เมษายน 28, 2024, 05:19:57 AM

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - SportsNews

หน้า: 1 ... 3 4 [5]
61
แอสตัน วิลล่า - เวสต์บรอมวิช (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 30 กันยายน 2555
เวลา : 22:00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1

เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

แอสตัน วิลล่า :
สิงห์ผงาด ของกุนซือสกอตติช พอล แลมเบิร์ต โดน เซาธ์แฮมป์ตัน ถล่มยับเยิน 4-1 ในพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุด ก่อนเรียกความมั่นใจคืนจากแฟนๆ ด้วยการบุกเฉือดอดีตแชมป์พรีเมียร์ แมนฯ ซิตี้ ตกรอบ แคปปิตอล วัน คัพ ด้วยชัยชนะ 4-2 หลังต่อเวลาพิเศษ สำหรับการเปิด วิลล่า พาร์ค รับ เวสต์บรอมฯ เพื่อนบ้านในศึกดาร์บี้แมตช์วันอาทิตย์นี้ มีข่าวดีเมื่อ เบร็ตต์ โฮลมัน กองกลางออสซี่ หายเจ็บหัวเข่ากลับมาเป็นตัวเลือกได้แล้ว หลังพลาดเกม แคปปิตอล วัน คัพ ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ส่วน สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ มิดฟิลด์ไอริช ยังไม่พร้อม เพราะเจ็บกระดูกข้อมือจากเกมกับ เซาธ์แฮมป์ตัน โดยคาดกันว่า น่ากลับมาได้หลังเบรกทีมชาติ ขณะที่ฟูลแบ็กหน้าใหม่ โจ เบนเน็ตต์ เจ็บขาจากเกมกับ แมนฯ ซิตี้ และจะต้องรอให้ทีมแพทย์เช็กอาการอย่างแน่ใจอีกครั้ง ก่อนตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่า จะไหวหรือไม่ ส่วนกองหลัง ริชาร์ด ดันน์ (โคนขาหนีบ), ดาวรุ่ง แกรี่ การ์ดเนอร์ (เอ็นหัวเข่า) และปีก มาร์ค อัลไบรท์ตัน (เท้า) ยังหมดสิทธิ์
   
เวสต์บรอมวิช :
แบ็กกี้ส์ ของกุนซือหนุ่ม สตีฟ คล้าร์ก ไล่ล่าหาชัยเพื่อหวังฟื้นจากความผิดหวังที่ตกรอบ แคปปิตอล วัน คัพ ด้วยน้ำมือลิเวอร์พูล เมื่อมิดวีก โดยผลงานล่าสุดในพรีเมียร์ลีก เปิดรังเชือด เร้ดดิ้ง 1-0 ความพร้อมล่าสุด ดูเหมือนว่า สถานะการฟูลแบ็กเจ็บของ เวสต์บรอมฯ จะเริ่มดีขึ้นแล้วเมื่อ โกรัน โปปอฟ กองหลังตัวใหม่ที่ซื้อมาเมื่อซัมเมอร์ รวมถึง เลียม ริดจ์เวลล์ อาการดีขึ้นมาก โปปอฟ ลงซ้อมตลอดในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา หลังมีปัญหาเจ็บโคนขาหนีบก่อนหน้านี้ ขณะที่ ริดจ์เวลล์ เจ็บต้นขาซ้ำระหว่างเกมกับฟุตบอลถ้วยกับ หงส์แดง ทว่าอาการไม่ได้หนักหนาอย่างที่หวั่นทีแรก ส่วนกองกลาง เจมส์ มอร์ริสัน (เอ็นหลังหัวเข่า) ก็น่าจะลงเป็นตัวเลือกได้ แต่นายถวารมือสอง โบอาซ มายฮิลล์ ชวดสองสัปดาห์ หลังเข้ารับการผ่าตัดนิ้วมือ ขณะที่กองหน้าตัวเก่ง ปีเตอร์ โอเดมวิงกี้ ติดโทษแบนนัดสุดท้ายจากทั้งหมดสามเกม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

แอสตัน วิลล่า :
(4-1-3-2) : เชย์ กิฟเว่น - แม็ตต์ ลอว์ตัน, รอน ฟลาร์, เคียแรน คล้าร์ก, เอริก ลิกฮาจ์ - คาริม เอล อาห์มาดี้ - เบร็ตต์ โฮลมัน, แบร์รี่ แบนแน่น, กาเบรียล อั๊กบอนลาฮอร์ - ดาร์เรน เบนท์, คริสเตียน เบนเตเก้
   
เวสต์บรอมวิช :
(4-2-3-1) : เบน ฟอสเตอร์ - บิลลี่ โจนส์, แกเร็ธ แม็คออลี่ย์, โยนาส โอลส์สัน, เลียม ริดจ์เวลล์ - ยุสซูฟ มูลุมบู, เคลาดิโอ ยาค็อบ - โซลตาน เกร่า, เจมส์ มอร์ริสัน, คริส บรันท์ - โรเมลู ลูกากู

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

วิลล่า ได้เล่นในบ้านขณะที่เกมรุกเริ่มเข้าที่ดีแล้ว ส่วน เวสต์บรอมฯ แม้จะออกสตาร์ตได้แจ่มที่สุดตั้งแต่เล่นพรีเมียร์ลีก ทว่ายังไม่เคยชนะนอกบ้านเลย และไม่เสียประตูแค่นัดเดียว จากการเล่นทีมเยือนตลอด 12 เดือนที่ผ่านมา แถมการไปเยือน วิลล่า พาร์ค สองหนหลังก็โดนเชือด 2-1 ทั้งสองเกม ถึงจะได้ลุ้นแบบหืดขึ้นคอ แต่งานนี้ สิงห์ผงาด ไม่น่าปล่อยโอกาสทองในการเก็บชัยในบ้านสองนัดติดเป็นครั้งแรก ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2010 หลุดมือไปได้อย่างแน่นอน

62
นอริช ซิตี้ - ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 29 กันยายน 2555
เวลา : 21:00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 2

เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

นอริช ซิตี้ :
นกขมิ้นเหลืองอ่อน ภายใต้การคุมทีมของ คริส ฮิวจ์ตัน เฉือนชนะ ดอนคาสเตอร์ 1-0 ในเกมลีก คัพ กลางสัปดาห์หลังจากแพ้ นิวคาสเซิ่ล ในลีก 0-1 ในสัปดาห์ที่แล้ว เป็นอีกหนึ่งทีมที่ยังไม่ชนะในเกมลีก หนำซ้ำล่าสุดทีมมีข่าวร้ายจากเกมกลางสัปดาห์เมื่อ แฮร์รี่ คีน เจ็บเท้าต้องพักอีก 6 สัปดาห์ แถมมีการยืนยันว่า เซบาสเตียง บาสซง (เอ็นหลังหัวเข่า) และ แอนโธนี่ย์ พิลคิงตัน(หลัง) ไม่ได้อยู่ในสนามแน่ๆ แต่คาดว่ากลุ่มนักเตะหลักที่ได้พักในเกมกลางสัปดาห์ จะคืนตัวจริงทั้งหมด เว้นแต่ สตีเว่น วิเทเกอร์ ที่เจ็บข้อเท้ายาวจ่อกลับมาซ้อมแล้ว ข่าวดีเล็กน้อยที่มีอยู่บ้างคือ ซิโมน แล็ปปิน หายเจ็บข้อเท้ากลับมาซ้อมได้แล้ว แนวรุกอาจจะปรับ แกรนท์ โฮลท์ ยืนเป็นหอกเดี่ยวรับมือ หงส์แดง
   
ลิเวอร์พูล :
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือ ''หงส์แดง'' เตรีมจัดดาวเด่น และตัวสำรองลงเต็มที่ในเกมบุกชนะ เวสต์บรอมวิช 2-1 ใน แคปปิตอล วัน คัพ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เกมนี้จะเรียกชุดใหญ่ลงตัวจริงอีกครั้ง ข่าวดีคือ แดเนียล แอ็กเกอร์ ที่เจ็บตั้งแต่เกมพ่าย แมนฯ ยูไนเต็ด 1-2 ในแอนฟิลด์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้จะมีแผลที่เข่าจนถูกเปลี่ยนออก แต่มีรายงานว่าฟิตพร้อมกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้งแบบเซอร์ไพรส์เล็กน้อย แม้ ฟาบิโอ บอรินี ที่เจ็บข้อเท้าจนถูกเปลี่ยนออก ระหว่างพักครึ่งในเกมเดียวกันยัง 50-50 นอกนั้น จอนโจ้ เชลวีย์ จะเริ่มติดโทษแบน 3 นัด ทำให้ นูริ ซาฮิน ที่เหมา 2 ประตูในเกมบอลถ้วยมีลุ้นเล่นตัวจริงสอดแทรกด้วย จอร์แดน เฮนเดร์สัน ส่วน มาร์ติน เคลลี่ ที่ต้องผ่าตัดเข่าพักถึงปีหน้าทำให้ โฆเซ่ เอ็นริเก้ ที่ได้พักในเกมกลางสัปดาห์มาด้วยจะคืนตัวจริง และโยก เกล็น จอห์นสันกลับไปอยู่ด้านขวา แนวรุก หลุยส์ ซัวเรซ จองตำแแหน่งกองหน้าตัวเป้าตามปกติ หาก บอรินี ไม่พร้อม อุสซามา อัสไซดี้ ที่เล่นดีในบอลถ้วยก็มีโอกาสลงมาทำเกมริมเส้นร่วมกับ ราฮีม สเตอร์ลิงเช่นกัน

