พฤศจิกายน 02, 2024, 06:32:24 AM

ผู้เขียน หัวข้อ: หัวขิงกด 100 แล้ว~!! "หงส์" ไล่ตามเจ๊า "สาลิกา" 10 ตัวหืด 2-2  (อ่าน 3319 ครั้ง)

888Bullets

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2127
    • ดูรายละเอียด
เกมนี้เล่นเอาเหนื่อยพอสมควรเพราะเกือบพลาดคะแนนสำคัญไปสำหรับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่วันนี้ต้องไล่ตาม "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ที่เหลือ 10 ตัวตั้งแต่ต้นครึ่งแรกถึง 2 ครั้ง 2 ครา แต่สุดท้ายก็เก็บหนึ่งแต้มจบที่สกอร์ 2-2 พร้อมกับประตูที่ 100 ของ "เจอร์ราร์ด" ที่ทำให้กับสโมสร



พรีเมียร์ ลีก
วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2556
นิวคาสเซิ่ล 2 - 2 ลิเวอร์พูล
สนาม เซนต์ เจมส์ ปาร์ค

               เปิดฉากเริ่มเกมผ่านมา 10 นาทีแรกมาของเกมเปิดหัวพรีเมียร์ ลีกประจำสัปดาห์ ถือว่าทั้งคู่ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากสักเท่าไหร่ในเกมนี้ แต่ด้วยความที่เป็นเจ้าบ้านก็ทำให้นิวคาสเซิ่ลดูจะเหนือกว่าเล็กน้อยในจังหวะการพาบอลขึ้นหน้า แต่ยังไม่มีการจบสกอร์ให้เห็นกันทั้งคู่

หลังจากนิวคาสเซิ่ลเหมือนจะบุกฮึดๆช่วงแรก ตอนนี้สลับมาเป็นลิเวอร์พูลที่มีโอกาสกดดันใส่ชุดใหญ่ หลังจากที่สเตอร์ริดจ์ได้จังหวะหลุดเข้าเขตโทษ แต่มุมมันเบี่ยงออกข้างเกินไปหน่อย จังหวะยิงเลยเฉือนๆบอลไม่แรงถูกเซฟเอาไว้ได้ แต่มาจนถึงนาทีที่ 20 กว่านี่ "หงส์แดง" ก็ยังคุมเกมเอาไว้ได้ดีอยู่

นาทีที่ 22 บอกได้คำเดียวว่ายังไงก็ต้องเสียประตูเท่านั้นสำหรับการยิงที่ยอดเยี่ยมของกาบาย จากจังหวะที่เขาได้บอล ขยับแตะขึ้นหน้าแล้วกองหลังของลิเวอร์พูลไม่ยอมเข้ามาบีบ เลยจัดการง้างแล้วส่องไกลเกือบ 30 หลาทันที บอลพุ่งติดไซร์ก่อนที่จะฮุคลงพื้นเด้งหนีมือของมินญอเล่ต์ที่บินเท่าไหร่ก็ได้แต่เหลียวมองเสียบเสาไกลเข้าประตู งามชวนขนลุก นิวคาสเซิ่ลนำก่อนแล้ว 1-0

อีก 2 นาทีต่อมา ถือว่าพลาดมากพอสมควรเลยสำหรับจังหวะของซาโก้ที่ซัวเรซอุตส่าห์ใช้สกิลการม้วนหนีไปเอาบอลตวัดตักเข้ากรอบเขตโทษได้แล้ว แต่ซาโก้ที่ยืนจังก้าอยู่คนเดียวกลับพุ่งโหม่งบอลหลุดกรอบออกไปแบบไม่ได้เฉียดใกล้ ดูแล้วยังไงก็น่าจะมีลุ้นมากกว่านี้

นาทีที่ 37 หลังจากมีอาการเมาหมัดจนบุกไม่ขึ้นสักเท่าไหร่ ลิเวอร์พูลก็เกือบจะมาโดนยิงเอาอีกเม็ด คราวนี้เปลี่ยนหน้ามาเป็นซิสโซโก้ที่แตะหาพื้นที่หน้าเขตโทษ ก่อนที่จะตวัดยิงด้วยเท้าซ้าย บอลพุ่งตัดอากาศหักจะเสียบเสาแรกอยู่แล้ว แต่มินญอเล่ต์ดีดสุดตัว พุ่งปัดพ้นจากปากประตูได้อย่างสวยงาม

อีก 3 นาทีต่อมา หวิดว่าจะโดนตีเสมอแบบไร้ซึ่งซะแล้วสำหรับนิวคาสเซิ่ล เพราะว่าทิโอเต้ดันไปจ่ายแบบไม่รู้หัวรู้หางติดนักเตะของลิเวอร์พูล โชคยังดีที่จังหวะตวัดยิงของแข้งหม่อมกัดนั้นมันไม่พ้นวิถีของครูลที่ล้มตัวปัดเอาไว้ ก่อนจะตะครุบอีกครั้งได้

นาทีที่ 42 เป็นจุดเปลี่ยนขนานแท้สำหรับเกมนี้ เมื่อเอ็มบีว่าที่อ่อนประสบการณ์ดันไปก่ะจังหวะโหม่งบอลพลาด ทำให้เลยไปจนถึงซัวเรซที่ลูบปากลูบฟันลงสังหาร แต่โดนเกี่ยวแขนจากด้านหลังเอาไว้อย่างชัดเจน แน่นอนว่าผู้ตัดสินวิ่งมาแบบไม่ลังเลเป่าให้จุดโทษพร้อมควักใบแดงแถมอีกต่างหาก ก่อนที่เจอร์ราร์ดจะรับหน้าที่สังหารยิงเลียดหนีมือครูลเข้าไปเสียบเสาอย่างงาม ลิเวอร์พูลตามตีเสมอเป็น 1-1 พร้อมกับประตูที่ 100 ของเจอร์ราร์ดที่ทำให้กับสโมสร

