อาจจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้ทีมผีแดง แมนฯยูไนเต็ดพ่ายแพ้ต่อเวสต์บรอม และต้องตกลงไปอยู่ครึ่งล่างของตารางคะแนนก็เป็นได้ในส่วนของการแก้เกมของเดวิด มอยส์ ที่ถูกหลายคนวิพากษ์ วิจารณ์ว่าแก้เกมได้ผิดพลาด และช้าเกินไปด้วย โดยในเกมนี้จะเห็นได้ว่าเริ่มต้นเกมเดวิด มอยส์จัดตัวผู้เล่นแบบตัวจริงปนสำรอง คือไม่ส่งนักเตะคนสำคัญอย่างมารูยาน เฟลไลนี่ และโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ลงสนาม แต่เลือกส่งนักเตะอายุน้อยอย่างฮาเวียร์ ชิชาร์ริโต้ ลงสนาม
แต่เมื่อเกมดำเนินไปจนถึงครึ่งเวลาหลังของการแข่งขันทีมแมนฯยูไนเต็ดไม่สามารถยิงประตูขึ้นนำทีมเวสต์บรอมได้ เดวิด มอยส์จึงแก้เกมด้วยการถอดชินจิ คางาวะออกแล้วส่งนักเตะดาวรุ่งอย่างอัดนาน ยานูซาจลงมาแทน ตรงนี้แหละที่ทำให้ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการแก้เกมที่ผิดพลาดและนำความพ่ายแพ้มาให้ทีม คือคนส่วนใหญ่มองว่าคางาวะอยู่ในสนามน่าจะมีประโยชน์กว่าการส่งยานูซาจลงมาเล่นแทน ทั้งนี้ยานูซาจลงมาก็ไม่ได้มีการปรับเกม หรือโยกย้ายตำแหน่งผู้เล่น แต่ให้ทางด้านยานูซาจนั้นเล่นเป็นเพลย์เมกเกอร์เลย คือด้วยประสบการณ์ ด้วยจิตนาการในการสร้างสรรค์เกมตำแหน่งนั้น ยานูซาจยังไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ต่างจากคางาวะที่มีประสบการณ์กับทีมดอร์ทมุนด์ในตำแหน่งนี้สูงมาก แล้วความเป็นจริงในสนามก็ตามนั้น การแก้เกมครั้งนี้ของมอยส์ไม่ได้ช่วยทำให้เกมของแมนฯยูไนเต็ดดีขึ้นเลย
หลังจากนั้นพอเกมผ่านไปสักพักจึงค่อยตัดสินใจส่งโรบิน ฟาน เพอร์ซีลงสนามมา ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาประจวบเหมาะกับที่แมนฯยูไนเต็ดไปประตูตีเสมอพอดี แต่ทว่าเพอร์ซีลงมาเกมของแมนฯยูไนเต็ดก็ยังไม่ดีแถมยังต้องมาโดนประตูขึ้นนำอีก ท้ายที่สุดมอยส์ก็เลือกต้องเลือกส่งมารูยาน เฟลไลนี่ลงมาช่วย แต่เวลาที่เหลือนั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้แมนฯยูไนเต็ดได้ประตูตีเสมอจึงพ่ายไปในที่สุด คือสองคีย์แมนสำคัญอย่าง เพอร์ และเฟลไลนี่นั้น ด้วยรูปเกมแบบที่เป็น มอยส์ควรจะเลือกส่งลงไปตั้งนานแล้ว คือจริงๆไม่ควรจะเปลี่ยนเอายานูซาจลง และเลือกส่งสองคนนี้ลงไปทันทีเลย แต่ก็นั่นแหละครับ สิ่งที่มอยส์ทำช้าเกินไปก็จึงต้องยอมรับกับผลการแข่งขันที่ออกมา