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

นอริช ซิตี้ :
(4-4-1-1) : จอห์น รัดดี้ - รัสเซลล์ มาร์ติน, ลีออน บาร์เน็ตต์, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, ฆาเบียร์ การ์ริโด้ - โรเบิร์ต สน็อดกราสส์, จอนนี่ ฮาวสัน, แบร็ดลี่ย์ จอห์นสัน, แอนดรูวส์ เซอร์แมน - เวส ฮูลาฮาน - แกรนท์ โฮลท์
   
ลิเวอร์พูล :
(4-3-3) : โฆเซ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดเนียล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ - สตีเว่น เจอร์ราร์ด, โจ อัลเลน, นูริ ซาฮิน - ราฮีม สเตอร์ลิง, หลุยส์ ซัวเรซ, อุสซามา อัสไซดี้

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้ดีในเกมที่แล้ว แต่แพ้ ขณะที่ตัวหลักๆพร้อมลงไล่ล่าหาชัยชนะให้ได้ ซึ่ง นอริช ไม่ใช่งานยากเกินความสามารถ โดยเฉพาะพวกเขาเกมรุกฝืดสุดๆ ยิงได้แค่สองลูกตั้งแต่เปิดซีซั่น หากเล่นได้ไม่ต่ำกว่ามาตรฐานจริงๆ สามแต้มแรกไม่หลุดมือ เดอะ ค็อป แน่นอน
 

63
แมนฯ ยูไนเต็ด - สเปอร์ส (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 29 กันยายน 2555
เวลา : 23:30 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 3

เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

แมนฯ ยูไนเต็ด :
ปีศาจแดง ของกุนซือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เชือดคู่แค้นสำคัญ ลิเวอร์พูล 2-1 ในพรีเมียร์ลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนเปิดบ้านเชือด นิวคาสเซิ่ล 2-1 ในแคปปิตอล วัน คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ สำหรับการเปิดโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ สเปอร์ส วันเสาร์นี้ยังไม่แน่ว่า อันโตนิโอ วาเลนเซีย ปีกขวาจอมกระชาก จะพร้อมลุยหรือไม่ หลังเจ็บข้อเท้ามาจากเกมแดงเดือด โดยยังต้องรอเช็กความฟิตอีกครั้ง ส่วน ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ กับ สกอตต์ วูตตัน ที่ได้เล่นกลางสัปดาห์ มีชื่อในทีมด้วย แต่คงเป็นแค่สำรอง เช่นเดียวกับ ดาบิด เด เคอา ที่น่าหลีกทางให้ อันเดอร์ส ลินเดการ์ด ลงมายึดมือหนึ่งต่อในลีก
ริโอ เฟอร์ดินานด์ จะลุยแนวรับร่วมกับ จอนนี่ อีแวนส์ ระหว่างที่กัปตันทีม เนมานย่า วิดิช เดี้ยง ส่วนแบ็กซ้ายเชื่อว่า ปาทริซ เอวร่า พร้อมกลับมาทวงตำแหน่งคืนจาก อเล็กซานเดอร์ บุทท์เนอร์ ทางด้าน ชินจิ คางาวะ กับ ไมเคิ่ล คาร์ริค ที่ได้พักในเกมกลางสัปดาห์ จะกลับมาลงสนาม ส่วน โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ มีลุ้นได้เป็นตัวจริงคู่กับ เวย์น รูนี่ย์ ครั้งแรก หลังดาวยิงร่างอวบหายเจ็บแล้ว
   
สเปอร์ส :
''ไก่เดือยทอง'' เตรียมเยือนโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลังจากที่ชนะในพรีเมียร์ลีกมาสองเกมรวดแล้ว และเมื่อกลางสัปดาห์เพิ่งถล่มคาร์ไลส์ 3-0 ในแคปปิตอล วัน คัพ มาแบบสดๆใหม่ๆ อันเดร วิลลาช โบอาช กุนซือหนุ่มของ สเปอร์ส เตรียมเรียกตัวหลักๆ ที่ได้พักในเกมกลางสัปดาห์คืนทัพ นำโดยนายถวารจอมเก๋า แบรด ฟรีเดล เท่ากับว่า อูโก้ โยริส มือกาวทีมชาติฝรั่งเศส ต้องนั่งสำรองต่อไป ส่วนกองหลัง ไคล์ นอห์ตัน มีลุ้นรีเทิร์น หลังวืดเกมลีกสัปดาห์ก่อนที่ชนะ คิวพีอาร์ แต่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ (เอ็นหลังหัวเข่า), สกอตต์ พาร์เกอร์ (เอ็นร้อยหวาย), เจค ลิเวอร์มอร์ (โคนขาหนีบ), เบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้ และ ยูเนส กาบุล (หัวเข่าทั้งคู่) ยังชวด ระบบการเล่น 4-2-3-1 โดย แกเร็ธ เบล ปีกจอมเทพที่ได้พักเต็มๆ พร้อมลากเลื้อยทางกราบ เช่นเดียวกับ เจอร์เมน เดโฟ ที่จะรับบทกองหน้าตัวเป้า

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

แมนฯ ยูไนเต็ด :
(4-2-3-1) : อันเดอร์ส ลินเดการ์ด - ราฟาเอล ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอนนี่ อีแวนส์, ปาทริซ เอวร่า - พอล สโคลส์, ไมเคิ่ล คาร์ริค - หลุยส์ นานี่, เวย์น รูนี่ย์, ชินจิ คางาวะ - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
   
สเปอร์ส :
(4-2-3-1) : แบรด ฟรีเดล - ไคล์ วอล์คเกอร์, วิลเลี่ยม กัลลาส, แยน แฟร์ตองเก้น, ไคล์ นอห์ตัน - ซานโดร, มุสซ่า เดมเบเล่ - อารอน เลนน่อน, กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน, แกเร็ธ เบล - เจอร์เมน เดโฟ

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

แมนฯ ยูไนเต็ด ระดมเรียกแข้งจอมเก๋าคืนทัพ แม้ที่ผ่านมา เกมยังไม่ไหลลื่นซักเท่าไหร่ แต่พวกเขาก็ยังมีทีเด็ดพอจะกำราบ   สเปอร์ส ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สถิติชี้ชัดว่า ''ปีศาจแดง'' ไม่เคยแพ้คาบ้านต่อ ''ไก่เดือยทอง'' เลยในการพบกัน 20 ครั้งในพรีเมียร์ลีก โดยชนะถึง 17 และยิงรัว 42 ลูก คราวนี้อาจจะหืดจับ ทว่าสามแต้มไม่น่าจะยากสำหรับเจ้าถิ่นแน่ๆ
 

64
อาร์เซน่อล - เชลซี (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 29 กันยายน 2555
เวลา : 18:45 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1

เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

อาร์เซน่อล :
ปืนใหญ่ ของกุนซือ อาร์แซน เวนเกอร์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ออกไปเสมอกับแชมป์เก่า แมนฯ ซิตี้ 1-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก ก่อนปรับทัพใหม่ เพื่อเรียกชัยชนะไล่อัด โคเวนทรี  6-1 ในแคปปิตอล วัน คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ สำหรับการเปิดเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ทำศึกลอนดอนดาร์บี้กับจ่าฝูง เชลซี วันเสาร์นี้ มีข่าวดีเมื่อ โธมัส แฟร์มาเล่น กองหลังกัปตันทีม หายป่วยจากการติดเชื้อไวรัส พร้อมกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง เอ็มมานูเอล ฟริมปง กองกลางตัวรับที่เจ็บยาวไป ฟิตกลับมาเล่นเกมแคปปิตอล วัน คัพ ได้ ส่วน แจ็ค วิลเชียร์ มีคิวลงเรียกความฟิตให้ทีมรุ่นยู-21 ในคืนวันจันทร์นี้ ปืนใหญ่ยังขาดพวกที่เจ็บอย่าง โทมัส โรซิชกี้ (เอ็นหลังหัวเข่า), บาการี่ ซาญ่า (ขาหัก) และจอมหนึบ วอยเชียค เชสนี่ (ข้อเท้า) แต่ตัวหลักที่ได้พักในเกมฟุตบอลถ้วย พร้อมกลับมาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสองแข้งใหม่ ลูคัส โพดอลสกี้ รับบทหอกเป้า และ ซานติ กาซอร์ล่า คอยปั้นเกมให้ ส่วน ธีโอ วัลค็อตต์ ที่กำลังฮอตเมื่อกลางสัปดาห์ น่าได้โอกาส
   
