ลิเวอร์พูล - สวอนซี (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 23 กุมภาพันธ์ 2557
เวลา : 20:30 น.
ถ่ายทอดสด : CTH สเตเดี้ยม 2
เปรียบเทียบความพร้อมของทีม ลิเวอร์พูล : "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ภายใต้การทำงานของกุนซือตาหวาน "เบรนแดน ร็อดเจอร์ส" เพิ่งโดน "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เชือด 2-1 จนตกรอบห้า เอฟเอ คัพ เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้หวังกระชากตัวเองกลับมาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะอีกครั้ง เพื่อรักษาความหวังในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก และท็อปโฟร์ต่อไป
ร็อดเจอร์ส ซึ่งทำทีมแซงฟูแล่มเข้าวิน 3-2 ในพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดเมื่อกลางสัปดาห์ก่อน จะได้ตัว เกล็น จอห์นสัน แบ็กขวาจอมบุกทีมชาติอังกฤษกลับมาอยู่ในทีมอีกครั้งสำหรับการเปิดแอนฟิลด์ รับสวอนซี ทีมเก่าของตัวเอง หลังจากที่เจ้าตัวหายหน้าไปกว่าหนึ่งเดือน เพราะเจ็บข้อเท้า และโคนขาหนีบ
นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่า มามาดู ซาโก้ ผู้เล่นในแนวรับอีกราย น่าจะกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้งในสัปดาห์หน้า หลังจากที่มีปัญหาเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ในรายของ ลูคัส เลวา กองกลางทีมชาติบราซิล ก็ตอบสนองได้ดีกับการรักษาอาการเจ็บหัวเข่า แต่แบ็กซ้าย โฆเซ่ เอ็นริเก้ ถูกส่งตัวไปพบผู้เชี่ยวชาญที่สหรัฐฯ แล้ว
เชื่อว่า บีร็อดน่ายังยึดทีมชุดเดิมๆ ที่เล่นได้ลื่นไหลต่อไป โดย จอร์แดน เฮนดอร์สัน มิดฟิลด์ที่เจ็บข้อมือจนเป็นแค่สำรองในเกมฟุตบอลถ้วย เตรียมกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง ส่วน โคโล ตูเร่ ที่ผิดพลาดบ่อยในพักหลัง จะนั่งดู แดน แอ็กเกอร์ ต่อไป ขณะที่ จอน ฟลานาแกน คงเป็นแบ็กขวาจำเป็นต่อ เพื่อรอให้จอห์นสันเต็มร้อยชัวร์ๆ ในนัดซด เซาธ์แฮมป์ตัน สัปดาห์หน้า
แดนกลางมีกัปตันทีมชาติอังกฤษ สตีเว่น เจอร์ราร์ด คอยคุมเกม ปล่อยให้ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กับ ราฮีม สเตอร์ลิง ผนึกกำลังกับ หลุยส์ ซัวเรซ ดาวซัลโว 23 เม็ดในแนวรุกเช่นเคย
สวอนซี : ฟากของ "หงส์ขาว" สวอนซี ซิตี้ ได้กุนซือรักษาการณ์ "แกร์รี่ มังค์" มานั่งทำทีมแทน ไมเคิ่ล เลาดรู๊ป และทำผลงานใช้ได้ทีเดียว โดยชนะหนึ่ง, เสมอสอง และแพ้หนึ่ง ล่าสุดคือการเปิดบ้านเสมอกับนาโปลี จากกัลโช่ เซเรีย อา ใน ยูโรปา ลีก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
มังค์กำชับลูกทีมเน้นเต็มที่ในการเยือน แอนฟิลด์ เพราะอยู่ห่างจากโซนแดงแค่น้อยนิด หลังผลงานในพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุด ออกไปยันสโต๊ค 1-1 ตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ก่อนจะโดน เอฟเวอร์ตัน เขี่ยตกรอบห้า เอฟเอ คัพ ด้วยสกอร์ 3-1
สภาพทีมล่าสุด ถือว่า มังค์มีตัวเลือกค่อนข้างสมบูรณ์ทีเดียว โดย จอนโจ เชลวี่ย์ กองกลางจอมลุยเด็กเก่าหงส์แดงไม่ได้มีอาการใดๆ หลังเพิ่งหายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ากลับมาเป็นสำรองได้ในเกมยูโรปา ลีก
ขณะที่มิชูกองหน้าชาวสแปนิช มีลุ้นได้ลงสนามเช่นกัน แต่คงต้องเป็นสำรองไปก่อน เพราะมังค์คงเลือกที่จะไม่เสี่ยงกับอาการเจ็บ หลังเจ้าตัวเพิ่งฟื้นกลับมาจากการไปผ่าตัดข้อเท้า โดยมีความเป็นไปได้มากกว่าที่ดาวเตะกระทิงดุ จะได้คืนสนามเป็นตัวจริงในเกมยูโรปา ลีก นัดเยือนนาโปลีในสัปดาห์หน้า
มาร์วิน เอ็มเนส แกนรุกคนใหม่ เตรียมกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง ขณะที่ โจนาธาน เด กุซมัน ที่ได้พักในเกมกลางสัปดาห์ จะกลับมาคุมแดนกลาง โดยมีเชลวี่ย์บัญชาเกมรุกในการเจอทีมเก่า ให้หอกเป้าจอมถึก วิลฟรีด โบนี่
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล : (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ - จอน ฟลานาแกน, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดน แอ็กเกอร์, อาลี ซิสโซโก้ - จอร์แดน เฮนดอร์สัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ฟิลิปป์ คูตินโญ่ - ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, หลุยส์ ซัวเรซ, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
สวอนซี : (4-2-3-1) : มิเชล ฟอร์ม - อังเคล รานเคล, ชิโก้ ฟลอเรส, แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์, เบน เดวิส - ลีออน บริตตัน, โจนาธาน เด กุซมัน - มาร์วิน เอ็มเนส, จอนโจ , เวย์น เราท์เล็ดจ์ - วิลฟรีด โบนี่
วิจารณ์เกมการแข่งขัน
ย้อนไปคราวอดีต "บีร็อด" นั้นเคยคุม "หงส์ขาว" มาก่อน จึงน่ารู้จุดอ่อนของทีมเยือนดี ถึงแม้ว่า "หงส์ขาว" จะเพิ่งเอา "นาโปลี" อยู่ แต่ทว่าเกมนี้ไม่เหมือนกันแน่ เพราะเป็นการเยือนถิ่นแอนฟิลด์ ที่ "หงส์แดง" ดุดันมาก โดยชนะถึง 9 จาก 10 นัดหลังในพรีเมียร์ลีก แถมสถิติที่ยิงอย่างน้อย 3 ลูกใน 8 จาก 10 นัดหลังที่เล่นในบ้านด้วย ซึ่งใขณะเดียวกันอาคันตุกะไม่ชนะนอกบ้านเลยใน 7 เกมหลัง งานนี้แนวรุกจี๊ดๆ อย่าง "ซัวเรซ, สเตอร์ริดจ์ กับ สเตอร์ลิง" จะช่วยกันฉีกเกมรับ "หงส์ขาว" กระจุยแน่และคงยิงไม่เลี้ยงแน่นอน
