอง

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เวสต์แฮม :
(4-2-3-1) : ยุสซี่ ยาสเคไลเน่น - เจมส์ ทอมกิ้นส์, เจมส์ คอลลินส์, วินสตัน รีด, จอร์จ แม็คคาร์ทนี่ย์ - โมฮาเหม็ด ดิยาเม่, มาร์ค โนเบิล - ยอสซี่ เบนายูน, เควิน โนแลน, แม็ทธิว จาร์วิส - แอนดี้ แคร์โรลล์
   
แมนฯ ซิตี้ :
(4-2-3-1) : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, โจลีออน เลสค็อตต์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ - แกเร็ธ แบร์รี่, ฆาบี การ์เซีย - เจมส์ มิลเนอร์, คาร์ลอส เตเวซ, ซามีร์ นาสรี่ - เซร์คิโอ อเกวโร่

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

แมนฯ ซิตี้ จัดทัพมาเต็มเหนี่ยว หลังจากได้ตัวเลือกเพิ่ม แม้ เวสต์แฮม จะเล่นในบ้านได้ดุดันแข็งแกร่ง แต่ ขุนค้อน ไม่ชนะ เรือใบสีฟ้า มานานเกือบสี่ปีแล้ว เกมรุกเจ้าบ้านที่เน้นลูกโด่ง คงสร้างความปั่นป่วนให้ เรือใบ บ้าง ทว่าทีเด็ดและความหลากหลายทีมเยือนมีมากกว่า และไม่น่าพลาดเก็บสามแต้มกลับบ้านแน่นอน

44
       ก็มาเริ่มต่อกันที่เหตุผลว่าทำไมนักฟุตบอลถึงรับไม่ได้กับการเป็นตัวสำรองกันเลยนะครับ คือเมื่อคราวที่แล้วผมกล่าวไปแล้วหนึ่งเหตุผล ซึ่งก็คือ เหตุผลที่ว่าอาชีพนักฟุตบอลนั้นมันเป็นอะไรที่ค่อนข้างสั้น ส่วนเหตุผลที่สองก็คือ นักฟุตบอลส่วนใหญ่รักในการเล่นฟุตบอล และใฝ่ฝันอยากจะลงแข่งขันฟุตบอลเป็นประจำครับ จะกล่าวง่ายๆว่าการเล่นฟุตบอลของนักฟุตบอลหลายๆคนไม่ได้ขึ้นกับเงิน หรือค่าจ้างเพียงอย่างเดียวก็ว่าได้ครับ เพราะไม่อย่างนั้น นักฟุตบอลหลายๆคนที่ไม่ได้ลงเล่นแต่ได้รับค่าเหนื่อยเท่ากับตอนที่ลงเล่น ก็คงจะไม่เดือดเนื้อร้อนใจ อะไรหรอกครับ

       แล้วก็สำหรับเหตุผลต่อมาก็คือว่า นักฟุตบอลหลายๆคนต้องการโชว์ผลงานเพื่อชื่อเสียงของตนเอง เพื่อความก้าวหน้าทางอาชีพนักฟุตบอล และเพื่อโอกาสในการรับใช้ชาติ หรือโอกาสในการถูกเรียกตัวเข้าไปติดทีมชาติน่ะครับ คือมันก็คล้ายๆกันกับอาชีพอื่นๆนั้นแหละครับ ที่หากคนไหนทำงานได้ดี มีโอกาสโชว์ผลงาน ก็จะสร้างชื่อเสียงให้คนนั้นๆได้มากมาย ส่งผลให้หน้าที่การงานก้าวหน้ามากมาย เป็นที่รู้จักในวงการมากยิ่งขึ้น อะไรแบบเนี๊ยครับ ส่วนอีกเหตุผลต่อมา ก็คือว่า การที่ไม่ค่อยได้ลงเล่นสม่ำเสมอจะทำให้ขาดความคุ้นเคย หรือขาดความเคยชินในการแข่งขัน ทำให้หมดไฟได้เร็ว หรือไม่ก็ทำให้เวลากลับมาลงสนามอีกครั้งรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง จะคิดจะเล่นอะไรก็ไม่เป็นไปตามที่ต้องการน่ะครับ

        แล้วก็สำหรับเหตุผลสุดท้ายที่ทำให้นักฟุตบอลรับไม่ได้กับการเป็นตัวสำรอง ก็จะเป็นในเรื่องของการที่มีความรู้สึกแปลกๆ รู้สึกว่าไม่ใช่สิ่งที่เคยเป็น ประมาณว่าเคยลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ แต่พอมาวันนึงต้องมานั่งเป็นตัวสำรองก็เลยมีความรู้สึกแปลกจนรับไม่ได้ อะไรประมาณนี้ครับ ก็คงจะพอทำให้หลายคนได้เข้าใจ และหมดข้อสงสัยกันแล้วนะครับว่าทำไม นักฟุตบอลหลายๆคนเขาถึงรับไม่ได้ที่ต้องนั่งเป็นตัวสำรอง 

45
เรอัล บายาโดลิด - เรอัล โซเซียดาด (ลาลีกา สเปน)
วันที่ : 29 ตุลาคม 2555
เวลา : 03:30 น.



เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

เรอัล บายาโดลิด :
เรอัล บายาโดลิด น้องใหม่ไฟแรงของลีก นัดที่แล้วพ่ายต่อ มาลาก้า 1-2 อย่างหวุดหวิด แต่เกมในบ้านถือว่าทำผลงานใช้ได้ แพ้ต่อ เรอัล เบติส แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ข่าวร้ายคือ มานูโช่ กอนคัลเวส หัวหอกแองโกลา อดีตนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังติดโทษแบนหลังโดนไล่ออกในนัดที่แล้ว ทำให้หน้าเป้าตกเป็นเป็นของ ฆาบี กูเอร์ร่า โดยอัตโนมัติ ยูอิส ซาสเตร้ ยังไม่ฟิตคงต้องพักหลายสัปดาห์ทีเดียว เกมนี้หมดสิทธิ์ลงสนามแน่ แต่ยังมีข่าวดีคือ แพทริค เอแบร์ต ปีกจอมเก่งชาวเยอรมันกลับมาฟิต มีลุ้นลากเลื้อยทางกราบขวา โดยมี อัลบาโร่ รูบิโอ และ อัลเบร์โต้ บูเอโน่ พร้อมลุ้นตัวจริงต่อ
   
เรอัล โซเซียดาด :
เรอัล โซเซียดาด ทำผลงานได้ไม่เข้าตา นัดล่าสุดพ่ายต่อ เรอัล เบติส 0-2 และ แอต.มาดริด 0-1 ในสองนัดหลัง โดย 4 นัดเยือนฤดูกาลนี้ พวกเขาผลงานย่ำแย่สุดๆ ยังไม่คว้าชัยแม้แต่นัดเดียว เรอัล โซเซียดาด ยังแก้ไขจุดบกพร่องของทีมไม่สำเร็จ หนำซ้ำ เคลาดิโอ บราโบ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีม ได้รับบาดเจ็บข้อมือหักคงต้องพักอีกยาวเลยทีเดียว งานนี้ต้องเรียกใช้ เอนญาอุต ซูบิการาย รับหน้าที่เฝ้าเสาต่อไปโดยอัตโนมัติ นอกจากนั้นยังได้ ดาบิด ซูรูตูซ่า และ อิมานอล อากีร์เรตเซ่ กลับมาฟิตอีกครั้ง แนวรุกหลังแผงหน้าอันตรายทุกราย ไม่ว่าจะเป็น ชาบี ปรีเอโต้ อีกฝั่งเป็น อ็องตวน กรีซมันน์ ขณะที่ กอนซาโล่ กาสโตร มีสิทธิ์สอดแทรกเช่นกัน หน้าเป้าเตรียมวาง คาร์ลอส เวล่า เป็นตัวจริง

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เรอัล บายาโดลิด :
(4-2-3-1) : ไฆเม่ ฆิเมเนซ - อันโตนิโอ รูคาวิน่า, มาร์ก บาเลียนเต้, เอ็นริเก้ เซเรโน่, มิเกล บาเลนเซียก้า - บิคตอร์ เปเรซ, อัลบาโร่ รูบิโอ - แพทริค เอแบร์ต (อัลเบร์โต้ บูเอโน่), ออสการ์ กอนซาเลซ, โอมาร์ รามอส - ฆาบี กูเอร์ร่า
   
เรอัล โซเซียดาด :
(4-2-3-1) : เอนญาอุต ซูบิการาย - ดาเนี่ยล เอสตราด้า, อินญิโก้ มาร์ติเนซ, มิเกล กอนซาเลซ, อัลเบร์โต้ เด ลา เบย่า - อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้, มาร์เกล เบร์การ่า - ชาบี ปรีเอโต้, ดาบิด ซูรูตูซ่า, อ็องตวน กรีซมันน์ - คาร์ลอส เวล่า

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

บายาโดลิด ย้ายขึ้นมาใหม่ผลงานก็จัดว่าดี แต่กระดูกบอลยังเป็นรอง กระนั้น โซเซียดาด เป็นทีมที่ออกนอกบ้านเล่นได้แย่มาก ต่อเนื่องจากซีซั่นก่อน ยังไงคืนนี้น่าเชียร์เจ้าถิ่นมากกว่า แม้ขาดหัวหอกฟอร์มร้อนอย่าง มานูโช่ กอนคัลเวส ก็ตาม แต่เชื่อว่าคงเก็บชัยได้ในที่สุด

หน้า: 1 2 [3] 4 5