เชลซี :
สิงโตน้ำเงินคราม จากการคุมทีมของ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ ยิงมาได้หกลูกเช่นเดียวกับเจ้าถิ่นในเกมถล่ม วูล์ฟส์ 6-0 ใน แคปปิตอล วัน คัพ  ส่วนเกมก่อนหน้านั้นก็เฉือนชนะ สโต๊ค 1-0 ยังครองตำแหน่งจ่าฝูงได้อย่างหนียวแน่น เกมนี้ทีมคาดว่า แฟร้งค์ แลมพาร์ด จะพ้นอาการบาดเจ็บหลับมาเป็นตัวจริงได้อีกครั้ง แต่ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ที่เจ็บบริเวณเดียวกันยังไม่น่าจะพร้อมลงเป็นตัวจริง ส่วน จอห์น เทอร์รี่ กองหลังกัปตันทีมที่เจอโทษแบนถึง 4 นัดกรณีเหยียดผิด แอนทอน เฟอร์ดินานด์ นั้น โทษแบนยังไม่มีผลระหว่างช่วง 14 วันในระหว่างยังตัดสินใจ ว่าจะอุทธรณ์โทษแบนดังกล่าวหรือไม่ เกมนี้ยังน่าจะลงเล่นไปก่อน นอกนั้น มาร์โค มาริน ฟิตกลับมาแล้ว เรียกว่านัดนี้ทีมเยือนสมบูรณ์เกือบเต็มทัพ

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

อาร์เซน่อล :
(4-2-3-1) : วีโต้ มานโนเน่ - คาร์ล เจนกินสัน, แพร์ แมร์เตซัคเคอร์, โธมัส แฟร์มาเล่น, คีแรน กิ๊บบ์ส - อาบู ดิยาบี้, มิเคล อาร์เตต้า - ธีโอ วัลค็อตต์, ซานติ กาซอร์ล่า, แชร์วินโญ่ - ลูคัส โพดอลสกี้
:   
เชลซี :
(4-2-3-1) : ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด - รามิเรส, เอแด็น อาซาร์, ฆวน มาต้า - เฟร์นานโด ตอร์เรส

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

อาร์เซน่อล กำลังมั่นใจและที่สำคัญพวกเขาไม่แพ้ให้ เชลซี เลยในเก้านัดหลังสุดที่เปิดบ้านทำศึกพรีเมียร์ลีกกัน เกมรับแน่นหนาขึ้นกว่าเดิม ขณะที่ เชลซี แนวรุกร้อนแรง ทว่าก็ต้องพะวงกับการเล่นเกมเร็วของ ปืนใหญ่ ดูแล้วเกมสนุกสูสีแน่ และเปอร์เซนต์น่าจะจบด้วยการเสมอมากกว่า

65
ลา กอรุนญ่า - เซบีย่า (ลาลีกา สเปน)
วันที่ : 24 กันยายน 2555
เวลา : 02:30 น.


เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

ลา กอรุนญ่า :
''ซูเปอร์เดปอร์'' ลา กอรุนญ่า ออกสตาร์ตฤดูการใช้ได้เลยทีเดียว ยังไม่แพ้ใคร แต่ช่วงหลังหนักไปทางเสมอมากกว่านัดล่าสุดบุกเจ๊า กรานาด้า 1-1 เป็นผลเสมอนัดที่ 3 ในลีกติตต่อกันแล้ว ฆาเบียร์ กามูนญาส ปีกจอมเลื้อยมีอาการบาดเจ็บรบกวน ทำให้ไม่น่าจะลงสนามได้ จะเป็น ฆวน การ์ลอส บาเลรอน ตัวเก๋าวัย 37 ปี ทำหน้าที่ตามเดิม ขณะที่ เนลสัน โอลิเวียร่า กองหน้าโปรตุเกส มีลุ้นออกสตาร์ทเป็นตัวจริง หลังจากนัดก่อนทำผลงานได้ดี ขณะที่ส่วนอื่นๆคาดว่า โฆเซ่ หลุยส์ โอลตร้า เทรนเนอร์ของทีมจะไม่ปรับทัพ เนื่องจากยังทำผลงานกันได้ดี ทางด้าน ดิโอโก้ ซาโลเมา รวมถึง เลาเร่ แบ็กขวาตัวเก๋ามีอาการบาดเจ็บทั้งหมด ยังไม่พร้อมลงสนาม
   
เซบีย่า :
เซบีย่า ออกสตาร์ตฤดูกาลนี้ได้ดีทีเดียว โดยนัดที่แล้วทำผลงานได้น่าทึ่ง เฉือนชนะแชมป์เก่า เรอัล มาดริด 1-0 ด้วยเกมรับอันเหนียวแน่น ไม่เสียประตูในสองเกมหลังสุด เฮ็ดวิกส์ มาดูโร่ แข้งดัตช์ฟิตกลับมาเป็นตัวจริงในแดนกลาง นัดที่แล้วร่วมกับ การี เมเดล และ พิโอเตอร์ โทรซอฟสกี้ แต่เกมนี้มีโอกาสที่ มิเชล กอนซาเลซ จะปรับทีมให้โอกาส อิวาน ราคิติช ลงเล่นบ้าง ส่วนตำแหน่งผู้รักษาประตู ดีเอโก้ โลเปซ พ้นโทษแบนกลับมาแล้วแต่ฟอร์มไม่ดี ทำให้ อันเดรส ปาล็อป จะยึดมือหนึ่งต่อไป
 
ขณะที่แนวรุก โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวน มานู เดล โมรัล มีสิทธิ์เบียดลงเป็นตัวจริง นอกจากนั้นทีมยังขาดแค่ ดีเอโก้ เปร็อตติ ที่เจ็บอยู่ก่อนแล้ว รวมถึง บาบา ดิยาร์ร่า ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อทีมเนื่องจากเป็นแค่สำรองอยู่แล้ว แนวรุกวาง เฆซุส นาบาส และ อัลบาโร่ เนเกรโด้ เป็นตัวหลักเช่นเดิม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ลา กอรุนญ่า :
(4-2-3-1) : ดาเนี่ยล อรันซูเบีย - มานูเอล ปาโบล, การ์ลอส มาร์เชน่า, อายธามี่, เอวาลโด้ - อาเบล อากีลาร์, ฆวน โดมิงเกซ - บรูโน่ กาม่า, ฆวน การ์ลอส บาเลร่อน, หลุยส์ ปิซซี่ - เนลสัน โอลิเวียร่า
   
เซบีย่า :
(4-3-3) : อันเดรส ปาล็อป - ซิซินโญ่, เอเมียร์ สปาฮิช, เฟเดริโก้ ฟาซิโอ (อัลเบร์โต้ โบเตีย), ฟาบิโอ นาบาร์โร่ - การี เมเดล, พิโอเตอร์ โทรซอฟสกี้, อิวาน ราคิติช - เฆซุส นาบาส, อัลบาโร่ เนเกรโด้, มานู เดล โมรัล

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

ทั้งสองทีมต่างแข็งแกร่งยังไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้ เทียบฟอร์มกันแล้วสูสีเลยทีเดียว เจ้าบ้านยังไม่ค่อยเด็ดขาดเท่าไหร่ ขณะที่ เซบีย่า มีลูกโต้กลับที่อันตราย โอกาสเจ๊ามีสูง แต่ถ้ามีผู้ชนะยังน่าเป็นทีมเยือน ที่มีทีเด็ดมากกว่า

66
ราโย บาเยกาโน่ - เรอัล มาดริด (ลาลีกา สเปน)
วันที่ : 24 กันยายน 2555
เวลา : 01:00 น.


เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

ราโย บาเยกาโน่ :
ราโย บาเยกาโน่ ออกสตาร์ตฤดูกาลได้อย่างสุดยอดเลยทีเดียว แม้ว่านัดที่แล้วจะพ่ายต่อ แอต.มาดริด 3-4 แต่ก็สร้างความพอใจให้แฟนบอลด้วยสไตล์การเล่นแบบลุยแหลก อเลฆานโดร โดมิงเกซ, อันดริย่า เดลิเบซิช และ ลาส บานกูร่า ต่างทำผลงานได้น่าประทับใจในฐานะตัวสำรองนัดที่ผ่านมา เกมนี้มีลุ้นได้ขึ้นเป็นตัวจริงทั้งหมด โดยหน้าเป้าจะเป็น นิคกี้ บิลเล่ นีลเซ่น ที่หลุดไปเป็นสำรอง ขณะที่ รูเบน มาร์ติเนซ นายทวารตัวเก่งพ้นโทษแบนกลับมาเป็นมือหนึ่งแล้ว ทำให้ ดานี่ คิเมเนซ หลุดไปเป็นสำรองตามเดิม
 
สำหรับระบบการเล่นเป็นไปได้ที่ ราโย่ จะใช้ระบบ 3-4-3 เหมือนนัดที่แล้ว โดยแนวรุกฝั่งขวา เลโอ บาปติสเตา ดาวเตะบราซิเลียน ฟอร์มกำลังดี จะยึดตัวจริงแน่นอน ริมเส้นเป็น อาเดรียน กอนซาเลซ และ ปิติ
   
เรอัล มาดริด :
"ราชันชุดขาว" ของกุนซือ โชเซ มูรินโย่ เปิดฤดูกาลได้ไม่น่าประทับใจนักในซีซั่นนี้ และยังพลาดท่าต่อ เซบีย่า 0-1 ในเกมที่แล้ว ซึ่งเป็นฟอร์มที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบหลายเกม อย่างไรก็ตาม กลางสัปดาห์พวกเขาเพิ่งแซงชนะ แมนฯ ซิตี้ 3-2 เรียกความมั่นใจจากแฟนๆคืนมาอีกครั้ง
 
สภาพทีมเรอัล มาดริด สมบูรณ์เลยทีเดียว ไม่มีตัวเจ็บเพิ่ม มีเพียง ฟาบิโอ โกเอนเตรา แบ็กซ้ายโปรตุกีส ที่ติดโทษแบนเป็นนัดที่ 3 จาก 4 นัด หลังไปโวยวายใส่ผู้ตัดสินในเกมลีกที่พ่าย เคตาเฟ่ 1-2 โดยนี่เป็นเกมที่สาม ทำให้แบ็กซ้ายจะตกเป็นของ มาร์เชโล่ โดยอัตโนมัติ หน้าเป้า กอนซาโล่ อิกวาอิน ดาวยิงอาร์เจนไตน์มีสิทธิ์ได้พัก หลังจาก คาริม เบนเซม่า ลงมายิงประตูใน ชปล. เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ เมซุต โอซิล มีลุ้นได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง ทางด้าน เซร์คิโอ รามอส กองหลังทีมชาติสเปนที่ถูกดร็อป เมื่อกลางสัปดาห์ มูรินโญ่ ยืนยันว่าไม่มีปัญหาส่วนตัว เกมนี้น่ากลับมาเป็นตัวจริงตามเดิม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ราโย บาเยกาโน่ :
(3-4-3) : รูเบน มาร์ติเนซ - ตีโต้, จอร์ดี้ อามัต, โฆเซ่ มานูเอล กาซาโด้ - ปิติ, โรเบร์โต้ ทราสชอร์ราส, ฆาบี ฟวยโก้, อาเดรียน กอนซาเลซ - เลโอ บาปติสเตา, อันดริย่า เดลิเบซิช, อเลฆานโดร โดมิงเกซ
   
เรอัล มาดริด :
(4-2-3-1) : อีเกร์ กาซียาส - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เซโล่ - ชาบี อลอนโซ่, ซามี่ เคดิร่า - อังเคล ดิ มาเรีย, เมซุต โอซิล, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - คาริม เบนเซม่า (กอนซาโล่ อิกวาอิน)

วิจารณ์เกมการแข่งขัน
ราโย บาเยกาโน่ สู้สุดแรงเกิดแน่นอนเมื่อเล่นในบ้าน กระนั้นเกมรับของพวกเขายังไม่ดีนัก เจอความคล่องตัวของผู้เล่น เรอัล มาดริด แล้วคงต้านแรงไม่อยู่แน่ มาดริด กำลังต้องการแต้มและชัยชนะ เพื่อเรียกความมั่นใจคืนมา ราโย บาเยกาโน่ เจอศึกเหนื่อยอย่างแน่นอน ต่อทีมเยือนหมดหน้าตัก
 

67

       บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นข่าวนักฟุตบอลย้ายไปอยู่ทีมนั้น ทีมนี้จากสื่อต่างๆ ด้วยเหตุผลว่าต้องการลงเล่น ไม่ต้องการเป็นตัวสำรอง อะไรประมาณนี้ ใช่ไหมครับ และด้วยข่าวที่ว่านี้แหละ มันเป็นสาเหตุที่นำมาซึ่งความสงสัย ใคร่รู้ของหลายๆคนที่ว่า ทำไมนักฟุตบอลอาชีพเขาจึงรับไม่ได้กับการที่ต้องนั่งเป็นตัวสำรองในทีมที่สังกัดอยู่ ทั้งๆที่การนั่งเป็นตัวสำรองในทีมฟุตบอลดังๆบางทีมก็เป็นการยากมากๆแล้วที่ใครสักคนจะทำได้ เพราะมีผู้คนชื่นชอบในการเล่น ฟุตบอล มากมายนับไม่ถ้วน ที่อยากจะเข้าไปสังกัดอยู่กับทีมเหล่านั้น

       และการนั่งเป็นตัวสำรองในทีมฟุตบอลใดๆ ก็มีโอกาสที่จะได้ลงเล่นเรื่อยๆอยู่แล้ว เนื่องจากว่าผู้เล่นตัวจริงในทีมฟุตบอลต่างๆมีโอกาสได้รับบาดเจ็บ ติดโทษแบน แล้วก็ฟอร์มตกทั้งนั้น อีกทั้งการนั่งเป็นตัวสำรองของหลายๆคนก็ได้รับเงินค่าเหนื่อยเท่ากับการลงเล่นด้วย และนี้ยังไม่นับรวมสถานการณ์ระหว่างเกมการแข่งขันแมทต่างๆอีกนะครับ ที่ผู้จัดการทีมมักจะมีการแก้เกมส์โดยส่งผู้เล่นตัวสำรองคนต่างๆลงไปเล่นแทนผู้เล่นตัวจริง คือเมื่อมองถึงสิ่งต่างๆที่ผมไล่เรียงมานี้ มันกล่าวสรุปได้แน่ชัดเลยครับว่าอย่างไรๆ การนั่งเป็นตัวสำรองก็ดูจะไม่ได้เลวร้ายสักเท่าไหร่ แต่เมื่อลองมาหาคำตอบดีๆ ผมจึงได้คำตอบมาฝากหลายๆคน ว่าทำไมนักฟุตบอลหลายคนถึงรับไม่ได้กับการเป็นตัวสำรอง ดังนี้ครับ

       เหตุผลแรกเลย อาชีพการเล่นฟุตบอล มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างสั้น กล่าวคือ นักฟุตบอล ไม่สามารถที่จะเล่นฟุตบอลเป็นอาชีพไปได้เรื่อยๆ เป็นระยะเวลาหลายสิบปี เหมือนกับอาชีพอื่นๆ ฉะนั้นหากช่วงที่ยังคงเล่นไหวอยู่เนี๊ย มัวแต่นั่งเป็นตัวสำรอง ได้ลงเล่นบ้าง ไม่ได้ลงบ้าง ก็มีแนวโน้มว่าจะไม่สามารถโชว์ผลงานได้เต็มที่ ส่งผลให้อนาคตข้างหน้าลำบาก ประมาณว่า อาจจะถูกขายทิ้งเข้าสักวัน แล้วก็ไม่มีทีมไหนอยากได้ตัวไปร่วมทีม อีกทั้งเมื่อเลิกเล่นฟุตบอลไปแล้วแต่ไม่ค่อยมีผลงานสะสมไว้ ก็เป็นการยากที่จะได้สร้างสรรค์ผลงานในวงการฟุตบอลด้วยการเป็นโค้ช หรือผู้จัดการทีมต่อไปครับ

68
มงต์เปลลิเย่ร์ - อาร์เซน่อล (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก)
วันที่ : 18 กันยายน 2555
เวลา : 01:45 น.
ถ่ายทอดสด : ช่อง 9, ทรูสปอร์ต 3


เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

มงต์เปลลิเย่ร์ :
เกมนี้ เรอเน่ ชิราร์ ไม่สามารถใช้งาน โรแม็ง ปิโต้ ที่ติดโทษแบน 2 เกม แต่ยังโชคดีที่ได้ อับเดลฮามิด เอล กาอูตารี่ กลับมาเป็นตัวเลือกหลังพ้นโทษแบนในเกมลีก เช่นเดียวกับ มาร์โก เอสตราด้า กองกลางตัวเก่งกลับมาคุมเกมอีกครั้ง เช่นเดียวกับ มาปู ย็องกา-เอ็มบีวา ที่กลับมายึดตัวจริง หลังได้พักในเกมลีกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
   
อาร์เซน่อล :
ทีมเยือนมีปัญหาที่ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือใหญ่โดนแบนคุมเกมข้างสนาม 3 นัด หลังโดนโทษไปด่ากรรมการ สำหรับความพร้อมเรื่องตัวผู้เล่น โทมัส โรซิชกี้ เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า, แจ็ค วิลเชียร์ เจ็บข้อเท้า, เอ็มมานูเอล ฟริมปง มีปัญหาที่เข่า และ บาการี่ ซาญ่า ขาหัก สำหรับ อาบู ดิยาบี้ เจ็บจากทีมชาติต้องดูอาการต่อว่าจะไหวหรือไม่แต่ ธีโอ วัลค็อตต์ พร้อมรบแน่นอน

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

มงต์เปลลิเย่ร์ :
(4-2-3-1) : เชฟเฟร่ ชูร์กดร็อง ; การ์รี่ โบกาลี่, มาปู ย็องกา-เอ็มบีวา, วิตอริโน่ ฮิลตัน, อองรี เบดิโม่ ; เรมี่ กาแบลล่า, มาร์โก เอสตราด้า ; อ็องโตนี่ มูนิเย่ร์, ยูเนส แบลอ็องด้า, จอห์น ยูตาก้า ; เอมานูเอล เอร์เรร่า
   
อาร์เซน่อล :
(4-3-3) : วอยเชียค เชสนี่ ; คาร์ล เจนกินสัน, แพร์ แมร์เตซัคเคอร์, โธมัส แฟร์มาเล่น, คีแรน กิ๊บบ์ส ; ฟร็องซิส โกเกอแล็ง, มิเคล อาร์เตต้า, ซานติ กาซอร์ล่า ; อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ลูคัส โพดอลสกี้, แชร์วินโญ่

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

มงต์เปลลิเย่ร์ อาจจะได้เล่นในบ้านตัวเอง แต่ประสบการณ์ยังเป็นรองทีมเยือนอยู่มาก แถมเจ้าถิ่นเองฟอร์มยังไม่ดีด้วยมาเจอเกมของ อาร์เซน่อล แบบนี้ คงต้องเหนื่อยกันอย่างหนัก เชื่อว่าท้ายที่สุดแล้ว ทีมปืนใหญ่ จะอาศัยประสบการณ์ความเก๋ากว่าบุกเก็บ 3 แต้มกลับบ้านไปได้

69
เรอัล มาดริด - แมนฯ ซิตี้ (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก)
วันที่ : 18 กันยายน 2555
เวลา : 01:45 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1


เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

เรอัล มาดริด :
โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ ''ราชันชุดขาว'' กำลังประสบปัญหากับผลงานของลูกทีม ที่ไม่ค่อยดีนักในซีซั่นนี้ หลังจากเกมล่าสุดบุกไปพ่ายต่อ เซบีย่า 0-1 ในลีก ส่วนสภาพทีมในการรับศึกเรือใบคืนนี้ถือว่าพร้อม เมื่อจะได้ ฟาบิโอ โกเอนเตรา แบ็กโปรตุกีสพ้นจากโทษแบนในเกมลีกกลับมาเป็นตัวเลือกในเกมรับ เซร์คิโอ รามอส กับ เปเป้ จะคอยคุม ส่วนแผงกลางจะเลือกใช้ ชาบี อลอนโซ่ กับ ซามี่ เคดิร่า ลงตัดเกมปล่อยให้ เมซุต โอซิล, ลูก้า โมดริช และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สร้างเกมรุกให้ คาริม เบนเซม่า จบสกอร์
   
แมนฯ ซิตี้ :
เรือใบสีฟ้า ภายใต้การคุมทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ พาทีมต้องสะดุดอีกแล้ว เมื่อนัดล่าสุดทำผลงานได้แค่บุกไปเสมอกับ สโต๊ค ซิตี้ 1-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก ส่วนเกมนี้จะไม่มี ไมกาห์ ริชาร์ดส์ และ ปาโบล ซาบาเลต้า ที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วน แจ็ค ร็อดเวลล์ ที่เจ็บเข่าเล็กน้อย น่าจะฟิตทันพร้อมเป็นตัวเลือกในแดนกลาง ทางด้าน เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'' ดาวยิงตัวเก๋ากับ แกเร็ธ แบร์รี่ มีลุ้นลงสนามหลังจากกลับมาซ้อมได้แล้ว เกมนี้แนวรุกยังนำทัพโดย คาร์ลอส เตเวซ

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เรอัล มาดริด :
(4-2-3-1) : อีเกร์ กาซียาส ; อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เซร์คิโอ รามอส, เปเป้, มาร์เซโล่ ; ชาบี อลอนโซ่, ซามี่ เคดิร่า ; เมซุต โอซิล, ลูก้า โมดริช, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ; คาริม เบนเซม่า 
   
แมนฯ ซิตี้ :
(4-2-2-2) : โจ ฮาร์ท ; ดั๊กลาส ไมค่อน, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, โจลีออน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่ ; ยาย่า ตูเร่, แกเร็ธ แบร์รี่ ; ดาบิด ซิลบา, ซามีร์ นาสรี่ ; คาร์ลอส เตเวซ, เซร์คิโอ อเกวโร่

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

เรอัล มาดริด แม้จะเพิ่งพ่ายมาในลีก แต่ดูจากขุมกำลังที่มีอยู่ ถือว่าแข็งแกร่งอย่างมาก เกมนี้ยังต้องการคว้าชัยเพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมา ทำให้เชื่อว่า ทีมราชันชุดขาว จะฮึดเก็บชัยชนะจากผู้มาเยือนอย่าง แมนฯ ซิตี้ ก็เป็นได้

70
โตริโน่ - อินเตอร์ มิลาน (กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี)
วันที่ : 16 กันยายน 2555
เวลา : 01:45 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1


เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

โตริโน่ :
โตริโน่ จากการคุมทีมของ จามปิเอโร่ เวนตูร่า โดยเกมนี้ เวนตูร่า น่าจะเลือกใช้ผู้เล่นจากชุดเดิม ที่ช่วยกันเก็บชัยชนะนัดที่แล้วเอาไว้เป็นหลัก แนวรับจะยังคงเป็น คามิล กลิค จับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ อันเจโล่ อ็อกบอนน่า แบ็กจอมเก๋าสองข้างเป็น มัตเตโอ ดาร์เมียน และ ซัลวาตอเร่ มาซิเอลโล่ และมัตเตโอ บริกี เป็นมิดฟิลด์คู่กลางกับ อเลสซานโดร กัซซี่ ดัน อเลน สเตฟาโนวิช และ จูเซ็ปเป้ วิเวส ขึ้นสูงเน้นเกมรุกทางริมเส้นคอยช่วยคู่หัวหอก อเลสซานโดร สกรินญ่า กับ โรลันโด้ เบียงคี่
   
อินเตอร์ มิลาน :
เกมนี้ กุนซืออันเดรีย สตรามัชโชนี่ จัดทีมบู๊ไว้โดยจะให้ อันเดรีย ราน็อคเคีย ยืนปราการหลังตัวกลางกับ วอลเตอร์ ซามูเอล ขนาบข้างด้วย ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ และ ยูโตะ นากาโตโมะ โดยมี เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ ประคองแดนกลางกับ เฟรดี้ กัวริน และ อัลวาโร่ เปเรยร่า หรือยังมี วอลเตอร์ การ์กาโน่ เป็นทางเลือก และวาง เวสลี่ย์ สไนเดอร์ เป็นเพลย์เมกเกอร์อยู่ข้างหลัง ดีเอโก้ มิลิโต้ กับ อันโตนิโอ คาสซาโน่ ส่วน โรดริโก้ ปาลาซิโอ ยังไม่ค่อยฟิตเต็มที่

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

โตริโน่ :
ฌอง ฟร็องซัวส์ ชิลเล่ต์; มัตเตโอ ดาร์เมียน, คามิล กลิค, อันเจโล่ อ็อกบอนน่า, ซัลวาตอเร่ มาซิเอลโล่; มัตเตโอ บริกี, อเลสซานโดร กัซซี่; อเลน สเตฟาโนวิช, อเลสซานโดร สกรินญ่า, โรลันโด้ เบียงคี่, จูเซ็ปเป้ วิเวส
   
