ถ้าใครยังพอจำช่วงที่ฟาบิโอ คาเปลโล ลาออกจากตำแหน่งกุนซือทีมชาติอังกฤษได้ ก็น่าพอจำได้เช่นกันว่าเวลานั้นกุนซือที่เป็นตัวเต็งในการเข้ามาสานต่อตำแหน่งนั้นคือ “แฮรี่ เร้ดแน็ป” ที่ตอนนั้นทำหน้าที่เป็นกุนซือของทีมไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ แต่พอถึงเวลาที่เอฟเอตัดสินใจเลือกตั้งแต่งกุนซือคนใหม่จริงๆกลับเป็นว่าผู้ที่ได้เข้ามารับตำแหน่งต่อจากคาเปลโลเป็นทางด้าน รอย ฮ็อดจ์สัน อดีตผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล และเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน และแน่นอนถึงตอนนี้รอย ฮ็อดจ์สัน ก็ยังคงคุมทีมชาติอังกฤษ
แต่ทว่าประเด็นหลักใหญ่ที่ทำให้เราได้หวนกลับมาพูดถึงกรณีนี้กันอีก ก็คือการเปิดใจของเร้ดแน็ปผ่านอัตชีวประวัติส่วนตัวของเขาถึงกรณีที่เอฟเอไม่เลือกเขาเข้ารับตำแหน่งนายใหญ่ของทัพสิงโตคำราม โดยเป็นการออกแนวจวกระบบการทำงานของเอฟเอ ซึ่งเนื้อใจความที่เร้ดแน็ปเปิดใจออกมาก็เป็นประมาณว่าตนเองรู้สึกผิดหวังที่เอฟเอไม่ตัดสินใจเลือกตนเข้ารับตำแหน่ง เพราะขณะนั้นเป็นที่คาดการณ์กันว่าตนเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดและก็มีนักเตะบิ๊กเนมในทีมชาติ อาทิเช่น สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ริโอ เฟอร์ดินานด์ จอห์น เทอร์รี่ เวนย์ รูนี่ย์ ที่ให้การสนับสนุน ต้องการให้ตนได้ทำหน้าที่กุนซือทีมชาติอังกฤษ ทั้งยังได้มีการเปรียบเทียบว่าผลงานของตนเองดีกว่ารอย ฮ็อดจ์สัน เหมาะที่จะเป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษมากกว่า
นอกจากนี้ก็ยังกล่าวเชิงเหน็บแหนบรอย ฮ็อดจ์สันว่าเป็นบุคคลที่ไปดื่มชากับเอฟเอบ่อยกว่าตนเอง เอฟเอจึงเลือกเข้ารับตำแหน่ง ส่วนที่กล่าวตำหนิเอฟเอแบบตรงๆก็คือกล่าวออกมาทำนองว่าเอฟเอนั้นไม่รู้เรื่องฟุตบอลที่แท้จริง และตนก็ไม่คาดหวังว่าจะได้เห็นผู้จัดการทีมที่ดีโดยการเลือกจากเอฟเอ อย่างไรก็ตามนอกจากประเด็นหลักที่ออกแนวจวกเอฟเอนี้แล้ว เร้ดแน็ปก็ยังเผยถึงแพลนของตนเอง ณ ช่วงเวลาก่อนที่เอฟเอจะประกาศแต่งตั้งรอย ฮ็อดจ์สันเข้ามาคุมทีมว่าตนนั้นได้เตรียมทาบทาม แบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่ตอนนั้นเป็นผู้จัดการทีมสวอนซีไว้ว่าจะให้เข้ามาเป็นผู้ช่วยหากว่าตนได้รับตำแหน่งกุนซือทีมชาติอังกฤษ และร็อดเจอร์สเองก็สนใจคำชวนของตน