ท่ามกลางสถานการณ์ที่ทีมชาติใหญ่ๆหลายชาติทะลุเข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2014 เรียบร้อยกันแล้วนั้น มีหนึ่งทีมที่อาจเรียกได้ว่าแกะดำ เพราะยังต้องไปลุ้นกันในแมทสุดท้ายนั่นก็คือทีมชาติอังกฤษ คือถึงตอนนี้แข่งขันกันในรอบคัดเลือกจนมาเหลืออีกเพียงนัดเดียวแล้วเท่านั้นแต่ทีมชาติอังกฤษก็ยังไม่การันตีการตีตั๋วเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายที่ประเทศบราซิลได้สักที คือหากในแมทสุดท้ายพลาดท่าพ่ายให้คู่แข่งก็อาจต้องร่วงลงไปเล่นเพลย์ออฟ แล้วลุ้นผลอีกทีว่าจะได้ทะลุเข้ารอบต่อไปหรือไม่
แต่ถึงกระนั้นก็เถอะในนัดก่อนรองสุดท้ายในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2014 ที่ทีมชาติอังกฤษเจอกับมอนเตรเนโกก็ถือว่าพวกเขาโชว์ฟอร์มได้หรู เป็นที่น่าประทับใจสำหรับแฟนบอลไม่น้อยเลย ทั้งนี้อังกฤษสามารถเอาชนะมอนเตรเนโกไปได้ 4-1 โดยเริ่มต้นได้ประตูแรกในนาทีที่ 48 จากการยิงของเวนย์ รูนี่ย์ ซึ่งจังหวะประตูนี้ส่วนนึงต้องชื่นชมการทำหน้าที่ของทางด้านแอนดอส ทาวน์เซนต์ ดาวรุ่งน้องใหม่ที่เพิ่งจะได้ลงสนามเป็นตัวจริงให้ทีมชาติอังกฤษเป็นนัดแรกด้วย เพราะจังหวะเริ่มต้นจากการกระชากของทาวน์เซนต์แล้วเปิดเข้าไปให้เวลเบคยิงซึ่งติดเซฟของผู้รักษาประตูมอนเตเนรโก จากนั้นจึงเป็นรูนี่ย์มาตามยิงเป็นประตูดังกล่าวครับ ส่วนประตูที่สองมาได้ในนาทีที่ 62 จากการตอกส้นเข้าไปบริเวณหน้าปากประตูมอนเตเนรโกของดาเนียล สเตอร์ริดจ และไปโดนผู้เล่นกองหลังของมอนเตฯสกัดพลาดเข้าประตูไป
ต่อมาอีกสิบนาทีเป็นมอนเตเนโกรที่มาตีไข่แตกไล่มาเป็น 2-1 จากเดยัน ดัมยาโนวิช แต่ไม่กี่นาทีให้หลังแอนดอส ทราวน์เซนต์ดาวรุ่งพุ่งแรงก็มาซัดประตู 3-1 ให้ทีมสิงโต และปิดท้ายด้วยจุดโทษอีกหนึ่งลูกของดาเนียล สเตอร์ริดจ์ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ส่วนไฮไลท์การเปลี่ยนตัวผู้เล่นของทีมชาติก็มีแลมพาร์ดที่ถูกถอดออกในนาทีที่ 65 และคาร์ริคลงมาแทน แอนดอส ทราน์เซนต์ที่ถูกถอดออกในนาทีที่ 80 และแจ็ค วิลเชียร์ลงมาแทน กับอีกรายคือสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ถูกถอดออกในนาทีที่ 88 โดยเป็นเจมส์ มิลเนอร์ที่ลงมาแทน