อินเตอร์ มิลาน :
ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช; ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ, อันเดรีย ราน็อคเคีย, วอลเตอร์ ซามูเอล, ยูโตะ นากาโตโมะ; เฟรดี้ กัวริน, เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่, อัลวาโร่ เปเรยร่า; เวสลี่ย์ สไนเดอร์; ดีเอโก้ มิลิโต้, อันโตนิโอ คาสซาโน่

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

เกมนี้แม้ โตริโน่ จะได้เล่นในบ้านตัวเอง เชื่อว่าคงเล่นเต็มที่และไม่ยอมแพ้ทีมงูใหญ่ง่ายๆแน่ อย่างไรก็ตามสภาพทีมโดยรวมเป็นรอง อินเตอร์ มิลาน พอสมควร ถึงแม้ทีมเยือนสภาพความพร้อมแม้ไม่ถึงกับดีมาก แต่ยังดีกว่าเจ้าถิ่น มองดูแล้วโอกาสที่ทีมเยือนจะบุกมาเก็บแต้มมีสูงเหลือเกิน
 

71
เร้ดดิ้ง - สเปอร์ส (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 16 กันยายน 2555
เวลา : 22:00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1


เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

เร้ดดิ้ง :
เดอะ รอยัลส์ เลื่อนชั้นขึ้นมาอยู่พรีเมียร์ลีกหมาดๆ ไล่ล่าหาชัยชนะนัดแรกในฤดูกาลนี้ โดยผลงานในลีกนัดล่าสุดของพวกเขา เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา จบไม่ค่อยสวยนัก เมื่อโดนรุ่นพี่พรีเมียร์ลีกอย่าง เชลซี อัดเละ 4-2 ความพร้อมก่อนเกมที่ มาเด็จสกี้ สเตเดี้ยม วันอาทิตย์นี้ มีข่าวดีว่า จิมมี่ เคเบ้ ฟิตเต็มที่พร้อมกลับมาเป็นตัวเลือกได้อีกครั้ง หลังจากที่ปีกชาวมาลี พักยาวเพราะเอ็นหลังหัวเข่าพัง ทว่าล่าสุดลงสนามซ้อมได้แล้ว
 
เหลือเพียงแค่ เจสัน โรเบิร์ตส์ กองหน้าจอมเก๋าคนเดียวที่ยังไม่ไหว เพราะมีปัญหาเจ็บน่อง ขณะที่ลูกทีมรายอื่นๆของ แม็คเดอร์ม็อตต์ กลับมาจากการรับใช้ชาติแบบสมบูรณ์ดี ในส่วนของมือกาวเหนียวหนึบ ออสซี่ อดัม เฟเดริชี่ มีอาการช้ำเล็กๆ อย่างไรก็ตาม ไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด สำหรับการเป็นมือหนึ่งในวันอาทิตย์นี้
   
สเปอร์ส :
ไก่เดือยทอง ภายใต้การคุมทีมของ อันเดร วิลลาช โบอาช ยังไม่ได้รับชัยชนะเลยในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ โดยนัดล่าสุดเล่นในบ้านตัวเองแท้ๆ แต่กลับโดน นอริช ยันเสมอ 1-1 แบบเสียหน้าสุดๆ มีรายงานว่า แบรด ฟรีเดล มือกาวชาวอเมริกัน จะยังได้ครองตำแหน่งนายทวารมือหนึ่งของ สเปอร์ส ต่อไป แม้ว่าล่าสุดสโมสรไปคว้า อูโก้ โยริส กัปตันทีมชาติฝรั่งเศสมาจาก ลียงด้วยค่าตัวถึง 8 ล้านปอนด์ก็ตาม 

กุนซือหนุ่ม อันเดร วิลลาช โบอาช ยืนยันแล้วว่า โยริส จะไม่มีชื่อเป็นสำรองเลยด้วยซ้ำ เพราะเพิ่งผ่านการลงซ้อมกับเพื่อนใหม่แค่ครั้งเดียว นับตั้งแต่ย้ายเข้ารัง ไวท์ ฮาร์ท เลน ในวันสุดท้ายก่อนตลาดปิด ส่วน คลินต์ เดมพ์ซี่ย์ แข้งหน้าใหม่อีกราย มีลุ้นได้ประเดิมสนามที่มา เด็จสกี้ สเตเดี้ยม ส่วนนักเตะรายอื่นๆ ยูเนส กาบุล (หัวเข่า), สกอตต์ พาร์เกอร์ (เอ็นร้อยหวาย) และ เอเรลโญ่ โกเมส (ข้อเท้า) ชวดลงสนามแน่ๆ

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เร้ดดิ้ง :
(4-1-4-1) : อดัม เฟเดริชี่ - คริส กันเทอร์, อเล็กซ์ เพียร์ซ, กาสปาร์ส กอร์คส์, เอียน ฮาร์ท - เจ็ม คารากัน - โจบี้ แม็คอนัฟฟ์, แดนนี่ กัทธรี, มิเคเล่ ไลเกิร์ตวู้ด, การาธ แม็คเคลียรี่ - พาเวล โพเกร็บเนี้ยค
   
สเปอร์ส :
(4-2-3-1) : แบรด ฟรีเดล - ไคล์ วอล์คเกอร์, วิลเลี่ยม กัลลาส, แยน แฟร์ตองเก้น, เบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้ - ซานโดร, มุสซ่า เด็มเบเล่ - อารอน เลนน่อน, คลินต์ เดมพ์ซี่ย์ , แกเร็ธ เบล - เจอร์เมน เดโฟ

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

เร้ดดิ้ง น้องใหม่ที่พึ่งเลื่อนชั้นมา พรีเมียร์ลีก อาจมีปัญหาในการรับมือปีกตัวเก่งทั้งสองข้างของ สเปอร์ส ที่มีความเร็วสูง แม้ว่าไก่เดือยทอง จะยังทำผลงานได้อย่างฝืดๆตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา แต่การได้ เดมพ์ซี่ย์ เข้ามาเสริมน่าจะทำให้เกมลงตัวขึ้น เจ้าถิ่นต้องหวังลูกตั้งเตะ และความใหญ่แข็งแรงของ โพเกร็บเนี้ยค แต่ทีมเยือนมีความหลากหลายและประสบการณ์ที่แกร่งกว่า น่าจะเบียดเก็บ 3 แต้มกลับไปได้

72
ควีนส์ปาร์ค - เชลซี (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 15 กันยายน 2555
เวลา : 21:00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 2


เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

ควีนส์ปาร์ค :
ทหารเสือราชินี ภายใต้การคุมทีมของ มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือชาวเวลส์ สภาพทีมยังดีอยู่มาก หลังล่าสุดมาเสียประตูท้ายเกมจนทำให้พ่ายแพ้ต่อ แมนฯ ซิตี้ แบบขาดลอย 1-3 เกมนี้ แอนทอน เฟอร์ดินานด์ กองหลังที่มีปัญหากับ จอห์น เทอร์รี่ กรณีเหยียดผิวหายเจ็บไหล่กลับมาแล้ว แต่อาจจะเป็นประเด็นในเกมนี้ ถึงแม้ว่ากุนซือทั้งสองฝั่งจะยืนยันว่าพร้อมเคารพธรรมเนียมการจับมือก่อนลงสนามก็ตาม

ข่าวดีนอกจากนั้น อเลฮานโดร ฟาอูร์ลิน กับ คีรอน ดายเออร์ สองกองกลางที่เจ็บยาว ก็ฟิตกลับเข้ามาอยู่ในโผทั้งหมด ทำให้สามารถจัดทีมบู๊ได้อย่างเต็มเนี่ยว ที่น่าสนใจคือ ชูลิโอ เซซาร์ มือจอมเหนียวทีมชาติบราซิล มีโอกาสไม่น้อยที่จะแย่งตัวจริงจาก ร็อบ กรีน มาได้ เกมนี้คาดว่าพวกเขาจะเน้นรับเป็นพิเศษ อาจจะใช้ บ็อบบี้ ซาโมร่า เป็นหอกเดี่ยว โดยมี ฌิบริล ซิสเซ่ สอดแทรกลงเล่นกรณีจัดหน้าคู่
   
