ออกมาเผยกันแบบตรงไปตรงมา สำหรับความรู้สึกในการทำทีม เชลซี ของ โจเซ่ มูริญโญ่ ในคำรบที่สองนี้ โดยเจ้าตัวนั้นบอกว่ามันเป็นงานที่ยากกว่าเมื่อสมัยที่เขาคุมเชลซีครั้งแรก และก็สิ่งที่ต้องทำนั้นก็แตกต่างออกไปด้วย ในสมัยที่เขาคุมทีมเชลซีครั้งแรกนั้นมีนักเตะในทีมมากมายที่ฝีเท้าดีและอยู่ในช่วงที่ฟอร์มกำลังพีคๆ หรืออยู่ในจุดสูงสุดของการค้าแข้งนั่นเอง คือมูริญโญ่นั้นพยายามจะบอกว่าขุมกำลังชุดดีไม่ดีเท่าเหมือนก่อนนั่นล่ะครับ
ทั้งนี้เชลซีก่อนหน้าที่มูริญโญ่จะเข้ามาคุมทีมในคำรบที่สองนี้ประสบความสำเร็จในรายการยุโรปสองฤดูกาลติดต่อกัน ด้วยการคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก และยูโรป้าลีก แต่กระนั้นมูริญโญ่ก็พยายามจะหักลบความสำเร็จของเชลซีนี้ พร้อมทั้งพยายามอธิบายว่าที่ผ่านมาเชลซีไม่ได้ประสบความสำเร็จ และมีสภาพทีมที่ไม่สู้ดีด้วยการหยิบยกเอาจำนวนแต้มในลีกสองฤดูกาลล่าสุดมาพูดถึง คือในฤดูกาลที่แมนฯซิตี้เป็นแชมป์ และฤดูกาลที่แล้วที่แมนฯยไนเต็ดเป็นแชมป์ สำหรับฤดูกาลที่แมนฯซิตี้เป็นแชมป์ลีกนั้น เชลซีจบอันดับหกของตารางคะแนนและมีแต้มตามหลังทีมแชมป์มากถึง 25 แต้ม ส่วนฤดูกาลที่แล้วเชลซีจบอันดับสาม แต่ทว่าแต้มห่างทีมแชมป์ถึง 14 แต้ม มูริญโญ่ชี้ว่านี่คือปัญหาที่ใหญ่มาก โดยยกตัวอยากขึ้นมาด้วยว่าการที่จะเก็บแต้มได้ราวๆ 20 แต้มนั้นต้องชนะมากถึง 7 นัดด้วยกัน
ซึ่งว่ากันไปตามความเห็นของมูริญโญ่ก็ถือว่าถูกต้องตามนัดละครับ ชัยชนะ 7 นัดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ คือมันบกบ่องได้ถึงความห่างชั้นระหว่างทีมที่เขาประสบความสำเร็จ หรือกล่าวอีกนัยว่าบ่งบอกถึงความสม่ำเสมอของทีมที่จะคว้าแชมป์ลีกน่ะครับ อย่างไรก็ตามมูริญโญ่ยืนยันว่านี่คืองานที่ยากมากๆ แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้มองถึงเรื่องของการเสริมทัพเพื่อแก้ปัญหา แต่มองไปที่เรื่องของสภาพจิตใจความมั่นใจของตัวนักเตะในทีมที่มีอยู่ตอนนี้มากกว่า