พฤศจิกายน 22, 2024, 11:57:53 PM

ผู้เขียน หัวข้อ: "แกเร็ธ เบล" กับความเร็วสุดฮือฮา  (อ่าน 3704 ครั้ง)

Reporter

  • Member
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 1019
    • ดูรายละเอียด
"แกเร็ธ เบล" กับความเร็วสุดฮือฮา
« เมื่อ: กันยายน 22, 2013, 03:46:55 PM »
       มีเรื่องสุดฮือฮาในช่วงเปิดฤดูกาลกันไปแล้ว ซึ่งก็คือเรื่องราวการย้ายทีมของแกเร็ธ เบล ปีกชาวเวลล์จากสเปอร์ไปมาดริดด้วยค่าตัวที่ทำลายสถิติโลก แต่ยังไม่ทันไรเจ้าของค่าตัวสถิติโลกคนล่าสุดก็ทำเรื่องสุดฮือฮาอีกครั้งเมื่อถูกสื่อสเปนตรวจจับความเร็วในการวิ่งของเจ้าตัวซึ่งปรากฏว่าเร็วมากถึงถึง 40 กิโลเมตร/ชั่วโมงเลยทีเดียว โดยถ้าใครนึกไม่ออกว่าประมาณไหนก็ลองนึกถึงตอนเราขับรถจักรยานยนต์ หรือรถยนต์ด้วยความเร็วที่ 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง ดูนั่นล่ะครับ คือเวลาขับรถน่ะอาจจะเป็นความเร็วที่เราว่าธรรมดา แต่สำหรับขาคนที่สิ่งเอาไปลองสิ่งไล่ตามรถที่ขับความเร็วประมาณนั้นได้เลยครับไม่สามารถตามทันได้แน่นอน

       ทั้งนี้ความเร็วดังกล่าวถูกนำไปเปรียบเทียบกับยูเซน โบลต์ นักวิ่งลมกรดเจ้าของสถิติความเร็วโลกว่าช้ากว่าเพียงแค่ 2 ไมล์/ชั่วโมงเท่านั้นเอง ทั้งๆที่สภาพร่างกายของแกเร็ธ เบล เวลานี้ก็ยังไม่ได้ฟิตเต็มร้อยซะด้วย ประมาณถ้าแกเร็ธ เบล ฟิตเต็มร้อยก็คงสู้กับยูเซน โบลต์ได้อย่างสนุกสูสีเป็นแน่ อย่างไรก็ดีความเร็วของแกเร็ธ เบลที่ถูกตรวจวัดนั้นเป็นเพียงความเร็วช่วงระยะเวลาของการเร่งสปีดฝีเท้าแบบสุดกำลังเท่านั้น ซึ่งก็คือในเกมลาลีกาที่มาดริดลงทำการแข่งขันกับทีมบียาร์รีล ในจังหวะที่เจ้าตัววิ่งเพื่อไปตวัดบอลไม่ให้ออกข้างสนาม ส่วนเรื่องของสภาพร่างกายแกเร็ธ เบลที่ว่าไม่ฟิตเต็มร้อยนั้นเป็นเพราะว่าช่วงปรีซีซั่นเจ้าตัวไม่ได้ลงทำการแข่งขันเหมือนนักเตะคนอื่นๆ และช่วงต้นฤดูกาลก็ไม่ได้ลงซ้อมแบบจริงๆจังๆเหมือนนักเตะรายอื่นๆ

       เนื่องจากมีปัญหาคาราคาซังในการย้ายทีมจากสเปอร์มาอยู่มาดริด อย่างไรก็ตามส่วนตัวผมเชื่อว่าหากให้ทางด้านเบลมาแข่งวิ่งกับทางด้านยูเซน โบลต์ นักวิ่งลมกรดเจ้าของสถิติโลกนั้น ในช่วงที่ทั้งคู่มีสภาพความฟิตแบบเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมยังเชื่อว่าโบลต์น่าจะเป็นฝ่ายที่เอาชนะเบลได้ ด้วยการใช้ความเร็วในกีฬาฟุตบอลนั้นแตกต่างจากการแข่งวิ่งทั่วไป คือการสปีดของเบลในสนามฟุตบอลจะมีเรื่องของการเร่งไปเก็บบอล ตวัดบอล หรือวิ่งไล่คู่แข่ง สปีดหนีกองหลังฝ่ายตรงข้ามเข้ามาเป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดความเร็วแต่กับการแข่งวิ่งปกตินั้นไม่มีองค์ประกอบเหล่านี้ และแน่นอนว่าโบลต์ย่อมคุ้นเคยกว่าครับ