เชลซี :
สิงห์บลูส์ ภายใต้การคุมทีมของ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ กุนซือชาวอิตาเลียนของ พ่ายยับเยินในเกมล่าสุด แต่เป็นฟุตบอลถ้วย ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ที่เจอ แอต.มาดริด ถล่มเละ 4-1 อย่างไรก็ตามพวกเขามีโอกาสลุ้นชนะรวด 100% ต่อไปเป็นเกมที่ 4 ข่าวดีในเกมนี้คือ 2 ดาวเตะจอมเก๋าทีมชาติอังกฤษทั้ง จอห์น เทอร์รี่ และ แอชลี่ย์ โคล ที่เจ็บข้อเท้ามา ทั้งคู่น่าจะฟิตลงเล่นได้ เว้นแต่โค้ชอิตาเลียนยังไม่กล้าเสี่ยง ให้เกิดปัญหาเพิ่มในกรณีของ เจที อาจจะใช้ ดาวิด ลุยซ์ คู่ แกรี่ เคฮิลล์ แล้วเก็บเทอร์รี่ ไว้เล่นเกมยุโรป แต่คาดว่าน่าจะเตรียมจัดชุดที่ดีที่สุดไว้ก่อน ที่ยังคงมีอาการเจ็บอยู่เหลือแค่ มาร์โค มาริน มีปัญหาบริเวณเอ็นหลังหัวเข่าเท่านั้น แนวรุกคาดว่า รามิเรส, เอแด็น อาซาร์ และ ฆวน มาต้า จะทำเกมอยู่หลัง เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ลงเป็นหน้าเป้า

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ควีนส์ปาร์ค :
(4-5-1) : ชูลิโอ เซซาร์ - โชเซ่ โบซิงวา, แอนทอน เฟอร์ดินานด์, ไรอัน เนลเซ่น, ฟาบิโอ ดา ซิลวา - ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, พาร์ค ชี-ซอง, อเลฮานโดร ฟาอูร์ลิน, เอสเตบัน กราเนโร่, จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์ - บ็อบบี้ ซาโมร่า
   
เชลซี :
(4-2-3-1) : ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - จอห์น โอบี มิเคล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด - รามิเรส, เอแด็น อาซาร์, ฆวน มาต้า - เฟร์นานโด ตอร์เรส

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

เชลซี มีนักเตะเก๋าๆให้เลือกใช้งานเยอะ ทั้งตัวจริงและสำรองที่อยู่ในระดับเหนือชั้นกว่า ควีนส์ปาร์ค ทั้งหมด แม้เจ้าถิ่นจะมีนักเตะให้เลือกเยอะไม่แพ้กัน แต่ มาร์ค ฮิวจ์ส ยังหาทีมที่จะต้านความร้อนแรงของทีมเยือนไม่ได้  เชลซี ประสานแดนกลางกับแนวรุกได้เป็นอย่างดี เกมรับเจ้าถิ่นก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ สิงห์บลูส์ น่าจะเก็บ 3 แต้มได้อย่างสบายๆในเกมนี้หากไม่กังวลเกมยุโรปจนเกินไป

73
สโต๊ค ซิตี้ - แมนฯ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 15 กันยายน 2555
เวลา : 21:00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูแชนแนล 10

เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

สโต๊ค ซิตี้ :
ช่างปั้นหม้อ สโต๊ค ซิตี้ ภายใต้การดูแลของกุนซือ โทนี่ พูลิส กำลังตามล่าหาชัยชนะนัดแรกให้ได้ในพรีเมียร์ลีก หลังจากเริ่มฤดูกาลใหม่ ทำผลงานได้แค่สกอร์เสมอสามนัดรวด สำหรับเกมที่ บริทานเนีย สเตเดี้ยม วันเสาร์นี้ มีรายงานว่า ไมเคิ่ล โอเว่น กองหน้าจอมเก๋า จะเป็นหนึ่งในผู้เล่นหน้าใหม่หลายราย ที่จะมีชื่อในทีมชุดบู๊กับแชมป์เก่า
 
โอเว่น ยืนยันว่าตัวเองฟิตเต็มที่ หลังย้ายเข้าสังกัดใหม่แบบฟรีๆ ขณะ สตีเว่น เอ็นซ็อนซี่ กับ เมาริซ เอดู ก็ลุ้นประเดิมสนามให้ต้นสังกัดใหม่ด้วยเช่นกัน รวมถึง ชาร์ลี อดัม กองกลางทีมชาติสกอตแลนด์ที่ย้ายมาจาก ลิเวอร์พูล ก็หวังได้เป็นตัวจริงครั้งแรก หลังเป็นได้แค่ตัวสำรองในนัดล่าสุดที่เสมอ วีแกน 2-2 ส่วนปีก แม็ทธิว เอเธอริงตัน และกองหลัง แอนดี้ วิลกินสัน ที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า และศีรษะกระทบกระเทือนตามลำดับ น่ากลับมาสู่ทีมอีกครั้ง แต่มิดฟิลด์ เจมี่ เนส (โคนขาหนีบ) ยังไม่พร้อม
   
แมนฯ ซิตี้ :
เรือใบสีฟ้า ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โรแบร์โต้ มันชินี่ แสดงผลงานได้ดุดันไร้ความพ่ายแพ้มา 10 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการ โดยล่าสุดเปิดบ้านขยี้ ควีนส์ปาร์ค 3-1 ก่อนเบรกทีมชาติ มีข่าวดีเมื่อ เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'' กองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินา มีลุ้นหายเจ็บหัวเข่ากลับมาช่วยทีมอีกครั้ง หลังฟิตลงซ้อมได้เรียบร้อย แต่คาดว่าคงนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน เพราะมีนัดสุดหินเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก  ที่ต้องเจอกับ เรอัล มาดริด รออยู่ช่วงกลางสัปดาห์ โดยเชื่อว่า มันโช่ คงเลือกใช้ เอดิน เชโก้ เพื่อฉะกับลูกกลางอากาศของเจ้าถิ่นอย่างแน่นอน

ขณะที่ มาริโอ บาโลเตลลี่ หัวหอกอีกราย ก็พร้อมลุยเช่นกัน หลังไปผ่าตามา แต่มิดฟิลด์ แกเร็ธ แบร์รี่ (กล้ามเนื้อท้อง) ยังไม่ฟิตพอ เช่นเดียวกับกองหลัง ไมกาห์ ริชาร์ดส์ (ข้อเท้า) ส่วนแข้งใหม่อย่างกองหลัง ไมค่อน กับ มาติย่า นาสตาสติช, กองกลาง ฆาบี การ์เซีย และปีก สกอตต์ ซินแคลร์ น่าจะได้มีส่วนร่วมในช่วงใดช่วงหนึ่งของเกม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

สโต๊ค ซิตี้ :
(4-4-1-1) : อัสเมียร์ เบโกวิช - แอนดี้ วิลกินสัน, ไรอัน ชอว์ครอส, โรเบิร์ต ฮูธ, มาร์ค วิลสัน - ไมเคิ่ล ไคต์ลี่ย์, ชาร์ลี อดัม, เกล็น วีแลน, แม็ทธิว เอเธอริงตัน - จอน วอลเตอร์ส - ปีเตอร์ เคร้าช์
   
แมนฯ ซิตี้ :
(4-2-3-1) : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, โจลีออน เลสค็อตต์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ - แจ็ค ร็อดเวลล์, ยาย่า ตูเร่ - ซามีร์ นาสรี่, คาร์ลอส เตเวซ, ดาบิด ซิลบา - เอดิน เชโก้

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

เรือใบสีฟ้า แข็งแกร่งดุเดือด อย่างไรก็ตามแนวรับยังค่อยไม่เข้าที่ดีนัก เพราะเสียประตูทุกนัดตั้งแต่เปิดฤดูกาล สถิติที่ บริทานเนีย ก็ไม่น่าประทับใจนัก เมื่อไม่ชนะที่นี่มา 13 ปีแล้ว เกมน่าสูสีกันมากกว่า ก่อนที่เจ้าบ้านจะฮึดยันเอาผลเสมอได้แบบน่าหวาดเสียว หรือถ้าแพ้ก็คงแบบหวุดหวิด ชนิดที่ทำให้แชมป์เก่าได้รุ่นแบบหืดสุดๆ
 

74
ซันเดอร์แลนด์ - ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 15 กันยายน 2555
เวลา : 23:30 น.
ถ่ายทอดสด : ช่อง 3 / ทรูสปอร์ต 3

เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

ซันเดอร์แลนด์ :
แมวดำ ซันเดอร์แลนด์ จากการทำงานของกุนซือ มาร์ติน โอนีล ออกนอกบ้านไปเสมอกับ สวอนซี แบบมันส์เดือด 2-2 ในเกมล่าสุดเมื่อสองสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตาม ในการเปิดสเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ ต้อนรับหงส์แดง วันเสาร์นี้ อดัม จอห์นสัน ปีกจอมเลื้อย ต้องต่อสู้เพื่อรักษาตำแหน่งตัวจริงของตัวเอง หลังกลับมาจากแคมป์ทีมชาติอังกฤษพร้อมอาการเจ็บต้นขา อดีตปีกแมนฯ ซิตี้ วัย 25 พลาดช่วย สิงโตคำราม ในเวิลด์ คัพ 2014 รอบคัดเลือก กับมอลโดวาและยูเครน เพราะเจ็บต้นขา โดย โอนีล ขอจับตาดูอาการอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน แดนนี่ โรส แบ็กซ้ายผิวเข้มมีลุ้นประเดิมสนาม และกองกลาง เดวิด วอห์น ที่ผ่านเกมทีมชาติเวลส์ที่โดน เซอร์เบีย ถล่มเละ 6-1 หลังหายเจ็บข้อเท้า มีลุ้นได้ลงเอี่ยวด้วย ส่วนกองหลัง ฟิล บาร์ดสลี่ย์ (ข้อเท้า) และ เวส บราวน์ (หัวเข่า) อาการดีขึ้น แต่ยังไม่พร้อม
   
ลิเวอร์พูล :
หงส์แดง ภายใต้การดูแลของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ยังคงมองหาชัยชนะนัดแรกในพรีเมียร์ลีก หลังจากที่สองสัปดาห์ที่แล้วถูก อาร์เซน่อล บุกอัด 2-0 ก่อนเกมเยือนนอร์ทอีสต์วันเสาร์นี้ กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือ ยังต้องรอประเมินความฟิตของ โฆเซ่ เอ็นริเก้ แบ็กซ้ายชาวสแปนิช ที่มีอาการเจ็บหัวเข่ากำเริบ แม้ลงซ้อมได้ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ตาม ส่วน โจ อัลเลน กองกลางจอมผ่านบอลหายป่วย และพร้อมลุยตั้งแต่นาทีแรก ขณะเดียวกัน ร็อดเจอร์ส มั่นใจว่า หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าตัวเก่ง และ เซบาสเตียน โคอาเตส กองหลังจอมแกร่งจะพร้อมลงสนาม หลังกลับมาจากช่วยทีมชาติอุรุกวัยในอเมริกาใต้
นอกเหนือไปจาก โจ โคล กับ ลูคัส เลวา ที่พักยาวแล้ว ร็อดเจอร์ส พร้อมจัดทัพชุดที่ดีที่สุดลงสนาม นำโดยกัปตันทีม สตีเว่น เจอร์ราร์ด และกองหน้าตัวเก่ง ซัวเรซ รวมถึงดาวรุ่ง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และแข้งหน้าใหม่ นูริ ซาฮิน
 
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ซันเดอร์แลนด์ :
(4-4-1-1) : ซิมง มินโญเล่ต์ - เคร็ก การ์ดเนอร์, จอห์น โอเช, การ์ลอส เกย่าร์, แจ็ค โคลแบ็ค - เจมส์ แม็คคลีน, ลี แคตเทอร์โมล, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, อดัม จอห์นสัน - สเตฟาน แซสเซอญง - สตีเว่น เฟล็ทเชอร์
   
ลิเวอร์พูล :
(4-3-3) : โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดน แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ - โจ อัลเลน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, นูริ ซาฮิน - ฟาบิโอ บอรินี่, หลุยส์ ซัวเรซ, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

แมวดำ เล่นในบ้านระยะหลังโดเด่นไม่เป็นรอง หงส์แดง ที่เกมรุกยังไม่ค่อยลงตัว เกมริมเส้นก็วูบวาบน่ากลัว เรตแข็งทางฝั่งทีมเยือนบอลทรงเล่นแบบเดียวกับที่ อาร์เซน่อล ที่ไม่กี่นัดก่อนหน้านี้ ซันเดอร์แลนด์ บุกยันได้มาแล้ว เกมนี้เจอกับ หงส์แดง ก็น่าจะพอรับมือได้อย่างน้อยลุ้นมุมเสมอ

75
แมนฯ ยูไนเต็ด - วีแกน (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 15 กันยายน 2555
เวลา : 21:00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1

เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

แมนฯ ยูไนเต็ด :
ปีศาจแดง ภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หวังแก้แค้นอีกครั้งหลังพ่าย วีแกน 0-1 แบบเจ็บปวดปลายฤดูกาลที่แล้วจนทำให้พลาดแชมป์ และล่าสุดมีปัญหาเล็กน้อยเมื่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กับ ชินจิ คางาวะ มีปัญหาเจ็บต้นขา และหลังจากทีมชาติ แต่ทั้งคู่ยืนยันว่าฟิตพร้อมลงเล่นทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับว่า เฟอร์กี้ จะเลือกพักไว้เล่นเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลางสัปดาห์หรือเปล่ามากกว่า แต่ แอชลี่ย์ ยัง ที่เจ็บหัวเข่าจนพลาดช่วยทีมชาติอังกฤษ ไม่น่าไหว ทำให้ หลุยส์ นานี่ ปีกทีมชาติโปรตุเกส จะได้โอกาสกลับมาเป็นตัวจริง ที่น่าจะได้พักแน่ๆ คือ ปาทริซ เอวร่า แบ็กซ้ายฟอร์มตกจะได้พักเพื่อเปิดโอกาสให้ อเล็กซานเดอร์ บุทท์เนอร์ ได้ประเดิมสนาม

ข่าวดีในเกมนัดล้างตานี้คือ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ กองกลางชาวสกอตแลนด์ ที่พักแข้งไปนาน เพราะลำไส้สักเสบมีชื่อในโผด้วย แต่ เวย์น รูนี่ย์ (ขา), ฟิล โจนส์ (หลัง) และ คริส สมอลลิ่ง (เท้า) ยังหมดสิทธิ์ รายของ ดาบิด เด เค อา น่าจะกลับมาเป็นตัวจริงแทน อันเดอร์ส ลินเดการ์ด ที่ได้เฝ้าในเกมชนะ นักบุญ 3-2 แนวรุกยังน่าจะเป็น อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ชินจิ คางาวะ และ หลุยส์ นานี่ ทำเกมอยู่หลัง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่ลงเป็นหน้าเป้า
   
วีแกน :
เดอะ ลาติกส์ ภายใต้การคุมทีมของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ เสมอกับ สโต๊ค ซิตี้ 2-2 ในเกมล่าสุด แต่ทีมมีปัญหาพอสมควรเมื่อ ฌอง โบเซอฌูร์ วิงแบ็กตัวเก่ง ได้รับบาดเจ็บบริเวณเอ็นหลังหัวเข่าในเกมล่าสุด พลาดช่วยทีมชาติชิลีมาแล้วเกมนี้ก็น่าจะชวด
นอกจากนั้น อันโตลิน อัลการาซ กองหลังทีมชาติปารากวัย เจ็บกล้ามเนื้อท้องมาจากเกมทีมชาติก็น่าจะชวดอีกราย แต่ เรียว มิยาอิชิ ดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่นมีข่าวว่าอาจจะได้เป็นตัวจริงเกมแรก รายของ เจมส์ แม็คอาเธอร์ อาการปวดหลังดีขึ้นก็น่าจะเล่นได้

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

แมนฯ ยูไนเต็ด :
(4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - ราฟาเอล ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, อเล็กซานเดอร์ บุทท์เนอร์ - พอล สโคลส์, ไมเคิ่ล คาร์ริค - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ชินจิ คางาวะ, หลุยส์ นานี่ - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
   
วีแกน :
(3-4-3) : อาลี อัล ฮับซี่ - แกรี่ คัลด์เวลล์, อิบัน รามิส, มายเนอร์ ฟิเกรัว - เอ็มเมอร์สัน บอยซ์, เจมส์ แม็คคาร์ธี่, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์, เรียว มิยาอิชิ - อารูน่า โกเน่, ฟรังโก้ ดิ ซานโต้, ฌอน มาโลนี่ย์

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ยึดมั่นแผนการเล่นปลายฤดูกาลที่แล้ว และทีมทำผลงานได้ดีต่อเนื่องทีเดียว แม้จะยืนระบบ 3-4-3 แต่ยามเล่นเกมรับเหมือนมีกองหลัง 5 ตัวทำให้เล่นได้เหนียวแน่น แนวรุกก็ใช้ได้ ขณะที่ ปีศาจแดง เล่นอย่างระมัดระวัง แนวรับมีเปลี่ยนแปลงผู้เล่นด้วยอาจจะเสียประตูได้อีก เกมนี้ เฟอร์กี้ หวังเก็บ 3 แต้มให้ได้ก่อน อาจจะชนะไม่ขาด
 

หน้า: 1 ... 3 4 [5]