จบ 45 นาทีแรกเลยกลายเป็นว่าทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ที่ 1-1 แต่นิวคาสเซิ่ลเสียหายน่าดูเพราะเหลือผู้เล่นอยู่แค่ 10 คนเท่านั้นในสนาม

             กลับมาเล่นกันต่อในช่วงครึ่งหลังได้แค่ 3 นาที ลิเวอร์พูลได้ใจขอส่องเบิกโอกาสที่จะขึ้นนำให้ได้ก่อนเลย จากจังหวะที่จอห์นสันวิ่งเติมขึ้นสูง ก่อนจะกดสูตรล็อคตัดเข้าในแล้วซัดด้วยซ้ายชี้เป้าไปที่เสาแรกทันที เกือบจะสมหวังดั่งหมายอยู่แล้ว แต่ครูลบินมาสุดตัวปัดทิ้งออกหลังไปได้ซะก่อน ไม่งั้นล่ะหล่อน่าดู

นาทีที่ 56 เป็นความผิดพลาดในแนวรับที่ชัดเจนอย่างที่สุดสำหรับลิเวอร์พูลที่ตัวผู้เล่นยืนอยู่กันเพียบในเขตโทษ แต่กลับสกัดบอลตั้งเตะที่นิวคาสเซิ่ลเปิดเข้าไปไม่ได้ ก่อนที่บอลจะเลยยาวไปถึงดัมเมตต์ที่ถูกเปลี่ยนลงมาเล่นช่วงท้ายครึ่งแรกสอดตัวเข้ามาแปเน้นๆผ่านหน้าของมินญอเล่ต์เข้าไปเสียบเสาไกล นิวคาสเซิ่ลเหลือ 10 ตัวแต่ออกนำไปอีกครั้ง 2-1

นาทีที่ 62 ไอ้แบบนี้มันอยู่ไม่ได้จริงๆลิเวอร์พูลเลยต้องมีการปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นกันหน่อยด้วยการจัดส่งอัลแบร์โต้ลงไปเล่นแทนซาโก้ที่วันนี้ก็ถือว่าเขามีส่วนพลาดในการเสียประตูที่ 2 เหมือนกัน เพราะดันมองแต่บอลไม่มองคนซะงั้น

นาทีที่ 72 เป็นความสวยงามและสุดยอดการประสานงานของคู่หูคู่ใหม่ประจำทีมเสียจริงสำหรับซัวเรซและสเตอร์ริดจ์เมื่อหอกหม่อมกัดได้บอลทะลุขึ้นทางซ้าย ก่อนที่จะเลี้ยงเข้าเขตโทษแล้วตักบอลข้ามตัวครูลให้กับสเตอร์ริดจ์สอดเข้ามาได้จังหวะโขกเต้มหน้าผากส่งบอลเข้าประตู พร้อมการตีเสมอครั้งที่ 2 ของเกมวันนี้

อีก 3 นาทีต่อมา นึกว่าจะหายเสียบเข้าไปในตาข่ายซะแล้วสำหรับจังหวะนี้ของซัวเรซที่เติมเข้ามาในเขตโทษตั้งท่าง้างชาร์จรอบอลที่เพื่อนล้มตัวตวัดมาให้จากด้านข้าง ก่อนจะหวดมอลเล่ย์แบบเต็มเท้า บอลพุ่งผ่านทุกสิ่งอย่างไปหมดแล้ว แต่กลับเช็ดคานบอลเด้งออกหลังไปซะได้

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายนี่แทบจะเรียกว่าเป็นเกมของลิเวอร์พูลอยู่ฝ่ายเดียวเลยก็ว่าได้ เพราะพวกเขาเล่นบุกแบบไม่ให้นิวคาสเซิ่ลหายใจหายคอกันเลยทีเดียว แต่ก็ทำได้แค่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาเท่านั้นเอง ต้องดูว่าจะสามารถขึ้นนำได้ก่อนหมดเวลาหรือไม่

นาทีสุดท้ายสุดลุ้นระทึกเมื่อลิเวอร์พูลมาได้ฟรีคิกจากระยะน่ารักสุดๆ ก่อนที่ซัวเรซจะหลอกยิงที่เสาแรก แต่ครูลโชว์ความสุดยอดบินเซฟเอาไว้ได้ พร้อมกับเสียงเป่านกหวีดหมดเวลาของผู้ตัดสิน

จบ 90 นาทีลงด้วยสกอร์เสมอกันไป 2-2 สำหรับลิเวอร์พูลและนิวคาสเซิ่ลซึ่งต้องบอกว่าฝ่ายหลังทำได้ยอดเยี่ยมทั้งที่มีผู้เล่นน้อยกว่าร่วมครึ่งเกม ทำให้ลิเวอร์พูลได้เป็นจ่าฝูงเดี่ยวแต่ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้นเพราะอาร์เซน่อลชนะ

www.888scoreonline.net นำเสนอ ผลฟุตบอล อัพเดทรวดเร็วทันใจ